สรุปดราม่า พรีเวดดิ้งไม่ถูกใจ เจ้าสาวมือยาวเป็นแม่นาค ด้านสตูดิโอโต้กลับคืน คดีพลิกแรงเว่อร์ !


          สรุปดราม่า เจ้าสาวจ้างสตูดิโอถ่ายภาพ ได้รูปออกมาไม่ถูกใจ แขนยาว ขายาว แสงแข็ง ด้านสตูดิโอสวนกลับ คิดถูกเพราะอยากได้ผลงาน ให้ดูรูปหลังกล้องบอกโอเค แต่จู่ ๆ ก็ดราม่าบอกไม่โอเค ยังไงเนี่ย !

ดราม่าพรีเวดดิ้ง

          กำลังเป็นดราม่าร้อนระอุสุด ๆ เมื่อเจ้าสาวคนหนึ่ง อาชีพเจ้าของสวนกล้วยด่าง ได้ออกมาเผยว่าถึงประสบการณ์การจ้างเวดดิ้งสตูดิโอแห่งหนึ่ง ให้ถ่ายภาพพรีเวดดิ้งให้ โดยเป็นการจ้างด้วยเงิน 50,000 บาท แต่ประสบการณ์ที่ได้กลับทำให้เธอไม่ประทับใจ โดยเฉพาะภาพพรีเวดดิ้งที่ไม่สวย แต่สุดท้ายแล้ว ทางช่างภาพและเวดดิ้งสตูดิโอ กลับออกมาแย้งเป็นคนละทาง จนงานนี้ยากที่จะรู้ว่าใครผิดใครถูก

          วันที่ 26 พฤศจิกายน 2564 น.ส.อัจฉรีย์ เจ้าสาวและเจ้าของสวนกล้วย ได้โพสต์เฟซบุ๊กตำหนิการทำงานของช่างภาพคนหนึ่ง ที่เธออ้างว่าทำให้ภาพพรีเวดดิ้งของเธอพัง ต่อให้หน้าสวยแค่ไหน ชุดออกแบบดีแค่ไหน ช่างภาพพังทุกอย่างคือจบ เนื่องจากเธอจ้างเวดดิ้งสตูดิโอด้วยเงินกว่า 50,000 บาท แต่ปรากฏว่า ภาพพรีเวดดิ้งออกมาไม่เป็นอย่างใจ แสงแข็ง ทำให้ภาพเจ้าสาวออกมาเท้ายาว มือยาว และช่างภาพก็ไม่รับผิดชอบ ตนอาจจะไม่เข้าใจเทคนิคนี้ หรือเป็นเจ้าสาวที่เรื่องมากไป ตนพยายามติดต่อช่างภาพขอความรับผิดชอบ ขอให้ถ่ายแก้ใหม่และรับผิดชอบค่าใช้จ่าย แต่ช่างภาพไม่ยอม

ดราม่าพรีเวดดิ้ง

ว่าที่เจ้าสาว บอกเพิ่มเติม ช่างภาพหายกริบไม่ตอบอะไรเลย


          ทั้งนี้ ทางฝั่งเจ้าสาว คือ  น.ส.อัจฉรีย์ อายุ 32 ปี ได้ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมกับนักข่าวทีเอ็นเอ็น ว่า ตนได้นัดช่างภาพไปถ่ายภาพเมื่อวันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา เป็นการถ่ายกับชุดทั้งหมด 3 ชุด ใน 2 สถานที่ แต่เนื่องด้วยกลัวว่าชุดจะเสีย เลยเอาไปเผื่ออีกชุด รวมเป็น 4 ชุด

          สถานที่แรกคือ สวนยุ้ย พันยอด เป็นการถ่ายชุดราตรีสีแดงและชุดบ่าวสาว ส่วนอีกสถานที่คือหาดขนอม เก็บภาพตอนพระอาทิตย์ใกล้ตกดิน เป็นชุดสีแดงชุดเดียว การถ่ายภาพที่หาดขนอมนั้น มีปัญหาคือช่างภาพให้ใส่ชุดแดงลงน้ำด้วย แต่กลับได้ภาพแสงแข็ง ภาพมืด เท้ายาว หน้าเจ้าบ่าวมืด ไม่เก็บรายละเอียดให้ เช่น ลายสักเจ้าสาว ลายกล้วยด่าง ทั้งที่ตนไปชี้เอาว่าจะเอาต้นนี้ แต่พอถ่ายออกมากลายเป็นว่าไม่เจอความสวยของกล้วยด่าง ตนเดินทางไป 2,400 กม. เพื่อถ่ายรูป และผู้ช่วยช่างภาพก็เป็นแค่เด็กฝึกงาน

ดราม่าพรีเวดดิ้ง

          จากนั้น ทางบ่าวสาวได้หมั้นในวันที่ 5 พฤศจิกายน แต่ช่างภาพทำงานไม่ทัน เลยส่งมาให้เธอเลือกก่อนบางส่วน เธอเลือกไป 2 ภาพ แล้วภาพก็แต่งแล้วแต่งอีก รีทัชแล้วรีทัชอีก แต่ขนาดรีทัชเยอะแล้วยังไม่สวย ทางออแกไนเซอร์ต้องเอาไปให้คนอื่นรีทัชให้ และงานก็เสร็จก่อนวันหมั้นแค่วันเดียว นั่นทำให้เธอไม่สามารถเอาภาพไปใส่กรอบสวย ๆ ได้ ภาพหน้างานจึงเป็นกรอบลอย

          ซึ่งตลอดเวลาที่อยู่ที่นครศรีธรรมราช ตนและเข้าของสวนออกค่าใช้จ่ายเองทุกอย่าง ไม่ได้ติดต่อให้สตูดิโอพรีเวดดิ้งจ่าย สิ่งที่พรีเวดดิ้งทำได้ดีคือการแต่งหน้า แต่ชุดนั้นตนเป็นคนออกแบบเอง ตัดเย็บใหม่หมด ลดน้ำหนักมา 2 เดือน แต่สุดท้ายทุกอย่างก็พังเพราะภาพที่ออกมา แถมเธอยังไม่เคยได้รับคำขอโทษใด ๆ จากช่างภาพ โทร. หาก็ไม่รับสาย มีแต่มาคอมเมนต์ใต้โพสต์เท่านั้น

          อย่างไรก็ตาม หากช่างภาพต้องการติดต่อมาเพื่อพูดคุย เธอก็ยินดี จะมาเจอกันคนละครึ่งทางก็ได้ และยืนยันว่าเรื่องนี้ ไม่เกี่ยวกับเวดดิ้งสตูดิโอ แต่เป็นเรื่องของช่างภาพคนเดียว

ดราม่าพรีเวดดิ้ง

เวดดิ้งสตูดิโอ ชี้แจงอีกมุม ลดราคาเพราะอยากได้ผลงาน ให้ลูกค้าดูรูปหลังกล้องแล้วพอใจ จู่ ๆ กลายเป็นดราม่า


          ส่วนทางคุณตั้ม ทีมงานของเวดดิ้งสตูดิโอ ออกมาชี้แจงเพิ่มเติมว่า ตามสัญญา ทางบ่าวสาวได้มาว่าจ้างเวดดิ้งสตูดิโอในราคา 45,000 บาท ถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง 3 เซต และถ่ายภาพรวมเจ้าของสวนกล้วนอีก 1 เซต (อันนี้เป็นแพ็กเกจแถม) ซึ่งในแพ็กเกจนั้น รวมค่าแต่งหน้า ทำผม ตัดชุด ของทั้งเจ้าบ่าวเจ้าสาว ทั้งในวันหมั้นและวันแต่งงาน ส่วนช่างกล้องนั้นจ้างเป็นช่างภาพฟรีแลนซ์ 5,000 บาท และถามบ่าวสาวว่าโอเคไหมกับช่างภาพคนนี้ บ่าวสาวก็ตอบตกลง (ที่ทางเวดดิ้งสตูดิโอไม่มีช่างภาพประจำ เพราะต้องการได้งานที่หลากหลายตามใจลูกค้า)

          และเนื่องจากทางเวดดิ้งสตูดิโอเพิ่งเปิด คุณตั้มอยากได้ผลงานมากกว่า เลยให้ในราคาถูก คุณตั้มไปขับรถส่วนตัวของตัวเอง จากพิษณุโลกไปถึงนครศรีธรรมราช 2,400 กม. ออกค่าที่พัก ค่ากิน ค่าน้ำมันเอง และเวลาถ่ายเสร็จแล้ว ก็จะให้บ่าวสาวดูก่อนว่าโอเคไหม บ่าวสาวก็บอกว่าโอเค จะได้ไปถ่ายเซตอื่นกันต่อ

ดราม่าพรีเวดดิ้ง

          หลังจากที่ถ่ายภาพเสร็จ มานั่งทานข้าวกัน ก็มีการเอารูปมาดู ช่างภาพก็บอกว่าเดี๋ยวจะเอารูปไปแต่งอีก โอเคไหม ช่างภาพคุยกับบ่าวสาวว่าอยากได้แนวไหน สีแบบไหน บ่าวสาวก็โอเค ทุกอย่างก็โอเคและดำเนินไปได้ด้วยดี

          แต่สุดท้าย กลับกลายเป็นดราม่าขึ้นมา ตนเลยไปถามบ่าวสาวว่าตรงไหนที่ไม่โอเคบ้าง จะได้แก้และมาได้เห็นที่บาวสาวโพสต์ ช่างภาพโพสต์ เลยงงไปใหญ่

ดราม่าพรีเวดดิ้ง

ช่างภาพลงภาพดิบให้ตัดสิน ยืนยัน ที่จ้างคือได้แค่ 5,000 แต่จะเอางานระดับใหญ่


          ในขณะเดียวกัน ทางช่างภาพก็ออกมาโพสต์ให้เห็นถึงภาพดิบ ก่อนเข้าสู่ขบวนการรีทัช และให้คนดูตัดสินเอาเองว่าใครผิด พร้อมกับยืนยันว่า เงินที่ได้นั้นแค่ 5,000 บาท ไม่ใช่ 50,000 บาท อย่างที่เจ้าสาวอ้าง 

ดราม่าพรีเวดดิ้ง

คอมเมนต์ระบุ งานนี้มีคดีพลิก เจ้าสาวเลือกชุดสีแดงให้ตัดสีเขียว รีทัชสุด ๆ แค่ไหน ก็ได้แค่นั้นจริง ๆ


          ภายหลังจากที่เรื่องนี้เป็นดราม่าออกไป ก็พบว่ากลับมีคนเข้ามาให้กำลังใจช่างภาพและเวดดิ้งสตูดิโอกันล้นหลาม บางคนบอกว่าด้วยค่าจ้างที่ไม่แพง เงิน 5,000 บาทได้งานเท่านี้ก็ถือว่าดีแล้ว และการที่บ่าวสาวอยากให้รีทัชทุกรูป เป็นเรื่องยากมาก การจ้างงานด้วยเงินแค่นี้ต้องตกลงกันแล้วว่าอยากให้ปรับสีตรงไหน รีทัชกี่รูป

          นอกจากนี้ สิ่งที่หลายคนบอกว่าเป็นปัญหาคือ ชุดของเจ้าสาว ที่เป็นชุดสีโทนแดง และยิ่งทำให้ภาพมืด ชุดเด่นกว่าเจ้าสาว โดยเฉพาะโลเกชั่นดงกล้วย ที่เจ้าสาวเลือกชุดแดงเพื่อให้ตัดกับสีเขียวของดงกล้วย แล้วก็เป็นแสงเย็น จึงทำให้ชุดเด่น ไม่เด่นที่หน้าเจ้าสาว จะให้ปรับก็ยากเพราะจะกลายเป็นคริสต์มาส รีทัชให้ตาแตกอย่างไรก็ยากเพราะผิดตั้งแต่เลือกชุดแล้ว

          ทั้งนี้ พบว่าล่าสุด ทางฝ่ายเจ้าสาวได้ตัดสินใจลบโพสต์ออกแล้ว

ดราม่าพรีเวดดิ้ง

ดราม่าพรีเวดดิ้ง

ดราม่าพรีเวดดิ้ง

ดราม่าพรีเวดดิ้ง

ขอบคุณข้อมูลจาก ทีเอ็นเอ็น


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สรุปดราม่า พรีเวดดิ้งไม่ถูกใจ เจ้าสาวมือยาวเป็นแม่นาค ด้านสตูดิโอโต้กลับคืน คดีพลิกแรงเว่อร์ ! อัปเดตล่าสุด 26 พฤศจิกายน 2564 เวลา 12:04:52 315,496 อ่าน
TOP
x close