หนุ่มป่วยอัมพฤกษ์ครึ่งซีก เปิดร้านขายของชำหาเงินเลี้ยงครอบครัว โดนจับเข้าห้องขังทันทีหลังเจ้าหน้าที่พบค้าบุหรี่ปลอม ด้านน้องสาววิ่งโร่ยืมเงินชาวบ้านมาประกันตัว เพจดังถาม แบบนี้แรงไปไหม
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ทันข่าวชาวอุดร
วันที่ 10 พฤศจิกายน 2564 ช่อง 3 และ เพจทันข่าวชาวอุดร รายงานว่า นายเอ (นามสมมุติ) พ่อค้าร้านขายของชำ ซึ่งเป็นผู้ป่วยอัมพฤกษ์ครึ่งซีก ถูกส่งตัวเข้าเข้าห้องขังทันที หลังจากที่นายเอ ซึ่งเปิดร้านขายของชำ ค้าบุหรี่ปลอมในร้าน
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สรรพสามิต อุดรธานี ได้เข้าจับกุมนายเอ ได้แถวหมู่บ้านประปาเขต 7 และบอกว่านายเอมีความผิดฐานค้าบุหรี่ปลอม ไม่ติดอากรแสตมป์ มีความผิดตาม พ.ร.บ. ปี พ.ศ.2509 ม.19 ม.24 ม.50 จะต้องปรับ 50 เท่าของอากรแสตมป์ยาสูบ และส่งตัวไปดำเนินคดีทันที
ทั้งนี้ นายเอ อายุ 55 ปี กล่าวว่า ตนเป็นผู้ป่วยอัมพฤกษครึ่งซีก เนื่องจากเมื่อ 5 ปีก่อน ตนป่วยเป็นเส้นเลือดในสมองตีบจนเป็นอัมพฤกษ์ ไปไหนต้องใช้ไม้พยุงตัว พูดจาติดขัด ตนเปิดร้านของชำที่บ้านเพื่อหาเงินมาเลี้ยงดูแม่ เมื่อเย็นวานนี้มีคนมาตรวจสอบบุหรี่ที่ขาย ว่าใช่บุหรี่ปลอมหรือไม่ ตนไม่รู้มีคนเอามาให้ขายก็ขาย จับกุมเสร็จก็มาฝากขัง จนน้องสาวต้องมาประกันตัว
ด้าน น.ส.วิลาวัลย์ เพ็งพันธ์ เผยว่า ตนได้ไปยืมเงินคนอื่นมาจำนวน 50,000 บาท เพื่อมาประกันตัวพี่ชายที่เป็นอัมพฤกษ์ครึ่งซีก ไปไหนต้องใช้ไม้เท้าพยุงตัว เขาตกใจไม่หายหลังถูกจับเพราะไม่เคยถูกดำเนินคดี ไม่เคยเข้าห้องขัง ปกติพี่กับแม่จะอยู่บ้านกัน 2 คน หลังจากที่พี่ได้รับการประกันตัวและกลับบ้าน แม่ก็ถึงกับร้องไห้ออกมาเพราะพี่ไม่เคยโดนจับสักครั้ง
ในขณะที่เพจ Drama-addict บอกว่า กรณีนี้ควรกันนายเอให้เป็นพยานมากกว่า เพราะเขาคือรายย่อย ประชาชนทั่วไปแยกยากว่าอันไหนบุหรี่จริง บุหรี่ปลอม กันเขาไว้เป็นพยานแล้วตามหาต้นทางบุหรี่ปลอมจะดีกว่า