สาววัย 27 แจ้งความแต่คดีไม่คืบ หลังส่งรถซ่อมอู่แต่ถูกขโมยหาย สุดท้ายติดตามหาจนเจอเอง ชี้พิรุธอู่มีเอี่ยวหรือไม่ พบซ่อมเสร็จทิ้งกุญแจรถไว้แล้วไม่ปิดอู่จนถูกขโมย ซ้ำถูกตำรวจหาว่าวางแผนขโมยรถเอง
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
เมื่อวานนี้ (22 พฤศจิกายน 2564) ข่าวช่องวัน รายงานบทสัมภาษณ์ นางสาวพิมพ์ณภัส นวลหงษ์ อายุ 27 ปี เจ้าของรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นคัมรี่ สีขาว ทะเบียน 1กภ4366 กทม. หลังรถหายไปขณะส่งซ่อมในอู่ย่านบางบัวทอง จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 16 กันยายน แต่คดีกลับไม่คืบหน้าทั้งที่แจ้งความไปแล้ว โดยมีความสงสัยว่าทางอู่มีส่วนรู้เห็นด้วยหรือไม่
นางสาวพิมพ์ณภัส เปิดเผยว่า หลังเอารถไปซ่อม 1 เดือน ตนได้รับแจ้งจากอู่ว่ารถหาย เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม จึงเข้าแจ้งความ แต่คดีไม่คืบ ขณะที่ทางอู่ก็บ่ายเบี่ยงในการรับผิดชอบ หลังตำรวจเรียกมาเคลียร์โดยมีการนัดชดใช้ค่าเสียหาย แต่ทางอู่กับผิดนัดหลายครั้ง จนตนเองได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบรถถูกนำไปจอดขายที่เต็นท์รถมือสองย่านเกษตร-นวมินทร์ หลังมีการโพสต์ขอความช่วยเหลือตามกลุ่มเฟซบุ๊กต่าง ๆ
นางสาวพิมพ์ณภัส เปิดเผยว่า หลังเอารถไปซ่อม 1 เดือน ตนได้รับแจ้งจากอู่ว่ารถหาย เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม จึงเข้าแจ้งความ แต่คดีไม่คืบ ขณะที่ทางอู่ก็บ่ายเบี่ยงในการรับผิดชอบ หลังตำรวจเรียกมาเคลียร์โดยมีการนัดชดใช้ค่าเสียหาย แต่ทางอู่กับผิดนัดหลายครั้ง จนตนเองได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบรถถูกนำไปจอดขายที่เต็นท์รถมือสองย่านเกษตร-นวมินทร์ หลังมีการโพสต์ขอความช่วยเหลือตามกลุ่มเฟซบุ๊กต่าง ๆ
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
ตนจึงทำการติดต่อขอดูรถที่เต็นท์ดังกล่าว แล้วประสานตำรวจ สน.โคกคราม เพื่อทำการล่อซื้อ จนสามารถยึดรถกลับคืนมาได้ ซึ่งจากการตรวจสอบตำหนิต่าง ๆ ยืนยันว่ารถที่ประกาศขายคือรถของตนที่ถูกขโมยไป เบื้องต้นตำรวจได้เชิญตัวเจ้าของเต็นท์รถและนายมอส คนที่ประกาศขายรถทางเพจไปสอบปากคำเพื่อหาข้อเท็จจริง
ทั้งนี้ เพื่อนของนางสาวพิมพ์ณภัส เผยข้อพิรุธเกี่ยวกับอู่ซ่อมคู่กรณีว่า จากการตรวจสอบพบว่าหลังรถซ่อมเสร็จทางอู่เอากุญแจวางไว้ที่หน้ารถ และไม่ได้ล็อกประตูอู่จนทำให้รถหาย และเมื่อแจ้งความไปคดีก็ไม่คืบหน้า จนต้องสืบหากันเอง และรู้มาว่าทางอู่มีแบ็กใหญ่ พร้อมยืนยันว่าหลังรถหายยังไม่ได้รับเงินชดใช้แต่อย่างใด ได้เพียงเงิน 5,000 บาท เป็นค่าเสียเวลาในวันที่อู่ให้ไปรับรถของอู่มาใช้แทนในช่วงที่รถหาย
เบื้องต้นพบว่ารถมีการเปลี่ยนแปลงตัวเลขถัง และป้ายทะเบียน แต่ผู้เสียหายกลับถูกตำรวจ สภ.บางบัวทอง มองว่านางสาวพิมพ์ณภัส ซึ่งเป็นเจ้าของรถ วางแผนขโมยรถตัวเองหรือไม่ ทั้งที่เป็นผู้เสียหายแต่กลับถูกมองว่าเป็นผู้ต้องหาเสียเอง
ทั้งนี้ เพื่อนของนางสาวพิมพ์ณภัส เผยข้อพิรุธเกี่ยวกับอู่ซ่อมคู่กรณีว่า จากการตรวจสอบพบว่าหลังรถซ่อมเสร็จทางอู่เอากุญแจวางไว้ที่หน้ารถ และไม่ได้ล็อกประตูอู่จนทำให้รถหาย และเมื่อแจ้งความไปคดีก็ไม่คืบหน้า จนต้องสืบหากันเอง และรู้มาว่าทางอู่มีแบ็กใหญ่ พร้อมยืนยันว่าหลังรถหายยังไม่ได้รับเงินชดใช้แต่อย่างใด ได้เพียงเงิน 5,000 บาท เป็นค่าเสียเวลาในวันที่อู่ให้ไปรับรถของอู่มาใช้แทนในช่วงที่รถหาย
เบื้องต้นพบว่ารถมีการเปลี่ยนแปลงตัวเลขถัง และป้ายทะเบียน แต่ผู้เสียหายกลับถูกตำรวจ สภ.บางบัวทอง มองว่านางสาวพิมพ์ณภัส ซึ่งเป็นเจ้าของรถ วางแผนขโมยรถตัวเองหรือไม่ ทั้งที่เป็นผู้เสียหายแต่กลับถูกมองว่าเป็นผู้ต้องหาเสียเอง
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
ล่าสุด (23 พฤศจิกายน 2564) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 รายงานเพิ่มเติมว่า พล.ต.ต. ไพศาล วงษ์วัชรมงคล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี ได้มีการสั่งการให้ตำรวจ สภ.บางบัวทอง ที่เกี่ยวข้องกับคดีทั้งหมด ทำหนังสือชี้แจงและรายงานในวันนี้ (23 พฤศจิกายน) ว่าทำไมเจ้าของอู่จึงไม่ถูกดำเนินคดีในข้อหายักยอกทรัพย์ และทำไมตำรวจชุดสืบสวน สภ.บางบัวทอง จึงไม่ติดตามคนร้ายที่ขโมยรถไป แต่ปล่อยให้ผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้หญิง อายุ 27 ปี กับเพื่อน ๆ หาจนเจอรถเอง
ภาพจาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้
