สาวเล่าประสบการณ์ช้ำ เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ ช่วยดูแลทุกอย่างหลังรู้ท้องไม่มีพ่อ อยู่ด้วยกันแม้ยามคลอด หารู้ไม่พ่อเด็กอยู่ไม่ไกล คือสามีของตัวเอง ช้ำในช้ำ ผัวตัวดีมีกิ๊ก 30 คน
![สาวใจสลายเหมือนถูกแทงข้างหลังเพื่อนซี้ท้องไม่มีพ่อ]( "สาวใจสลายเหมือนถูกแทงข้างหลังเพื่อนซี้ท้องไม่มีพ่อ")
นับเป็นเรื่องราวฝันร้ายในชีวิตสำหรับหญิงคนหนึ่ง ที่อยู่ ๆ ก็ต้องมาพบความจริงว่าถูกเพื่อนสนิทที่รักและไว้ใจหักหลัง แอบมีอะไรกับสามีของเธอจนถึงขั้นท้อง ซ้ำร้ายยังเป็นเธอเสียอีกที่คอยดูแลเพื่อนคนนี้ตลอดเวลาที่อุ้มท้องจนคลอด โดยไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยสักนิด
จากรายงานของเว็บไซต์เดลี่เมล เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2564 เผยว่า เฮลีย์ คัสเตอร์ วัย 28 ปี จากรัฐแอริโซนา สหรัฐฯ เป็นหนึ่งในผู้ติดยาที่ได้รับการบำบัด โดยเธอตัดสินใจเข้ารับการบำบัดหลังจากที่ได้รู้ว่าตัวเองตั้งท้องลูกคนแรกกับ ทราวิส โบว์ลิง สามีที่อายุมากกว่าเธอ 8 ปี ซึ่งเธอก็ทำได้สำเร็จและใช้ชีวิตสร้างครอบครัวกับเขา กระทั่งมีลูกด้วยกันถึง 3 คน
ขณะเดียวกันคัสเตอร์ยังมีเพื่อนสนิทอีกคนหนึ่ง ซึ่งที่ผ่านมาเธอก็สังเกตเห็นว่าเพื่อนสาวค่อนข้างจะสนิทสนมกับสามีของเธอเช่นกัน แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากนัก เพราะพวกเธอต่างก็เป็นคนที่มีเสน่ห์ดึงดูดและมักจะเล่นสนุกกันเสมอ
จนกระทั่งตอนที่เธอรู้ว่าเพื่อนสาวตั้งท้อง เธอก็ตัดสินใจจะยื่นมือเข้าช่วยเหลือเพื่อนคนนี้ เพราะรู้ดีว่าเพื่อนก็เป็นคนติดยาที่ไร้ทางไป เธออยากจะมั่นใจว่าเพื่อนจะได้รับการดูแลและใช้ชีวิตอย่างปลอดภัย ดังนั้น นอกจากจะเปิดบ้านต้อนรับเพื่อนสาวให้เข้ามาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน คัสเตอร์ยังคอยดูแลเพื่อนคนนี้ทุกอย่าง ทำหน้าที่แทนพ่อเด็ก ทั้งขับรถพาเพื่อนไปหาหมอตามนัด พาไปโรงพยาบาลตอนเจ็บท้องคลอด หรือแม้กระทั่งเข้าไปให้กำลังใจเพื่อนในห้องคลอด
คัสเตอร์ชี้ว่า เธอถึงขั้นสวมสายรัดข้อมือ "คุณพ่อ" ด้วยซ้ำตอนอยู่ที่โรงพยาบาล แม้แต่ตอนที่เพื่อนทำการบล็อกหลังเธอยังบอกด้วยว่าจะเป็นคนอาบน้ำครั้งแรกให้ทารกเอง
แต่แล้วเพียงไม่กี่วันหลังจากนั้น โลกของคัสเตอร์ก็แทบพัง เมื่อได้ทราบความจริงสุดช็อกว่าผู้ชายที่เป็นพ่อของเด็กคนนี้ ก็คือสามีของเธอเอง
โดยคัสเตอร์เล่าว่า หลังจากที่เพื่อนสาวสามารถออกจากโรงพยาบาลและกลับมาที่บ้านได้ เธอก็ช่วยเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เด็กคนนี้ ก่อนจะสังเกตเห็นความผิดปกติบางอย่างบริเวณคอของเด็ก ซึ่งเป็นลักษณะความผิดปกติทางพันธุกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ เช่นเดียวกับสามีของเธอ
"ฉันค่อนข้างคุ้นเคยกับมัน เพราะลูกชายคนโตของฉันก็มี" คัสเตอร์เผย และชี้ว่าลักษณะดังกล่าวคือการที่มีชิ้นส่วนของกระดูกอ่อนส่วนเกิน งอกออกมาบริเวณคอของเด็ก การที่ลูกของเพื่อนมีลักษณะดังกล่าวเช่นกัน ทำให้เธอรู้ทันทีว่าใครเป็นพ่อของเด็ก
![สาวใจสลายเหมือนถูกแทงข้างหลังเพื่อนซี้ท้องไม่มีพ่อ]( "สาวใจสลายเหมือนถูกแทงข้างหลังเพื่อนซี้ท้องไม่มีพ่อ")
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อความ
เธอยังจำความช็อกในตอนนั้นได้ดี และหลังจากไปเผชิญหน้ากับทั้งคู่เกี่ยวกับเรื่องนี้ เพื่อนรักก็ไม่พูดคำใด แต่ก้มลงมองพื้น ความเงียบงันนั้นเป็นคำตอบได้ดี
"ไม่ต้องมีคำพูดอะไรฉันก็รับรู้ได้ ฉันอยู่ในภาวะช็อก และเดินออกไปนอกบ้าน พร่ำภาวนากับตัวเอง" คัสเตอร์เผย ยอมรับว่าตอนแรกเธอรู้สึกตกใจมาก ทำไม่ได้แม้แต่จะคิดประมวลสรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ท้ายที่สุดแล้วสิ่งที่เธอทำก็คือคิดถึงลูก ๆ ของเธอ เพราะยังไงเสียทารกคนนี้ก็เป็นพี่น้องร่วมสายเลือดของพวกเขา เธอคงไม่มีวันกลายเป็นคนที่ทำร้ายเด็กคนนี้ได้ อีกทั้งเพื่อนคนนี้ก็ยังไม่มีที่ไป เธอจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะปล่อยให้เพื่อนคนนี้อยู่ที่บ้านต่อ
คัสเตอร์ยอมรับว่า แม้เธอจะหัวเสียแต่ก็ยังคงเป็นเพื่อนกับหญิงคนนี้ สุดท้ายเธอก็ต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันในบ้าน เพื่อนช่วยดูแลลูก ๆ ของเธอ และเธอก็ช่วยดูแลลูกของเพื่อน อาศัยอยู่ด้วยกันแบบนี้ ในขณะที่สามีตัวดีของเธออยู่ข้างนอกบ้านเป็นส่วนใหญ่ พ่อที่แท้จริงไม่เคยทำหน้าที่ของพ่อ ไม่มาอยู่ดูแลลูก ยังคงใช้ชีวิตแบบคนติดยา และไม่สามารถมารับผิดชอบชีวิตใครได้
มีไม่กี่ครั้งที่โบว์ลิงกลับมาบ้าน แต่แล้วเขาก็แสดงความหงุดหงิดใส่ทุกคน และทำร้ายร่างกายเธอกับเพื่อนทั้งคู่
ที่เลวร้ายไปยิ่งกว่านั้นคือ เธอทราบความจริงในที่สุดว่าตลอดชีวิตสมรสนานกว่า 6 ปี สามีแอบนอกใจเธอไปหาผู้หญิงถึง 30 คน
ทั้งนี้ คัสเตอร์ชี้ว่า ท้ายที่สุดเธอก็ต้องบอกกับตัวเองว่าเพื่อนสาวก็ตกเป็นเหยื่อเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนที่เพื่อนกำลังติดยา ก็คงจะยอมทำทุกอย่างเพื่อยา ในขณะที่สามีของเธอเป็นผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ เธอจึงพอจะเข้าใจได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น
คัสเตอร์ เผยว่าหลังผ่านเรื่องราวเจ็บปวดทั้งหมด ในที่สุดเธอก็สามารถให้อภัยตัวเองได้ เธอยอมรับว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นย่อมต้องมีเหตุผล เธอยังเป็นเพื่อนกับผู้หญิงคนนั้นอยู่ นอกจากนี้ทารกที่เกิดมาก็ยังคงเป็นพี่น้องกับลูกของเธอ เธอจึงไม่อยากเก็บความเกลียดชังไว้ในใจ และเลือกจะให้อภัย
อนึ่ง ในเวลาต่อมาคัสเตอร์ก็ได้แยกทางกับโบว์ลิง กระทั่งปัจจุบันเธอได้มีชีวิตใหม่ที่แสนสุข กับสามีคนใหม่แล้ว ขณะที่คัสเตอร์เองก็ได้รับกำลังใจอย่างมากจากผู้คนบนโลกออนไลน์ หลังออกมาเผยถึงชีวิตที่ผ่านมาและเรื่องราวที่เกิดขึ้น ผ่าน TikTok ของเธอ
ขอบคุณข้อมูลจาก
เดลี่เมล
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
นับเป็นเรื่องราวฝันร้ายในชีวิตสำหรับหญิงคนหนึ่ง ที่อยู่ ๆ ก็ต้องมาพบความจริงว่าถูกเพื่อนสนิทที่รักและไว้ใจหักหลัง แอบมีอะไรกับสามีของเธอจนถึงขั้นท้อง ซ้ำร้ายยังเป็นเธอเสียอีกที่คอยดูแลเพื่อนคนนี้ตลอดเวลาที่อุ้มท้องจนคลอด โดยไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยสักนิด
จากรายงานของเว็บไซต์เดลี่เมล เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2564 เผยว่า เฮลีย์ คัสเตอร์ วัย 28 ปี จากรัฐแอริโซนา สหรัฐฯ เป็นหนึ่งในผู้ติดยาที่ได้รับการบำบัด โดยเธอตัดสินใจเข้ารับการบำบัดหลังจากที่ได้รู้ว่าตัวเองตั้งท้องลูกคนแรกกับ ทราวิส โบว์ลิง สามีที่อายุมากกว่าเธอ 8 ปี ซึ่งเธอก็ทำได้สำเร็จและใช้ชีวิตสร้างครอบครัวกับเขา กระทั่งมีลูกด้วยกันถึง 3 คน
ขณะเดียวกันคัสเตอร์ยังมีเพื่อนสนิทอีกคนหนึ่ง ซึ่งที่ผ่านมาเธอก็สังเกตเห็นว่าเพื่อนสาวค่อนข้างจะสนิทสนมกับสามีของเธอเช่นกัน แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากนัก เพราะพวกเธอต่างก็เป็นคนที่มีเสน่ห์ดึงดูดและมักจะเล่นสนุกกันเสมอ
จนกระทั่งตอนที่เธอรู้ว่าเพื่อนสาวตั้งท้อง เธอก็ตัดสินใจจะยื่นมือเข้าช่วยเหลือเพื่อนคนนี้ เพราะรู้ดีว่าเพื่อนก็เป็นคนติดยาที่ไร้ทางไป เธออยากจะมั่นใจว่าเพื่อนจะได้รับการดูแลและใช้ชีวิตอย่างปลอดภัย ดังนั้น นอกจากจะเปิดบ้านต้อนรับเพื่อนสาวให้เข้ามาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน คัสเตอร์ยังคอยดูแลเพื่อนคนนี้ทุกอย่าง ทำหน้าที่แทนพ่อเด็ก ทั้งขับรถพาเพื่อนไปหาหมอตามนัด พาไปโรงพยาบาลตอนเจ็บท้องคลอด หรือแม้กระทั่งเข้าไปให้กำลังใจเพื่อนในห้องคลอด
คัสเตอร์ชี้ว่า เธอถึงขั้นสวมสายรัดข้อมือ "คุณพ่อ" ด้วยซ้ำตอนอยู่ที่โรงพยาบาล แม้แต่ตอนที่เพื่อนทำการบล็อกหลังเธอยังบอกด้วยว่าจะเป็นคนอาบน้ำครั้งแรกให้ทารกเอง
แต่แล้วเพียงไม่กี่วันหลังจากนั้น โลกของคัสเตอร์ก็แทบพัง เมื่อได้ทราบความจริงสุดช็อกว่าผู้ชายที่เป็นพ่อของเด็กคนนี้ ก็คือสามีของเธอเอง
โดยคัสเตอร์เล่าว่า หลังจากที่เพื่อนสาวสามารถออกจากโรงพยาบาลและกลับมาที่บ้านได้ เธอก็ช่วยเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เด็กคนนี้ ก่อนจะสังเกตเห็นความผิดปกติบางอย่างบริเวณคอของเด็ก ซึ่งเป็นลักษณะความผิดปกติทางพันธุกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ เช่นเดียวกับสามีของเธอ
"ฉันค่อนข้างคุ้นเคยกับมัน เพราะลูกชายคนโตของฉันก็มี" คัสเตอร์เผย และชี้ว่าลักษณะดังกล่าวคือการที่มีชิ้นส่วนของกระดูกอ่อนส่วนเกิน งอกออกมาบริเวณคอของเด็ก การที่ลูกของเพื่อนมีลักษณะดังกล่าวเช่นกัน ทำให้เธอรู้ทันทีว่าใครเป็นพ่อของเด็ก
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อความ
เธอยังจำความช็อกในตอนนั้นได้ดี และหลังจากไปเผชิญหน้ากับทั้งคู่เกี่ยวกับเรื่องนี้ เพื่อนรักก็ไม่พูดคำใด แต่ก้มลงมองพื้น ความเงียบงันนั้นเป็นคำตอบได้ดี
"ไม่ต้องมีคำพูดอะไรฉันก็รับรู้ได้ ฉันอยู่ในภาวะช็อก และเดินออกไปนอกบ้าน พร่ำภาวนากับตัวเอง" คัสเตอร์เผย ยอมรับว่าตอนแรกเธอรู้สึกตกใจมาก ทำไม่ได้แม้แต่จะคิดประมวลสรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ท้ายที่สุดแล้วสิ่งที่เธอทำก็คือคิดถึงลูก ๆ ของเธอ เพราะยังไงเสียทารกคนนี้ก็เป็นพี่น้องร่วมสายเลือดของพวกเขา เธอคงไม่มีวันกลายเป็นคนที่ทำร้ายเด็กคนนี้ได้ อีกทั้งเพื่อนคนนี้ก็ยังไม่มีที่ไป เธอจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะปล่อยให้เพื่อนคนนี้อยู่ที่บ้านต่อ
คัสเตอร์ยอมรับว่า แม้เธอจะหัวเสียแต่ก็ยังคงเป็นเพื่อนกับหญิงคนนี้ สุดท้ายเธอก็ต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันในบ้าน เพื่อนช่วยดูแลลูก ๆ ของเธอ และเธอก็ช่วยดูแลลูกของเพื่อน อาศัยอยู่ด้วยกันแบบนี้ ในขณะที่สามีตัวดีของเธออยู่ข้างนอกบ้านเป็นส่วนใหญ่ พ่อที่แท้จริงไม่เคยทำหน้าที่ของพ่อ ไม่มาอยู่ดูแลลูก ยังคงใช้ชีวิตแบบคนติดยา และไม่สามารถมารับผิดชอบชีวิตใครได้
มีไม่กี่ครั้งที่โบว์ลิงกลับมาบ้าน แต่แล้วเขาก็แสดงความหงุดหงิดใส่ทุกคน และทำร้ายร่างกายเธอกับเพื่อนทั้งคู่
ที่เลวร้ายไปยิ่งกว่านั้นคือ เธอทราบความจริงในที่สุดว่าตลอดชีวิตสมรสนานกว่า 6 ปี สามีแอบนอกใจเธอไปหาผู้หญิงถึง 30 คน
ทั้งนี้ คัสเตอร์ชี้ว่า ท้ายที่สุดเธอก็ต้องบอกกับตัวเองว่าเพื่อนสาวก็ตกเป็นเหยื่อเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนที่เพื่อนกำลังติดยา ก็คงจะยอมทำทุกอย่างเพื่อยา ในขณะที่สามีของเธอเป็นผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ เธอจึงพอจะเข้าใจได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น
คัสเตอร์ เผยว่าหลังผ่านเรื่องราวเจ็บปวดทั้งหมด ในที่สุดเธอก็สามารถให้อภัยตัวเองได้ เธอยอมรับว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นย่อมต้องมีเหตุผล เธอยังเป็นเพื่อนกับผู้หญิงคนนั้นอยู่ นอกจากนี้ทารกที่เกิดมาก็ยังคงเป็นพี่น้องกับลูกของเธอ เธอจึงไม่อยากเก็บความเกลียดชังไว้ในใจ และเลือกจะให้อภัย
อนึ่ง ในเวลาต่อมาคัสเตอร์ก็ได้แยกทางกับโบว์ลิง กระทั่งปัจจุบันเธอได้มีชีวิตใหม่ที่แสนสุข กับสามีคนใหม่แล้ว ขณะที่คัสเตอร์เองก็ได้รับกำลังใจอย่างมากจากผู้คนบนโลกออนไลน์ หลังออกมาเผยถึงชีวิตที่ผ่านมาและเรื่องราวที่เกิดขึ้น ผ่าน TikTok ของเธอ
