ทนายตั้ม เปิดปากสาเหตุเลิกทำคดี ลุงพล ลั่นหมดใจ เจอตอบกลับต้องหนักแน่น !

 

              ทนายตั้ม เปิดใจเล่าสาเหตุเลิกทำคดีให้ ลุงพล เจอเอาไปพูดกำกวมใส่ แถมเอฟซีลุงใส่ร้ายรับเงิน 10 ล้าน จนหมดใจจะทำแล้ว ด้านลุงพลสอนมวยต้องหนักแน่น


ลุงพล

             จากกรณีที่ ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด ประกาศถอนตัวจากคดีที่ ลุงพล ไชย์พล วิภา ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีน้องชมพู่ ด้วยเหตุผลว่าความเห็นไม่ตรงกัน รายการ โหนกระแส วันที่ 29 พฤศจิกายน 2564 สัมภาษณ์ ทนายรัชพล ศิริสาคร ทนายความ ตัวแทนทนายตั้ม ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น

พี่รัชพลก็เป็นทนายลุงพลด้วยเหมือนกัน ?

            รัชพล : ตอนแรกลุงพลให้ทนายตั้มทำ ทนายตั้มก็ดึงพี่อาคมมาและดึงผมมา มาบอกว่าให้ผมเป็นโฆษก เลือกคนได้ถูกมาก เรียกคนไม่ค่อยพูดมาเป็นโฆษก (หัวเราะ) แล้วบอกว่าเวลามีคดีหรืออะไรจากศาล ให้ผมเป็นคนแถลง ทางทนายตั้มหรือพี่อาคม ลุงพล ป้าแต๋นจะอยู่เงียบ ๆ ให้ผมแถลงคนเดียว ฉะนั้นเดี๋ยวคนจะสงสัยว่าทำไมทนายตั้มไม่มาแถลงเอง ช่วงแรกผมเป็นคนแถลงไปก่อน แล้วทนายตั้มมาโพสต์ในเพจอีกที

ทำไมเข้าแก๊งไหนหัวหน้าตายหมดก็ไม่รู้ จริง ๆ แล้วฝั่งลุงพล มีทนายกี่คนที่เตรียมเอาไว้ ?

            รัชพล : คดีน้องชมพู่ก็มีทนายตั้มเป็นหัวหน้าทีม เพราะลุงพลเป็นคนเลือก มีพี่โจ้ ทนายอาคม และตัวผม 3 คน

ทำไมอยู่ดี ๆ ถึงตอนตัว ถอนด้วยมั้ย ?


            รัชพล :  เมื่อหัวหน้าทีมถอน ลูกทีมก็ต้องถอนอยู่แล้วครับ จะให้ผมคาอยู่ เดี๋ยวลุงพลไม่จ้างผมทำไง (หัวเราะ) ผมก็ต้องถอนอยู่แล้ว

ลุงพล

มีการพูดคุยกันก่อนมั้ยหรือคุยผ่านเฟซบุ๊ก ?
            รัชพล :  ก็คุยกับทั้งทางลุงพลและทนายตั้ม พยายามอย่างที่สุดแล้ว ผมก็เคยบอกลุงพล เคยไปทางยูทูบช่องผมบอกว่าอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด เคยพูดทำนองถอนคดีไปก่อนหน้านั้นแล้ว ทนายตั้มก็คุยกับผมว่าอาจถอนคดีนะ ซึ่งผมยังไม่คิดเลยว่าเป็นเรื่องจริง เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ผมก็รู้สึกเสียใจ เพราะคดีนี้ไปไม่ถึงฝั่ง พอช่วงเช้าวันอาทิตย์ก็คุยเรื่องนี้อีก ทนายตั้มบอกว่าคงต้องถอนตัว ผมยังไม่แน่ใจถามอีกทีว่าเอาจริงหรือพูดเล่น ทนายตั้มบอกว่าจริง

สาเหตุเกิดจากอะไร  ทำไมถึงต้องถอน ?

            รัชพล :  อันดับแรก ทนายตั้มบอกว่าความเห็นไม่ตรงกันในทางคดี สองที่ทนายตั้มฝากมาคือเรื่องความประพฤติลุงพล ที่ปฏิบัติกับทนายตั้ม

ทำไม ลุงพลประพฤติไม่ดีเหรอ ?

            รัชพล :  ผมไม่รู้ว่าเขาเป็นยังไง ผมพยายามเคลียร์แล้ว ก่อนหน้านี้เราได้เห็นข่าวที่ภรรยาทนายตั้มมาโพสต์ ผมก็ไม่รู้ว่าเกี่ยวข้องกันหรือเปล่า ตรงนี้อาจต้องคุยกับเจ้าตัวเองดีกว่า เพราะเขาฝากมาได้แค่นี้

ไม่เกี่ยวกับเรื่องตัวคดี ?

            รัชพล :  คดีเราไม่เห็นเนื้อหา สำนวนอะไรเลย อัยการส่งเอกสารให้ศาล แต่เอกสารนั้นยังไม่ถึงมือทนายจำเลย ฉะนั้นเรายังไม่เห็นเนื้อหา

ลุงพล

ลุงพล

มีคนพูดว่าทนายตั้ม ทนายอาคม พอไปพิสูจน์ทราบแล้วเริ่มไม่มั่นใจว่าลุงพลมีส่วนหรือไม่มีส่วน ความมั่นใจหายไปเลยจะถอน ?

            รัชพล :  มันมีข่าวว่าพวกผมเห็นสำนวนแล้ว อาจเห็นว่าลุงพลทำผิดจริง หรืออาจเห็นว่ามีพยานหลักฐานมัดตัวลุงพลก็เลยถอน ซึ่งจริง ๆ เรายังไม่เห็นเอกสารเลยนะครับ วันนั้นเอกสารช่วงเช้าอัยการยื่น มี 4 แฟ้มใหญ่ ๆ ใครจะไปนั่งเปิดหมด ช่วงบ่ายศาลให้ทำสำเนาไปถ่ายเอกสาร ซึ่งช่วงบ่ายพวกผมก็กลับกันหมดแล้ว

วันนี้เห็นหรือยัง ?

            รัชพล :  ยังครับ ลุงพลไปรับจากศาล ก็ไม่รู้ลุงพลไปรับหรือยัง ก็ไม่มีใครเห็นในเนื้อหาคดี จะบอกว่าเห็นหลักฐานแล้วถอย ก็คงไม่ใช่ ไม่เกี่ยวกันเลย

ตอนทนายตั้มมาบอกว่าจะถอนเป็นทนาย เราแย้งมั้ย ?

            รัชพล :  ผมก็อึ้งเหมือนกัน ตอนแรกเขาไลน์มา เรามีไลน์กลุ่ม ผมก็ถามย้ำไป ทนายตั้มบอกว่าเอาจริง ๆ เพราะเขารู้สึกนอยด์ แต่ผมต้องบอกว่าความเห็นไม่ตรงกันเลยต้องถอนวันนี้ ไม่รู้วันหน้าความเห็นจะตรงกันหรือเปล่า ก็ต้องบอกไว้อย่างนี้

ลุงพล

เกี่ยวกับเรื่องเงินหรือเปล่า ?

            รัชพล : ทนายตั้มบอกตั้งแต่แรกว่าคดีนี้เขาทำฟรี ไม่คิดค่าใช้จ่าย อย่างตัวผมยอมรับเลยว่าผมไปก็ไม่ได้เรียกค่าใช้จ่าย หรือค่าจ้างจากลุงพล

ได้ตังค์มั้ย ค่าน้ำมัน ?

            รัชพล :  ผมไม่ได้เรียกค่าจ้างจากลุงพล เพราะเราเป็นทีมทนายตั้ม

ถ้าจะจ่าย ตั้มต้องจ่ายให้เหรอ ?

            รัชพล :  หลักการนิติสัมพันธ์ ทนายตั้มติดต่อผมมา ถ้าผมจะเรียกค่าจ้าง ต้องเรียกจากทนายตั้ม เพราะถือว่าทนายตั้มจ้างผม ไม่เกี่ยวกับลุงพล นี่คือหลักกฎหมายครับ ทนายตั้มเป็นต้องเป็นคนจ่ายแต่ถ้าทนายตั้มจะตกลงกับลุงพลให้ลุงพลเป็นคนจ่ายก็เรื่องของทนายตั้ม แต่ผมเรียกจากทนายตั้มอยู่แล้ว

ทนายตั้มเขาให้คุณมั้ย ?

            รัชพล : ยังไม่ได้คุยกันเรื่องนี้ ผมก็ไม่ได้เรียกจากทนายตั้มอยู่แล้ว

เอามั้ย ?

            รัชพล :  เอา (หัวเราะ)

ลุงพล

ลุงพล

ทนายตั้มต้องจ่ายเงินให้คุณเพราะเอามาช่วย ทนายตั้มไม่เอาเงินจากลุงพล ต้องควักเนื้อเอง ?

            รัชพล : ใช่ครับ คือการทำงาน อย่างตัวผมเองแบ่งคดี บางคดีไม่คิดเงิน เพราะเขาไม่มีเงินจ่าย จะไปคิดอะไรกับเขา

ทนายเดชาบอกผิดมรรยาททนายความไม่ใช่เหรอ ?


            รัชพล : เคสอย่างนี้หมายถึงประกาศว่าทำคดีฟรีให้กับทุกคน ไม่ใช่ว่าเคสใดเคสหนึ่ง ถ้าผมประกาศว่าใครอยากว่าความฟรีมาติดต่อผม ผมรับ อันนี้ผมผิด แต่ถ้าบางคดีบอกว่าเราทำฟรี อันนี้ไม่ผิด เขาหมายถึงทนายที่ประกาศทั่วไป อันนั้นผิดแน่นอน เพราะเขาไม่อยากให้คนเป็นทนายมาประกาศอย่างนั้น เพราะถ้าประกาศปุ๊บเดี๋ยวคนก็วิ่งไปหาเต็มไปหมด สุดท้ายถูกหลอก ก็เลยป้องกันไว้

ปกติแล้วคุณอยู่กับลุงพลมากกว่าทนายตั้ม ทำไมไม่บอกทนายตั้มว่าลองคุยกับลุงพล ?

            รัชพล : ผมพยายามคุยกับทั้งสองฝ่ายแล้ว ลุงพลเขามีแนวทางของเขา ทนายตั้มก็มีแนวทางของเขา ผมก็ยื้อไว้สุด ๆ แล้ว สุดท้ายก็เกิดเหตุการณ์แบบนี้ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ผมทำเต็มที่แล้ว

ในฐานะเป็นทนายให้ลุงพลมาได้สักพัก คิดว่าสู้ไหวมั้ย ?

            รัชพล : คดีมันไม่มีพยานหลักฐานที่ชัดเจน ผมเทียบเคส ผกก.โจ้ อันนั้นมีคลิปชัดเจนว่าใครเป็นคนทำ ทำยังไง แต่เคสลุงพลไม่มีพยานหลักฐานอย่างนั้น ส่วนตัวยังเชื่ออยู่ว่าลุงพลเป็นผู้บริสุทธิ์

ทุกอย่างยิ่งแย้งไปหมด หนึ่งทีมทนายตั้ม ทนายรัชพล ก็มั่นใจต่อสู้คดีได้ คดีนี้ถ้าพวกคุณชนะดังมาก เพราะสิ่งที่ชนะ คุณเอาชนะคำครหาคนอื่น ๆ ได้ สองคุณเอาชนะฝั่ง ผบ.ตร. เลยนะ ท่านก็เพ่งไปที่ลุงพลเลย ถ้าทีมทนายคุณชนะ คุณคือนัมเบอร์วันของประเทศ ทำไมเห็นช่องทางแล้วถึงทิ้ง ?

            รัชพล : ผมไม่ใช่คนตัดสินใจ แต่คดีนี้ต้องบอกว่าที่เข้ามาเพราะเราไม่อยากเห็นคนบริสุทธิ์ถูกจำคุก ตอนนี้ยังเชื่ออยู่ว่าลุงพลบริสุทธิ์ เพราะไม่มีพยานหลักฐานที่ชัดเจน อยากเข้ามาช่วย ส่วนการถอนตัวเป็นการตัดสินใจของทนายตั้มที่เป็นหัวหน้าชุด ถ้าทนายตั้มถอน ผมเป็นลูกทีมต้องถอนตามอยู่แล้ว

ลุงพล

อยู่ในสายกับทนายตั้ม คนติดต่อไม่ได้เลย หายตัวไป ?


            ทนายตั้ม : คุณหนุ่มติดต่อผมได้คนเดียวเลย

ตอนนี้ถอนแน่นอนแล้ว ?

            ทนายตั้ม :  อย่างที่ผมประกาศไป แล้วผมก็ได้ส่งข้อความไปบอกลุงพลแล้ว ทางป้าแต๋นก็ตอบรับทราบมาแล้ว เดี๋ยวคงไปถอนภายในอาทิตย์นี้ครับ

มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นทำไมถึงถอน เกี่ยวกับเรื่องเงินหรือเปล่า ?

            ทนายตั้ม : มันก็ส่วนนึง คือที่ผ่านมา ผมนอกจากโดนคนไม่ชอบลุงพลด่าตั้งแต่มาทำคดีแล้ว พอผมไปทำคดี ผมก็ไปเจอคนเป็นเอฟซีลุงพลด่าอีก เรื่องของเงิน เรื่องอะไร ผมก็ไม่เคยไปตอบโต้ ผมไม่จำเป็นต้องไปพูด แต่พอมาถึงจุดนึง มันก็เกินจะอดทน พูดตรง ๆ

หมายความว่าแฟนคลับลุงพลด่าทนายตั้มว่าไปเรียกเงินลุงพล ถูกมั้ย ?

            ทนายตั้ม : ก็คืออย่างนั้น เป็นการสร้างเรื่องมาเลย ว่าให้เงินผม 10 ล้าน ทำคดีกับลุงพลผมก็ออกเงินค่ารถ ค่าน้ำ ตอนหลังไปเครื่องบินไม่ไหวเพราะไปกันทีหลายคน ไปกันเป็นรถตู้ ค่าที่พัก ค่าอาหารอะไรก็แล้วแต่ แต่ค่าอาหารลุงพลเขาเลี้ยงอยู่แล้ว แต่ค่าที่พักลุงพลพิ่งออกให้ครั้งแรกคือไปล่าสุด แต่ก่อนหน้านี้ผมไม่เคยต้องไปรบกวนลุงพลเลย

ลุงพล

ทนายตั้มเคยคุยกับลุงพลมั้ย เคยขอมั้ยต้องมีค่าใช้จ่าย หรือลุงพลเสนอให้ เคยมั้ย ?

            ทนายตั้ม :  ไม่เคย เพราะตั้งแต่แรกแล้วก่อนผมทำคดี ผมขอพิสูจน์ 3-4 อย่างก่อนผมรับทำ ตอนนั้นผมคุยกับลุงพลว่าถ้าเป็นแบบนี้ผมไม่คิดเงิน ลุงพลก็บอกผมว่าตัวเขาไม่ได้มีรายได้เยอะ ที่ไปออกงานกับดาราก็ได้หลักหมื่นแต่ละครั้ง ผมก็เข้าใจ เห็นใจ บอกว่าไม่เป็นไร เพราะถ้าผมเรียกค่าทนาย ผมเรียกแพง เพราะมันไกล ก็เอาฟรีไปเลยดีกว่า ผมก็เข้าใจว่าลุงพลน่าจะเห็นคุณค่าตรงนี้ ผมถึงทำให้ด้วยความเต็มใจ ไม่เคยบ่นหรืออะไรเลย เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ

ทนายตั้มไม่สบายใจที่เวลามีคนถามลุงพลว่าจ่ายเงินให้ทนายตั้มหรือเปล่า แล้วลุงพลพูดว่าไม่มีอะไรในโลกที่เป็นของฟรี ?

            ทนายตั้ม : ใช่ครับ มันเป็นการพูดจาที่แอบว่า อ่าว พูดจาแบบนี้หมายความว่ายังไง กลายเป็นว่าผมบอกประชาชนไม่รับเงิน แล้วไปเอาเงินลุงพลหรือเปล่า ลุงพลไม่พูดให้เคลียร์ จนในที่สุดป้าแต๋นต้องออกมาพูดเองว่าตั้งแต่ผมมาเขาไม่เคยจ่ายเงินให้ผมเลย

ไม่เคยได้สักบาทเลย ?


            ทนายตั้ม :  ไม่เคยได้สักบาท มีคดีศาลอาญาเรื่องหมิ่นประมาท ผมก็ได้แค่ 5,000 บาท ลุงพลก็จ่ายแค่นั้นเอง

ทนายรัชพลบอกว่าต้องได้รับเงินจากทนายตั้ม ทนายตั้มควักเนื้อให้รัชพลเหรอ ?

            ทนายตั้ม : ใช่ครับ ถ้าพี่รัชพลคิดเงินจากผม ผมต้องจ่าย แต่พี่รัชพลเขาก็รู้ว่าผมไม่ได้เงินเขาก็ไม่คิดเงิน

เขาบอกเขาเอานะ ?


            ทนายตั้ม : ห้ได้ครับ (หัวเราะ)

ลุงพล

ทนายตั้มเคยพูดคำนึงว่าถ้าเมื่อไหร่รู้ว่าลุงพลผิดจริง ทนายตั้มจะถอน วันนี้ทนายตั้มถอน คำนั้นย้อนมาทันที ?

            ทนายตั้ม : ผมขอประกาศตรงนี้เลยนะครับ ผมยังไม่เคยไปให้สัมภาษณ์ที่ไหนหลังบอกว่าจะไม่ทำคดีให้ลุงพล เพราะผมให้เกียรติลุงพล แต่อันนี้ผมเกรงใจคุณหนุ่ม ยังไงก็ต้องโฟนในรายการโหนกระแสแหละ เรื่องนี้ที่เคยบอกว่าถ้าลุงพลทำผิด แล้วผมจะออกทันที การออกครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องว่าผมไปรู้ว่าลุงพลทำผิดเลย อันนี้เกี่ยวกับผมและลุงพลล้วน ๆ ไม่เกี่ยวกับเนื้อหาคดี เป็นเรื่องความรู้สึกล้วน ๆ เลยครับ ระหว่างผมกับลุงพล

          วันนั้นหลังขึ้นศาล ผมยังคุยสนุกสนาน ยังวางแผนว่าใครทำหน้าที่ยังไง มอบหมายหน้าที่กัน และบอกให้ลุงพลไปคัดถ่ายเอกสารมา เพราะวันนั้นผมไม่ได้อยู่รอรับเอกสาร เอกสารเยอะมากมันไม่ได้วันนั้นหรอก วันรุ่งขึ้นลุงพลก็ไม่ได้รับเอกสารเลย ลุงพลไปถ่ายเอกสารมาทั้งหมด 4 ชุด ให้ทางด้านหมอ 1 ชุดที่จะมาดูแลเรื่องวิทยาศาสตร์ ดีเอ็นเออะไรให้ วางแผนเรียบร้อย ไม่มีความคิดตอนนั้นเลยว่าจะออกจากการเป็นทนายความ

ลุงพล

มีสาย ลุงพล เข้ามา ลุงพลทราบเรื่องแล้วว่าทนายตั้มถอนตัว ?

             ลุงพล : รู้เมื่อวานครับ

สรุปเรื่องนี้ทราบมั้ยว่าสิ่งที่พูดไปบางเรื่อง หรือแฟนคลับทำให้ทนายความหรือคนช่วยเหลือลุงพลเริ่มไม่ไหว เริ่มเบี่ยงตัวออกแล้ว ?

             ลุงพล : จริง ๆ แล้วทนายตั้มต้องหนักแน่นนะครับ จะไปแคร์คำพูดของคนอยู่รอบนอกมันก็ไม่ถูกนะครับ

เขาได้ยินจากปากลุงพลเอง อย่างมีคนไปถามลุงพลว่าจ่ายเงินให้ทนายตั้มไปเท่าไหร่ ลุงพลตอบว่าของฟรีไม่มีในโลก คือกำกวม ?

             ลุงพล : วลีพวกนี้ผมก็ไม่ทราบว่าเขาเอาไปใช้ในเทศกาลอะไร ผมไม่ทราบครับ

ลุงพลไม่ได้พูดคำนี้เหรอ ?

             ลุงพล : ผมยังไม่เคยพูดกับทนายตั้มเลยนะครับ

พูดกับคนอื่น ?

            รัชพล : เวลาคนถามค่าจ้าง ลุงพลบอกว่าให้ไปถามทนายตั้ม

             ลุงพล : ค่าจ้างเรื่องอะไรครับ ค่าจ้างผมก็บอกพี่รัชพลว่า ทนายตั้มก็พูดชัดเจนอยู่แล้ว ทนายตั้มพูดผ่านสื่อตลอดเวลาอยู่แล้ว ผมก็พูดประมาณนี้ พูดกับทนายรัชพล เพราะพี่ทนายรัชพล มีการไลฟ์ แล้วไปพูดพาดพิงถึงพระรูปนึง ผมว่าประเด็นมาแค่ตรงนั้น

เวลาคนถามลุงพล ลุงพลจะตอบแบบกำกวม จะพูดเช่น บอกว่าทุกอย่างในโลกต้องใช้เงินทั้งนั้นแหละ มันเหมือนกับว่าสุดท้ายทีมทนายความที่ทำให้ฟรี ?

             ลุงพล :  กรณีล่าสุดที่ทนายตั้มเดินทางไป ป้าแต๋นก็ได้ออกค่าใช้จ่ายค่าที่พักนะครับ ได้คุยกับทนายตั้มล่วงหน้าแล้ว ว่าถ้าเดินทางมามุกดาหาร เพื่อทำคดีนี้ ถ้าทนายตั้มต้องการที่พัก เพราะต้องอยู่เป็นเดือน พวกผมก็เตรียมการหาที่พัก ลุงกับป้าก็เตรียมการ ต้องออกค่าใช้จ่ายเอง เท่าที่คุยกับทนายตั้มก็อยู่ประมาณนี้ ต้องคุยไปทีละสเต็ป เพราะว่าผมยังไม่รู้ว่าทิศทางการทำงานของทนายตั้ม จะทำงานไปรูปแบบไหน ผมก็เคารพการตัดสินใจของทนายทุกคนอยู่แล้ว ที่ทำคดีให้ผม

เขาทำขนาดเอาตัวไปแลก โดนด่าเละเทะ ยังไม่รู้ทิศทางอีก ?

             ลุงพล : ผมได้เกริ่นกับพี่หนุ่มแล้ว ว่าคนอยู่รอบนอก ทนายตั้มต้องหนักแน่นพอครับ ถึงจะทำคดีนี้ได้

ลุงพล

อยากฝากอะไรทนายตั้ม ?

             ลุงพล : เมื่อกี้ผมก็ฟังทนายตั้มอยู่ เพราะเป็นรายการสด ผมก็อยากให้ทนายตั้มหนักแน่น ให้สมกับที่ตั้งใจเข้ามาทำคดีให้ผม แต่ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าปัญหาเกิดอะไรขึ้น ที่อยู่ ๆ ก็มาถอนตัว โดยที่ผมยังไม่ได้พูดคุยกับทนายตั้มเลย วันก่อนประกาศถอนตัวผมโทร. หาทนายตั้มตั้ง 3 รอบ ทนายตั้มไม่รับโทรศัพท์ผมเลย อยากถามว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมจู่ ๆ พี่ทนายรัชพลบอกว่า จะถอนตัวงั้นงี้ ผมก็ไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น

ทนายตั้มอยากพูดอะไรมั้ย เขาว่าทนายตั้มไม่หนักแน่น ?

            ทนายตั้ม :  ผมก็พูดไม่ออกครับ

ลุงพลมีทนายความคนใหม่หรือยัง ?

             ลุงพล :  ยังไม่มีครับ ผมกำลังปรึกษากับทางป้าแต๋นอยู่ครับ

ทนายคลายทุกข์ ทนายเดชา เอามั้ย ?

             ลุงพล : จุ๊กกรู้นั่นเหรอครับ ผมไม่ทราบครับ

เรื่องนี้ฟังแล้วก็พอจะเข้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทนายตั้มมองว่าเราบริสุทธิ์ใจ แต่ปัญหาเกิดจากคนรอบข้างทั้งนั้น ?

            ทนายตั้ม : ถ้าผมเอาเหตุผลไปสวนกันว่าลุงพลเคยพูดอย่างนี้หรือเปล่า เดี๋ยวจะกลายเป็นว่าผมที่เป็นทนาย เอาทัวร์ไปลงลุงพลอีก มันก็ไม่เหมาะ จริง ๆ ก็ไม่ได้อยากออกสื่อให้สัมภาษณ์ ผมไม่อยากออกมาพูดเลย เพราะเวลาผมพูด ผมพูดตรง ผมไม่ได้เกลียดลุงพลนะ บอกก่อน แต่อย่างที่พี่รัชพลให้สัมภาษณ์ การที่เขาแสดงออกกับเรา เขาเห็นคุณค่าของเราหรือเปล่า ถึงขนาดผมกับครอบครัวต้องโดนด่า ถ้าลุงพลเห็นคุณค่าจะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเลย

ลุงพล

ลุงพล

ล่าสุดคุณลงรูปบัญชี ?

            ทนายตั้ม : มีคนบอกว่ามีการโอนเงินให้มูลนิธิผม 10 ล้าน ผมบอกก่อนเลย มูลนิธินี้ผมเป็นเลขาธิการจริง แต่ผมไม่มีอำนาจในการเบิกจ่าย มันอยู่ที่กรรมการ เงินนี้เริ่มเปิดบริจาคเอฟซีลุงพล ตั้งแต่ 22 มกราคม ตั้งแต่นั้นจนถึงวันนี้ มีเงินเข้ามา 1.5 แสน ตามบัญชีนั้นเลย แต่มีการมาบอกว่าให้ผมเป็น 10 ล้าน แล้วลุงพลกับป้าแต๋นพูดกำกวมเหมือนกับว่าของฟรีไม่มีในโลก เอฟซีคนไหนโอนให้ทนายตั้มหรือเปล่าเราก็ไม่รู้นะ แล้วมันเสีย มันเสียใจด้วย เราทำให้ขนาดนี้ ไม่อยากพูดให้มันยาวดีกว่า

คนมองว่ามีผลประโยชน์ไปเรียกเงินหลักหลายล้าน คนมองตั้งแต่แรก ว่าทนายตั้ม มีผลงานเยอะแยะมากมาย ทำไมวันนี้โดดมาลงเรื่องนี้ ผมโทร. หาทนายตั้มเป็นคนแรก ๆ ว่าทำไมมาทำเรื่องนี้ ?


            ทนายตั้ม : ใช่ครับ คุณหนุ่มและเพื่อนอีกหลายคน ตั้งแต่ตอนผมตัดสินใจทำคดีนี้ ผมต้องขอบคุณทุกคนในความหวังดี แต่จุดนึงที่รับทำคดีและโดนทั้งก้อนหิน ทะเลาะกับตำรวจทะเลาะกับ ผบ. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพราะตอนนั้นผมมองเห็นเลยว่าจริง ๆ เรื่องราวเป็นยังไง ผมก็มีข้อมูลของผม ผมก็มั่นใจว่าคดีนี้ลุงพลคงไม่แพ้คดี

เรื่องนี้ถ้าเกิดทนายตั้มทำไป แล้วเห็นทิศทางเอาชนะได้ เพราะเห็นว่าลุงพลไม่ได้ผิด ถ้าจบเรื่องไป คุณจะดังระดับประเทศ เป็นทนายความที่ดังมาก เพราะหนึ่งเอาชนะคำครหาคนที่เขาค้าน ไม่อยากให้ทำเรื่องนี้ สองคุณเอาชนะ ผบ.ตร. ได้ด้วย จะดังกระฉ่อน ทำไมวันนี้ไม่เอาแล้ว จบเรื่องนี้ ?

            ทนายตั้ม : เวลาผมจะทำคดี ผมต้องมีแพชชั่นด้วย มีอารมณ์อยากทำเพื่อคน ๆ นี้ แต่วันนึงผมหมดใจ ผมก็ไม่อยากทำต่อ ถึงแม้รู้ว่าทำต่อไปอนาคตจะเป็นยังไง แต่มันไม่มีอารมณ์ ไม่มีใจแล้วไงครับ

ลุงพล

ลุงพล

ไม่เกี่ยวกับหมอปลา เห็นเขาลือว่าสนิทกับหมอปลา เลยไม่เอาทางนี้ ?

            ทนายตั้ม : หมอปลาผมก็เพิ่งมาสนิทตอนมาทำคดีให้ลุงพล เรามีการติดต่อกันเป็นพัก ๆ หลังเขามาคุยกับผมที่บ้าน เขาก็เข้าใจเหตุผล ต่างคนต่างเป็นผู้ใหญ่แล้ว เขาไม่มาละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัว หมอปลาทำเรื่องอะไร ผมก็ไม่เคยไปวุ่นวายกับเขา คดีนี้ก็เหมือนกัน ถึงเขาไม่ถูกกับลุงพล เขาก็ไม่เคยมาบอกผมว่าไม่ต้องมาทำหรอก เขารู้แน่ว่าถ้าผมจะทำ เขาก็ไม่มีสิทธิ์ทำยังไงให้ผมทำได้

คำถามสุดท้าย คุณกลัวมั้ย คุณถอนคดีนี้ไป จะทำให้คู่กรณีอย่างอัจฉริยะ รู้สึกว่าเขาชนะ ?

            ทนายตั้ม : ไม่หรอกครับ ผมว่ามันต้องไปดูที่ผลคดี ต้องไปดูที่จุดจบของผลคดีว่าคดีนี้ท้ายที่สุดลุงพลแพ้หรือชนะ ไม่ใช่ผมถอนแล้วเขาจะชนะ เพราะผมถอนไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเขาเลย เรื่องนี้อย่างที่บอกไม่มีพยาน ไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ เรื่องนี้ต้องไปสู้กับหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ดีเอ็นเอก็ตัดทิ้งเพราะพิสูจน์ไม่ได้ สู้อย่างเดียวคือซินโครตรอน ถ้าทนายใหม่ลุงพลหาข้อโต้แย้งตรงนี้ได้ คดีก็ควรออกไปตามที่ควรจะเป็น ถ้าเอาไปเกี่ยวเขาจะสำคัญตัวผิดไป ที่ผมรับทำคดีนี้ ผมสู้กับทางตำรวจนะครับ

ล่าสุดคุณลงตอน 10 โมงกว่า ๆ หมายถึงอะไร ทนายแก่เอาแต่สาระแนเรื่องชาวบ้าน ?

            ทนายตั้ม : ผมก็รำคาญ เพราะทุกเรื่องที่ผมทำผ่านสื่อ เขาต้องมายุ่งตลอด พูดแบบหยาบ ๆ เลย คดีที่เขาทำผมไม่เคยเสือกสักเรื่องเลย แต่พอผมออกมา เขาต้องมายุ่งตลอด ผมจะทำคดีให้ใครฟรีก็ไปร้องมรรยาทผม ไปร้องแล้วด้วยนะ คดีนี้ผมมั่นใจว่าไม่ผิดมรรยาท วัตถุประสงค์ของมรรยาท คือต้องประกาศว่ามาเลย มาปรึกษา เดี๋ยวจะทำคดี เพื่อให้หลายคนเข้ามา แต่อันนี้ผมคุยกับลุงพลแล้ว และนักข่าวถามผมแล้วว่าลุงพลเสียเงินหรือเปล่า ผมก็ตอบไปว่าผมไม่ได้คิดเงิน ผมตอบไปตามเนื้อผ้า ทนายแก่คนนี้ไปฟ้องเรื่องมรรยาท และไปฟ้องคดีแพ่งที่ศาลมีนบุรี เรียกเงินผม 1 ล้านบาท ศาลยกฟ้องไป ผมก็ไม่ไปโพสต์เลยว่าคดีแรกก็แพ้แล้ว เพราะผมเห็นว่ามันเป็นเรื่องกิ๊กก๊อก เด็ก ๆ มาฟ้องกัน

ลุงพล

ลุงพล

คดีหมิ่นประมาทถอนด้วยมั้ย ?

            ทนายตั้ม :
อันนั้นไม่ครับ อันนั้นผมรับทำหน้าที่แล้ว ได้ค่าทนายความด้วยครับ หมิ่นประมาทต้องทำตามหน้าที่ แต่คดีน้องชมพู่ผมถอนครับ

จะมองหน้ากันติดเหรอ ?

            ทนายตั้ม : ผมว่าผมแยกออก เพราะผมไม่ได้โกรธหรือเกลียดลุงพล ผมบอกก่อนนะครับ

            ทั้งนี้สามารถติดตามชมรายการ โหนกระแส โดยมี หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33



 
    
    
    


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ทนายตั้ม เปิดปากสาเหตุเลิกทำคดี ลุงพล ลั่นหมดใจ เจอตอบกลับต้องหนักแน่น ! โพสต์เมื่อ 29 พฤศจิกายน 2564 เวลา 17:24:30 21,772 อ่าน
TOP
x close