x close

เดอะโกสต์ เปิดสายเล่าเรื่องหลอน ซื้อบ้านหรู ก่อนรู้มันคือบ้านผีสิง จะหนีก็ไม่ได้ สิ่งชั่วร้ายเกิดรายวัน


           เปิดเรื่องหลอนจาก The ghost radio ซื้อบ้านทำเลดี แต่อยู่ไปเจอเรื่องผวา กับพฤติกรรมแปลก ๆ จากเพื่อนบ้าน ก่อนจะเจอเหตุสยองไม่หยุด วิญญาณตามติดจนอยู่แทบไม่ได้

บ้านผีสิง

           เชื่อว่าการเลือกซื้อบ้านสักหลังนั้นเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญของแต่ละครอบครัว แต่จะเป็นอย่างไรหากบ้านที่ดูเหมือนจะปกติ แต่จู่ ๆ กลับมีเรื่องราวชวนสยอง จนอาศัยอยู่แทบไม่ได้

หนุ่มถูกใจบ้านในหมู่บ้าน ราคาดี เซลส์ลดให้เป็นแสน ของแถมเพียบ แต่หารู้ไม่ ฝันร้ายกำลังมาเยือน


           เรื่องราวนี้ถูกถ่ายทอดโดย คุณป๊อป ในช่อง The ghost radio เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2564 เล่าว่า เมื่อไม่นานมานี้ ตนอยากได้บ้านหลังใหม่ เป็นบ้านเดี่ยว ไว้อยู่สบายขึ้นในตอนเกษียณ ทุกช่วงเสาร์-อาทิตย์ จะขับไปดูบ้านตามโครงการต่าง ๆ อยู่ตลอด ช่วงเย็นนึกได้ว่ามีโครงการหนึ่งยังไม่ได้ไปดู จึงขับเข้าไปในเส้นทางลัด แต่รถไปเหยียบตะปูจนยางแบน จึงต้องหาจุดพักเพื่อเปลี่ยนยางรถที่หน้าหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ต่อมามี รปภ. เข้ามาช่วย จะให้เงินเป็นสินน้ำใจแต่ก็ไม่รับ จึงขอชื่อหมู่บ้านเพื่อจะส่งหนังสือชมเชยไปให้ พอได้ใบโครงการมาก็พบว่าหมู่บ้านนี้แม้จะเปิดมานานแต่ยังมีการขายบ้านที่สร้างใหม่อยู่เรื่อย ๆ จึงตัดสินใจจะมาดูบ้านในวันต่อไป

บ้านผีสิง
ภาพจาก TheghostradioOfficial

           วันรุ่งขึ้นได้มาดูบ้านที่หมู่บ้านดังกล่าว พบว่ามีบ้านหลังหนึ่งอยู่บริเวณต้นซอย แต่ยังไม่มีใครซื้อ ทั้งที่รอบ ๆ มีคนซื้อไปหมดแล้ว เมื่อเข้าไปดูในบ้านก็มีความรู้สึกอบอุ่น บวกกับทำเลดีมากจึงรู้สึกสนใจ พนักงานขายก็เหมือนอยากจะขายหลังนี้มาก เสนอลดราคาให้เป็นหลักแสน บวกของแถมหลายอย่าง เช่น ตั๋วเครื่องบินไปเที่ยว และติดแอร์ให้ด้วย จึงตัดสินใจซื้อบ้านนี้เลย แต่ตอนแรกยังไม่ได้ไปอยู่ จะแวะมาพักในช่วงเสาร์-อาทิตย์

           พอมาอยู่บ้านนี้สักพักได้รู้จักกับ คุณจอย เป็นเพื่อนบ้านอยู่ฝั่งตรงข้าม ซึ่งได้ถามว่า ซื้อบ้านหลังนี้ได้ยังไง เมื่อถามว่าบ้านหลังนี้มีอะไรหรือเปล่า คุณจอยเล่าว่า บ้านหลังนี้เคยจะมีคนมาซื้อหลายครั้ง เซ็นสัญญาแล้วด้วย แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เข้ามาอยู่สักที เช่น ธนาคารไม่อนุมัติสินเชื่อบ้าง หรือมีอุปสรรคต่าง ๆ ทำให้บ้านหลังนี้ว่างมานาน

จากบ้านหรูสวยงาม กลับเจอความแปลกของเพื่อนบ้าน ได้ยินเสียงแว่ว - โดนลากลงมาจากบันได


           หลังจากเข้ามาอยู่บ้านหลังนี้พยายามผูกสัมพันธ์กับเพื่อนบ้าน แต่พบว่ามีเพื่อนบ้านหลังติดกันมีพฤติกรรมแปลก ๆ ชอบเก็บตัวอยู่ในบ้าน บ้านปิดม่านทึบทั้งหลัง จะเห็นแค่ช่วงค่ำ ๆ ว่าเธอออกมาร้องเพลง หรือคุยอะไรตรงม้าหินอ่อนหน้าบ้าน เคยคุยกับเขาครั้งหนึ่ง ทราบชื่อว่าอ้อย เป็นคนสวย ดูไฮโซ มีรถหรู แต่เป็นคนค่อนข้างถือตัว พอคุยกันก็ถูกถามคำถามว่า ซื้อบ้านหลังนี้ได้ยังไง พร้อมกับบอกว่าบ้านหลังนี้ก็เคยอยากได้ถึงขั้นติดต่อซื้อมาแล้ว ตอนนั้นตนกำลังก้มเก็บเศษใบไม้อยู่ แต่ได้ยินเสียงแว่ว ๆ มาว่า "สักวันกูจะเอาบ้านหลังนี้คืน" แต่พอเงยหน้าขึ้นไปดูก็ไม่เห็นว่าเธอได้พูดอะไร

           หลังซื้อบ้านได้ 3 เดือน ก็เริ่มที่จะพาครอบครัวเข้ามาอยู่ที่บ้านนี้ช่วงเสาร์-อาทิตย์ แต่คืนแรกที่มาพักรู้สึกนอนไม่หลับ พอจะเคลิ้ม ๆ หลับได้ยินเสียงคนมาตะโกนโหวกเหวกโวยวายอยู่หน้าบ้าน จึงเปิดประตูระเบียงออกไปดู เห็นป้าแก่ ๆ อายุประมาณ 70-80 ปี หัวฟูกระเซิง ใส่เสื้อแขนยาวผ้าด้ายดิบทรงกระบอก นุ่งผ้าถุงสีดำผืนเก่า ๆ โวยวายอยู่หน้าบ้าน กิริยาของป้าแกคือ ถอดรองเท้าฟองน้ำข้างหนึ่งแล้วขว้างเข้ามาในบ้านจนมาโดนประตูกระจก ทำให้ต้องชี้นิ้วตะโกนไปว่า "เห้ย เดี๋ยวเหอะ !" จากนั้นป้าก็วิ่งหนีไป

           ตอนเช้าลงมาดูหน้าบ้าน เปิดประตูออกไปเจอคราบเลือดยาวเป็นทาง กลัวว่าลูกและแฟนมาเห็นจะตกใจ จึงรีบทำความสะอาด ระหว่างนั้นลูกสาวฝาแฝดของคุณจอยมายืนเกาะรั้วบ้าน คนหนึ่งชี้ขึ้นไปที่ระเบียงห้องนอนข้างบน แล้วเล่าว่า "คุณแม่เล่าให้ฟังว่าเมื่อคืนมีป้าแก่ ๆ คนหนึ่งปีนระเบียงบ้านคุณลุง" ส่วนแฝดอีกคนก็บอกว่า ป้าคนนั้นกระโดดมาตรงหน้าบ้านที่ตนกำลังถูพื้นอยู่ จากนั้นพอเหลือบไปมองข้างบนจึงเห็นว่ามีกิ่งมะม่วงจากบ้านคุณอ้อยยื่นล้ำเข้ามาในบ้านจนเกือบถึงหน้าต่างห้องนอน ที่ผ่านมาเคยบอกให้มาตัดหลายรอบแล้วแต่ก็เงียบไป กลัวว่าจะมีงูเลื้อยมา จึงตัดสินใจจะตัดกิ่งไม้นี้เอง

           พอยกบันไดจะปีนไปเลื่อยกิ่งไม้ ตนรู้สึกเหมือนมีคนกระชากอย่างแรงจนเสียหลักร่วงบันได ตอนแรกคิดว่าต้องเข้าโรงพยาบาลแล้ว แต่ปรากฏว่าไม่ได้เจ็บหนักเพราะเหมือนตกลงมาทับคน จึงมีแค่รอยถลอก กับไหล่เคล็ดเท่านั้น หลังตัดเสร็จตอนกลางคืนได้เปิดกลุ่มไลน์หมู่บ้านเห็นคุณอ้อยลงรูปกิ่งมะม่วงที่โดนตัด แล้วบอกว่าโกรธมาก จะเอาเรื่องนี้ไปประจานในเว็บพันทิป ด้วยความไม่อยากเป็นศัตรู จึงตั้งใจที่จะคุยและขอโทษกับคุณอ้อยในเรื่องนี้

บ้านผีสิง

ไม่ใช่แค่เพื่อนบ้านแปลก แต่ลูกเพื่อนบ้านยังหลอน ตามมาด้วยปริศนา เจอผีซ้าย-ขวา สวดไล่ไม่ไป


           ช่วงเย็นวันต่อมาจึงซื้อขนมคุกกี้ไปกะว่าจะไปผูกมิตร แต่พอไปกดกริ่งหน้าบ้านคุณอ้อยก็ไม่ออกมา มองไปในบ้านก็มองไม่เห็นเพราะบ้านทึบไปหมด ซึ่งผิดกับตอนกลางคืนที่บ้านหลังนี้จะเปิดไฟสว่างมาก ระหว่างนั้นมองไปเห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่ตรงม้าหินอ่อน คิดว่าเป็นลูกคุณอ้อย จึงตะโกนเรียก หนู ๆ คุณแม่หนูอยู่ไหม แต่เด็กก็นั่งไม่สนใจ จนต้องตะโกนถามหลายรอบ จากนั้นเด็กจึงมองมาด้วยสีหน้าไม่เป็นมิตร แล้วพูดกลับมาด้วยเสียงห้วน ๆ ว่า "มีธุระอะไร ?" ทำเอารู้สึกอึ้ง จึงบอกไปว่าฝากขนมให้คุณแม่ด้วยนะแล้วก็แขวนขนมไว้ตรงประตูรั้ว มองว่าจากนี้คงต่างคนต่างอยู่กับบ้านหลังนี้

           สัปดาห์ต่อมา ระหว่างเก็บกวาดสนามหญ้าเจอก้อนดินเหนียวสีดำ ขนาดเท่าหัวแม่มือ ตกอยู่ที่สนามหญ้า 2-3 ก้อน ก้อนนี้กลิ่นเหม็นมากเหมือนซากสัตว์ คิดว่ามันอาจจะมาจากตัวเงินตัวทองเอาซากสัตว์มากิน เลยเก็บเอาไปทิ้งนอกบ้าน ในช่วงหัวค่ำวันนั้นรู้สึกเหมือนจะเป็นไข้ เลยกินยาแก้แพ้แล้วก็นอน ระหว่างที่หลับรู้สึกเหมือนมีใครเอาเล็บมาสัมผัสตรงหน้าแข้งแล้วลาก จึงชักขาหนี แต่ลำตัวขยับไม่ได้ ขยับได้แค่ขากับผงกหัว ก่อนจะเห็นว่ามือที่โดนขานั้นเป็นแขนยาว ๆ ยื่นมาจากใต้เตียง ผิวหนังแห้งติดกระดูก ดำคล้ำ เล็บยาวและดำ

           นอกจากนั้นเมื่อมองไปที่มุมห้องด้านซ้ายและขวา เห็นสัมภเวสีเกาะอยู่ด้านละตัว ด้านซ้ายผมยาวปรกหน้า แลบลิ้นยาว ๆ ออกมา ส่วนตัวขวาหันหลังอยู่ไม่เห็นหน้า จึงตั้งสติสวดมนต์เท่าที่นึกได้ สวดไปสัมภเวสีก็ไม่หาย แถมยังสวดมนต์ตามอีกด้วย จึงนึกถึงพระเกจิอาจารย์ พยายามพูดชื่อท่านออกมาเท่าที่นึกได้ แต่สัมภเวสีก็ไม่หายไป ซ้ำยังหัวเราะใส่ จะลุกหนีก็ลุกไม่ได้ จึงเหลือทางเลือกคือ ตั้งสมาธิไม่รับรู้รับฟังสิ่งรอบตัว จากนั้นก็หลับไป โชคดีที่เจอเรื่องนี้แค่คนเดียวเพราะภรรยาและลูกนอนอยู่อีกห้องหนึ่ง

           เมื่อสังเกตว่า ทุกครั้งที่พาครอบครัวมานอนที่บ้านนี้ ตนจะรู้สึกไม่สบายและมีเหตุแปลก ๆ จึงขอครอบครัวว่าช่วงนี้จะมาบ้านหลังนี้แค่คนเดียวก่อน สัปดาห์ต่อมาสั่งโต๊ะหมู่บูชามาที่บ้านแล้วจัดห้องพระ นิมนต์พระมาทำพิธี พอผ่านไปสักพัก ตนไปเก็บกวาดสนามหญ้าก็เจอก้อนดินเหม็น ๆ อีกแล้ว ก็รู้สึกแปลกใจทั้งที่กั้นตาข่ายป้องกันตัวเงินตัวทองแล้วแต่ทำไมยังมีก้อนดินเหม็น ๆ แบบนี้อีก

บ้านผีสิง
ภาพจาก TheghostradioOfficial

เพื่อนบ้านไฮโซ ไป ๆ มา ๆ สภาพคล้ายผี อาเจียนออกมาเป็นคุณไสย เกิดอะไรขึ้นกันแน่


           ตกเย็นวันนั้นอาบน้ำนอน ก็รู้สึกอีกแล้วว่าเหมือนจะเป็นไข้ ด้วยความที่เพิ่งมีห้องพระใหม่จึงเข้าไปสวดมนต์อยู่หลายบท นั่งสมาธิ 1 ชั่วโมงแล้วก็แผ่เมตตา ก่อนนอนก็กินยา ระหว่างกำลังเคลิ้ม ๆ ก็สะดุ้งตื่นเพราะมีคนมาจับที่หน้าแข้งอีกแล้ว แต่คราวนี้ไม่ใช่สัมภเวสี เห็นเป็นผู้หญิงท้วม ๆ 3 คน ใส่ชุดรัดอก นุ่งผ้าถุง คนหนึ่งนั่งอยู่ที่พื้น อีก 2 คนนั่งมุมซ้าย-ขวา คนที่นั่งอยู่ที่พื้นนั่งนวดขาอยู่ แล้วยิ้มถามว่า "ถูกใจไหม ?" ตอนนั้นขยับตัวไม่ได้ จึงหลับตาแล้วทำสมาธิ ระหว่างนั้นเหมือนมีเสียงสวดมนต์ดังขึ้นมาในหัว ตนก็สวดตาม จากนั้นก็หลับไป

           ตื่นตอนเช้ามาวันอาทิตย์ เตรียมตัวจะไปวิ่งในหมู่บ้าน เห็นแท็กซี่มาจอดหน้าบ้านคุณอ้อย เห็นผู้หญิงคนหนึ่งเดินลงมาในสภาพไม่คุ้นตา มองไปสักพักก็คือคุณอ้อย แต่สภาพคือเปลี่ยนไปเยอะมาก ตัวผอมซูบ ผิวหมองคล้ำ ผิดกับที่เคยเห็นในครั้งแรก ที่แปลกคือแทนที่เธอจะเปิดประตูเข้าบ้าน แต่กลับปีนรั้วบ้านตัวเองเข้าไปในบ้าน ตอนนั้นก็สงสัยว่าทำไมจึงทำแบบนั้น แต่ความที่ไม่ค่อยถูกกันจึงไม่ได้ไปถามอะไร

           พอไปวิ่งกลับมาช่วง 8 โมงเช้า ปรากฏว่ามีคนมามุงหน้าบ้านคุณอ้อยเยอะมาก ทุกคนมองไปที่ระเบียงบ้านชั้น 2 แล้วก็ตะโกนว่า "ระวังตก ๆ" ภาพที่เห็นคือ คุณอ้อยเปิดประตูห้องนอนแล้วปีนขึ้นไปบนราวระเบียงอะลูมิเนียม แล้วกระโดดจากราวมาที่หลังคาโรงรถ แต่ไม่ได้ตกลงมาข้างล่าง ระหว่างนั้นปากของคุณอ้อยก็พูดไม่เป็นสำเนียง พูดเหมือนบ่นพึมพำ ๆ เพื่อนบ้านก็ตะโกนบอกทางให้ลงมาทางประตูรั้ว คุณอ้อยก็เดินแล้วโรยตัวลงมา เพื่อนบ้านก็ไปช่วยกันรับตัวลงมา พอได้เห็นใกล้ ๆ พบว่าเธอเปลี่ยนไปมาก จากที่สวย ตอนนี้ซูบผอม ผมรุงรัง เนื้อตัวเหม็นเหมือนไปตกบ่อเกรอะมา เล็บมือเล็บเท้าดำคล้ำไปหมด

           คุณอ้อยพอลงมาก็มานั่งที่พื้นถนนหน้าบ้าน กอดเข่าร้องไห้ใหญ่ตัวสั่น ก่อนจะจับมือเพื่อนบ้านแล้วบอก "ช่วยด้วย ช่วยอ้อยด้วย มันจะมาฆ่าอ้อย อ้อยกลัว" ระหว่างนั้นตนมองไปที่ม้าหินอ่อนหน้าบ้านคุณอ้อย เห็นลูกสาวคุณอ้อย นั่งสะพานกระเป๋าเป้ และกำลังร้องไห้ สักพักคุณอ้อยมองไปที่เด็ก แล้วลุกไปเกาะรั้ว ตะโกนด่าว่า "มึงไม่ใช่ลูกกู มึงออกจากบ้านกูไปเลย มึงเข้ามาสิงลูกกูทำไม จะมาฆ่ากูใช่ไหม" จากนั้นก็ไปหยิบอิฐขนาดเท่ากำปั้นปาไปที่ลูกสาว ดีที่เด็กหลบทัน ก้อนอิฐพลาดไปโดนกระจกแตกเสียงดัง ตอนนั้นทุกคนต่างตกใจกับการกระทำของคุณอ้อย จึงดึงตัวมาสงบสติอารมณ์ แต่คุณอ้อยก็ยังด่าลูกพูดไม่หยุดว่า "มึงไม่ใช่ลูกกู มึงออกไป"

           คุณจอย ได้เข้ามาถามคุณอ้อยว่า "ทำไมเธอเอาก้อนอิฐปากระจก แล้วรถหายไปไหน รถหลายล้านเลยนะขับออกไปอะ ทำไมไม่ขับกลับบ้าน นั่งแท็กซี่มาทำไม" คุณอ้อยส่ายหน้า บอกว่า จำไม่ได้ ไม่รู้รถอยู่ไหน ระหว่างนั้นมีหลวงตาเดินกลับจากบิณฑบาต คุณอ้อยเห็นก็วิ่งไปกราบหลวงตา แล้วพูดว่า "หลวงตา ๆ วันนี้หนูไม่ได้ใส่บาตร ขอถวายหลวงตาด้วยสิ่งนี้แล้วกัน" จากนั้นก็ล้วงไปในกระเป๋ากางเกง หยิบสิ่งหนึ่งใส่ไปในบาตรหลวงตา สิ่งนั้นคือก้อนดินเหม็น ๆ สีดำ แบบเดียวกับที่เจอบริเวณสนามหน้าบ้าน

สู่การไขปริศนา เดินเข้าไปในบ้านหรู ตกแต่งสวยงาม แต่ความหลอนอยู่ชั้น 2


           จากนั้น หลวงตา ท่านมองพิจารณาสิ่งที่อยู่ในบาตร แล้วท่านก็สวด "สัพเพ สัตตา" สวดแค่ประโยคแรกคุณอ้อยกรีดร้องเสียงดัง แล้วลุกขึ้นวิ่งไปตามถนน เพื่อนบ้านวิ่งตามไปจับก็เอาไม่อยู่ โดนทั้งถีบทั้งเตะ ต้องใช้ผู้ชาย 4-5 คน ถึงจะจับได้ ก่อนจะจับคุณอ้อยมัดไว้กับเสาโรงรถ ตอนนี้อาการคุณอ้อยไม่เหมือนเดิม ตาถลึงโปน หัวหมุนส่ายไปส่ายมา มือก็พยายามหมุนตลอดเพื่อจะดิ้นให้หลุด จากนั้น หลวงตา ขอให้หาเทียนและน้ำเพื่อทำน้ำมนต์ให้คุณอ้อยดื่ม พอคุณอ้อยดื่มเสร็จก็อาเจียนออกมา สิ่งที่ออกมาเป็นน้ำสีดำคล้ำ มีกลิ่นเหม็น คล้ายเป็นสิ่งปฏิกูลตามท่อน้ำ มีเศษผมต่าง ๆ เพื่อนบ้านช่วยกันล้างตัวทำความสะอาดแล้วเรียกรถมูลนิธิมารับตัว

           ต่อมาตำรวจมาสอบสวนเพื่อหาข้อมูล ตนก็บอกไปว่าไม่รู้ เพราะตนมาบ้านนี้แค่ช่วงเสาร์-อาทิตย์ ส่วนเพื่อนบ้านคนอื่น ๆ ก็บอกตรงกันว่า คุณอ้อยค่อนข้างจะเก็บตัว จากนั้นตำรวจจึงขอให้ตนและเพื่อนบ้าน เข้าไปในบ้านคุณอ้อยในฐานะพยาน เมื่อเข้าไปพบว่าบ้านตกแต่งไว้ดูมีฐานะ ติดแอร์ทั้งหลัง เปิดแอร์ไว้ทั้งวัน พอห้องนอนชั้นบนพบว่าข้าวของถูกรื้อกระจายไปหมด กระจกถูกทุบแตกทุกบาน ที่ผิดสังเกตมาคือหิ้งพระปกติจะต้องวางพระ แต่บนหึ้งมีรูปผู้หญิงคนหนึ่งวางอยู่แล้วมีการจุดธูปด้วย

           พอเข้าไปดูพบว่าเป็นรูปคุณอ้อย ที่ปากของรูปมีร่องรอยการทาสีผึ้งไว้ด้วย ใกล้กันมีรูปปั้นดินเป็นรูปคนสองคนมัดติดกันด้วยเชือกสีขาว มีก้อนดินสีดำวางทับอยู่บนรูป เป็นรูปผู้ชายเหมือนคนจีน กับผู้หญิงอีกคนหนึ่งแต่ไม่เห็นหน้าเพราะรูปโดนขูดไปทั้งแถบ ใต้หิ้งมีไม้แหลม ๆ ทำหัวคล้ายธนู แล้วหัวธนูพุ่งตรงไปที่บ้านของตน ตรงเสามีรอยรอยกรีดเต็มไปหมด จากนั้นคุณจอยก็มากระซิบบอกว่า ชายชาวจีนในรูปเป็นสามีคุณอ้อย เมื่อดูที่พื้นมีกรอบรูปร่วงแตกอยู่ เป็นรูปเด็กผู้หญิง จำได้ว่าคือลูกคุณอ้อย ตนจึงพูดกับคุณจอยว่า น่าสงสารนะ วันนี้เห็นน้องนั่งอยู่ที่ม้าหินอ่อนด้วย แม่ก็เอาก้อนอิฐขว้าง ดีนะที่น้องหลบทัน คุณจอยฟังแล้วก็ทำหน้าไม่ค่อยดี จากนั้นก็วางรูปลงแล้วก็เดินกลับบ้านไปเลย

           หลังเหตุการณ์นั้นคุณอ้อยถูกส่งไปโรงพยาบาล จากนั้นตนก็ไม่เจอคุณอ้อย และก็ไม่เจอก้อนดินสีดำหน้าบ้านอีกเลย แต่บ้านคุณอ้อยก็ยังเปิดไฟเหมือนปกติอยู่ ช่วงเย็นวันหนึ่งตนเห็นลูกสาวคุณอ้อยสะพายเป้มานั่งอยู่ตรงม้าหินอ่อนหน้าบ้าน เลยตะโกนถามว่า กินข้าวหรือยัง เด็กก็ส่ายหน้า ด้วยความสงสารเลยไปหยิบผัดไทยจะมาให้กิน แต่พอมาถึงเด็กไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว

บ้านผีสิง

ไขจบปริศนา ที่มาบ้านผีสิง จากความอิจฉาเพื่อนร่วมงาน สู่ชะตากรรมที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง


           หลายสัปดาห์ต่อมาก็เห็นมีช่างมาซ่อมบ้านคุณอ้อย ตนก็ถามไปว่าคุณอ้อยกลับมาแล้วหรือยัง ช่างก็งง บอกว่าไม่รู้จัก รู้แต่ว่าคุณมนูญเจ้าของบ้านจ้างให้มาซ่อมแซมบ้าน ในระหว่างที่ช่างกำลังขุดดินใกล้ม้าหินอ่อน ช่างอีกคนก็ตะโกนว่าเจออะไรอยู่ตรงนี้ แล้วก็ชูสิ่งหนึ่งขั้นมา คือกระเป๋าเป้สะพายหลังของนักเรียนฝังอยู่ตรงนั้น ตอนนั้นก็สงสัยมากว่าทำไมเอากระเป๋าลูกไปฝังดินแบบนั้น

           ช่วงสาย ๆ คุณจอย ก็มายืนรอจะคุยหน้าบ้าน ตนก็เข้าไปถามว่า คุณอ้อยออกจากโรงพยาบาลหรือยัง คุณจอย ก็บอกว่าออกไปนานแล้ว เพิ่งมาย้ายออกจากบ้านไปเมื่อสัปดาห์ก่อนนี้เอง แล้วเล่าให้ฟังว่า ก่อนหน้านี้เธอกับคุณอ้อยทำงานที่เดียวกัน เป็นพนักงานฝ่ายขาย ต่างคนต่างแข่งกันทำผลงานเพื่อจะขึ้นเป็นผู้จัดการ แต่ก็เกิดเหตุการณ์ที่เธอมักจะไม่สบายจนไปทำงานไม่ได้ ทำให้คุณอ้อยได้ตำแหน่งไป ต่อมาเธอได้แต่งงานกับสามีซึ่งเป็นวิศวกรของโรงงานและเป็นผู้จัดการโรงงานด้วย แต่คุณอ้อยก็ดูเหมือนจะอิจฉา เคยบอกว่า เธอเป็นคุณนายผู้จัดการโรงงาน ฉันก็จะเป็นคุณนายเจ้าของโรงงาน เจ้าของโรงงานคือคนจีน ระหว่างนั้นคุณอ้อยได้ไปสนิทสนมกับเจ้าของโรงงาน ทุกครั้งที่ไปหาลูกค้าต่างจังหวัดก็จะไปค้างด้วยกันบ่อยครั้งจนมีข่าวลือไม่ดีพูดอยู่เสมอ และต่อมาคุณอ้อยก็ได้ประกาศตัวเป็นภรรยาเจ้าของโรงงาน

           คุณจอย เผยว่า ตอนแรกเธอกับสามีจะซื้อบ้านหลังที่ตนอยู่ แต่พอถึงเวลาทำสัญญาก็ติดขัดไปหมด ทั้งสัญญา เอกสารต่าง ๆ จนท้อใจไปถามหมอดูว่าเมื่อไหร่จะได้บ้าน หมอดูบอกว่าบ้านนี้เขามีเจ้าของแล้ว ถ้าอยากได้บ้านลองเลือกบ้านฝั่งตรงข้าม จากนั้นทุกอย่างก็ราบรื่น พอถึงวันทำบุญบ้านใหม่คุณจอย คุณอ้อยกับสามีชาวจีนก็มาร่วมงานด้วย อาจจะรู้สึกเสียหน้าว่าตัวเองเป็นถึงเมียเจ้าของโรงงานแต่ทำไมกลับอยู่คอนโดหลังเก่า ๆ ข้างโรงงาน มองว่าบ้านคุณจอยอยู่ทิศใต้ ก็จะต้องข่มด้วยการซื้อบ้านทิศเหนือซึ่งอยู่ตรงข้าม จากนั้นก็โน้มน้าวสามีให้มาซื้อบ้านหลังนี้ เพื่อที่จะเรียกใช้งานคุณจอยได้ง่ายทั้งในและนอกเวลา

           เมื่อถึงวันนัดทำสัญญา ปรากฏว่าเมียของชาวจีนของเจ้าของโรงงานตามมาอาละวาดถึงสำนักงานขาย หลังก่อนหน้านี้สงสัยพฤติกรรมสามีจึงจ้างนักสืบสะกดรอยตาม จนทราบว่าจะมาซื้อบ้านวันนี้ จากที่จะได้เซ็นสัญญาซื้อบ้านกลายเป็นทะเลาะกันรุนแรง คุณอ้อยก็โกรธสามีมากที่หลอกว่าเมียที่เมืองจีนตายแล้ว จากนั้นก็แยกย้ายกันไป คุณอ้อยเสียหน้ามากจึงปล่อยข่าวว่ามีคนมาซื้อบ้านนี้ตัดหน้าไปแล้ว จึงไปซื้อบ้านหลังติดกันแทน แต่ก็เพิ่งมารู้ว่าบ้านหลังที่คุณอ้อยอยู่ ไม่ได้ซื้อแต่เป็นการเช่าอยู่

           คุณจอย เล่าอีกว่า หลังเกิดเหตุไม่ได้ซื้อบ้าน ทราบว่าคุณอ้อยไปจ้างคนทำคุณไสยใส่สามีชาวจีน จนได้ผลและสามีย้ายกลับมาอยู่ด้วย และนัดวันที่จะซื้อบ้านกันแล้ว แต่ระหว่างนั้นลูกที่จีนแจ้งว่าแม่ป่วยหนักให้กลับมาดูใจ สามีจึงบินกลับจีนไป ซึ่งในช่วงนั้นก็เป็นคุณป๊อบที่เข้ามาซื้อบ้านหลังนี้พอดี บวกกับระยะหลังโรงงานเริ่มมีปัญหาต้องปิดเพราะโควิด ไม่นานโรงงานของสามีคุณอ้อยก็ต้องปิดไป แล้วตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าคุณอ้อยหายไปไหน

           ส่วนเด็กหญิงที่เห็นนั้น เป็นลูกของคุณอ้อยกับสามีคนเก่า ในตอนที่ทำงานแรก ๆ สามีขี่รถไปรับลูกสาว แต่รถไปโดนบังโคลนสิบล้อเกี่ยวจนเสียหลักล้มเสียชีวิตทั้งคู่ หลังจากนั้นคุณอ้อยจึงเอากระเป๋าลูกมาฝังไว้หน้าบ้าน ตอนเย็นก็มักจะมานั่งคุยกับลูกบริเวณม้าหินอ่อนตลอด

           คุณป๊อบ เล่าว่า แต่สิ่งที่ยังไม่จบคือคุณไสยที่ถูกทำใส่บ้าน พอแก้ไปแล้วก็ถูกส่งมาใหม่อีก ล่าสุดเจอรังควานจนนอนไม่ได้ทั้งคืน เจอวิญญาณตามทั้งครอบครัว จนต้องไปทำพิธีกรรมไล่ผี ซึ่งขณะที่โทร. มาเล่านี้ยังอยู่ที่วัด ซึ่งเชื่อว่าสาเหตุที่บ้านหลังนี้ไม่เคยมีคนเข้ามาอยู่ได้อาจจะเพราะถูกทำเรื่องแบบนี้จากเพื่อนบ้านมาโดยตลอด



ขอบคุณข้อมูลจาก TheghostradioOfficial



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เดอะโกสต์ เปิดสายเล่าเรื่องหลอน ซื้อบ้านหรู ก่อนรู้มันคือบ้านผีสิง จะหนีก็ไม่ได้ สิ่งชั่วร้ายเกิดรายวัน อัปเดตล่าสุด 25 พฤศจิกายน 2564 เวลา 15:24:44 22,843 อ่าน
TOP