โอวา ธนาวัฒน์ กะเทยขายข้าว โต้นักวิชาการ อยู่บนหอคอยงาช้างจะไปรู้อะไร บอกราคาข้าวตก เพราะผลิตมากเกินจำเป็น ให้ไปทำอาชีพอื่น แต่มีปัจจัยมากมายที่ทำให้ชาวนาไปทำอย่างอื่นไม่ได้ ไม่ได้ปลูกข้าวจริงจะรู้อะไร มาฟังนี่ !

ถือเป็นปัญหาใหญ่ที่ทำให้ชาวนาต้องกุมขมับ เนื่องจากในปีนี้ราคาข้าวตกต่ำที่สุดในรอบ 10 ปี เหลือราคากิโลกรัมละ 5 บาท อีกทั้งยังประสบปัญหาน้ำท่วมไร่นาอีกหลายแห่ง ซึ่งนักวิชาการก็ออกมาพูดถึงการแก้ปัญหาในเรื่องนี้ผ่านทางคลับเฮ้าส์ด้วยเช่นกัน
ล่าสุด (10 พฤศจิกายน 2564) โอวา ธนาวัฒน์ จันนิม ชาวนาคนดังขวัญใจโซเชียล ผู้ที่ผันตัวจากคนทำงานในกรุงเทพฯ กลับมาเป็นเกษตรกรที่ จ.สุรินทร์ ได้โพสต์แสดงความคิดเห็นผ่านทางเฟซบุ๊ก โอวาข้าวหอมมะลิแท้สุรินทร์100% ถึงนักวิชาการว่า ตนได้นั่งฟังบรรดานักวิชาการบนหอคอยงาช้าง พูดทางแก้ราคาข้าวในคลับเฮ้าส์แล้วเกิดคำถามขึ้นในหัวมากมาย
ล่าสุด (10 พฤศจิกายน 2564) โอวา ธนาวัฒน์ จันนิม ชาวนาคนดังขวัญใจโซเชียล ผู้ที่ผันตัวจากคนทำงานในกรุงเทพฯ กลับมาเป็นเกษตรกรที่ จ.สุรินทร์ ได้โพสต์แสดงความคิดเห็นผ่านทางเฟซบุ๊ก โอวาข้าวหอมมะลิแท้สุรินทร์100% ถึงนักวิชาการว่า ตนได้นั่งฟังบรรดานักวิชาการบนหอคอยงาช้าง พูดทางแก้ราคาข้าวในคลับเฮ้าส์แล้วเกิดคำถามขึ้นในหัวมากมาย
นักวิชาการบอกข้าวราคาตก เพราะผลผลิตมากเกินจำเป็น ต้องให้ชาวนาปลูกอย่างอื่น

ทั้งนี้มีคนแสดงความคิดเห็นว่าให้ปลูกหลาย ๆ อย่าง บางอย่างเสียบางอย่างได้ สู้กันไป ถึงใครเขาไม่เหลียวแล นักวิชาการบางคนก็ทำอยู่แต่ในรั้วราชการ คงไม่เข้าไปถึงแก่นแท้ของชีวิตเกษตรกร ซึ่งโอวาก็ตอบกลับว่า ตนก็ปลูกถั่ว ปลูกแตง ปลูกข้าวโพด แต่ปัญหาหลักคือระบบน้ำ ระบบชลประทานมันเข้าไม่ถึง ต้องรอฟ้าฝนอย่างเดียว
นักวิชาการบอกให้เกษตรกรหันไปทำอาชีพอื่น

ราคาข้าวตลาดโลกถูกกว่าเรามาก เราสู้ไม่ได้
โอวาเสนอว่าให้ลด Fixed cost หรือต้นทุนลงเสีย เมื่อเพิ่มราคาไม่ได้ ก็พยายามหาวิธีลดต้นทุน ตนไม่ได้สนว่าราคาข้าวจะสูง-ต่ำเท่าไร แต่สนว่าจะขาดทุนไหม หักต้นทุนแล้วยังมีเงินเหลือไหม ปัจจัยอะไรที่ทำให้ต้นทุนสูง ซึ่งก็คือเครื่องยนต์การเกษตร สามารถลดภาษีนำเข้าได้หรือไม่ ไหนจะค่าปุ๋ยอีก
ที่สำคัญคือ น้ำมัน ประเทศนี้น้ำมันแพงกว่ารอบข้าง ใครได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันสูง ใครถือหุ้น หุ้นตกใครเสียผลประโยชน์ นักวิชาการกล้าพูดไหม ไม่ให้เผาซังข้าวเพราะ PM 2.5 แต่รู้หรือไม่ที่ชาวนาต้องการเผาไม่ใช่ซังข้าว แต่เป็นเม็ดหญ้า พอไม่เผาเม็ดหญ้า หญ้าก็เยอะ ชาวนาก็ใช้สารเคมี นักวิชาการก็มาด่าอีก ใช้สารเคมีไม่ได้ ไม่ดี ต้องไถกลบ พอไถกลบต้องใช้รถไถใหญ่ ค่าน้ำมันแสนแพง ค่าจ้างไถกลบสูงลิ่ว ชาวนาเริ่มขาดทุน จึงไปกู้หนี้ นักวิชาการก็มาด่าเรื่องหนี้ครัวเรือนอีก เป็นวังน้ำวนอยู่อย่างนี้

บ้านโอวานอกจากขายข้าวหอมมะลิแล้วยังมีชาวบ้านมาฝากส่งข้าวสาร อาหารแห้ง แม้แต่โอนเงินให้ลูกหลานที่ตกงานอยู่ใน กทม. น้ำพริกปลาร้า ขิง ข่า ไก่ปิ้ง ถูกส่งออกจากพ่อแม่ที่อยู่ที่บ้านต่างจังหวัดไปยังลูกของตนที่ดิ้นรนหาเงิน ทำงานอยู่ใน กทม. อย่างไม่ขาดสาย
ยอมรับว่าตอนโควิดที่ประชาชนหลายกลุ่มที่ยังคงดำรงชีวิตผ่านมาได้ เนื่องจากเกษตรกรที่เป็นเบื้องหลังคอยสนับสนุน เกษตรกรก็เหมือนกองหลังคอยสนับสนุน แต่คนไม่เห็นค่าเท่ากับกองหน้าที่ยิงประตูได้ พวกเขาอาจไม่ใช่คนที่ทำให้ GDP ประเทศสูงขึ้น อาจจะไม่ใช่อาชีพทำเงิน แถมหลายครั้งก็มีปัญหาบ้าง บางครั้งก็ถูกเอาไปยึดโยงการเมืองจนถูกด้อยค่า แต่เชื่อเถอะว่าเมื่อใดที่ประเทศนี้เจอวิกฤต ก็จะขอเป็นกองหลังคอยสนับสนุนทุกคน เพื่อวันใดที่ทุกคนมีแรงจะได้ลุกขึ้นและสามารถทำประตูสู่เส้นชัยได้
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก โอวาข้าวหอมมะลิแท้สุรินทร์100%