ทนายเกิดผล ยันคำมั่นไม่ใช่การพนัน ปมดราม่ากระเป๋า Hermes ปลอม
หลังทีน่า แม่ค้ากระเป๋าแบรนด์เนมมือสอง อ้างเรื่องเงิน 2 ล้าน
แค่พูดท้าพนัน แต่ตอนนั้นเจ้าของกระเป๋าไม่ได้ตอบรับเอง
ภาพจาก เฟซบุ๊ก เรื่องเล่าเช้านี้
ตกเป็นประเด็นดราม่าต่อเนื่องที่มีคนพูดถึงอย่างมาก
กรณีสาวติดต่อขายกระเป๋า Hermes Constance 24
ให้กับร้านขายกระเป๋าแบรนด์เนมมือสอง แต่กลับถูกกล่าวหาว่าเป็นของปลอม
ซ้ำเมื่อขอกระเป๋าคืนทางเจ้าของร้านซึ่งเป็นสาวประเภทสองกลับไม่ยอมคืน
แต่เอาไปไลฟ์โชว์ใช้ปากกาเขียนคำว่า "ปลอม" ลงบนกระเป๋า
พร้อมท้าทายว่าจะให้เงิน 2 ล้าน จะเลิกเป็นกะเทย และพร้อมเปลี่ยนชื่อเป็น
สรพงษ์ หากกระเป๋าเป็นของแท้
ทว่า ในเวลาต่อมาผลตรวจสอบยืนยันว่ากระเป๋าใบดังกล่าวเป็นของแท้ แต่ทางแม่ค้ารายนี้กลับบ่ายเบี่ยงไม่ทำตามที่พูด อ้างว่าเป็นการพูดเอาสนุก จะเปลี่ยนชื่อและจ่ายเงินแค่ 3.9 แสนเท่านั้น อ้างว่าก่อนหน้านี้ที่พูดว่า 2 ล้าน เป็นการท้าพนัน แต่อีกฝ่ายไม่ได้ตอบรับเอง และพูดเอาสนุกเท่านั้น
อ่านข่าว : อวสานสรพงษ์ ! พลิกลิ้น ไม่ได้พูดกระเป๋าของปลอม ยันไม่จ่าย 2 ล้าน ใครอยากฟ้องเชิญ
ทว่า ในเวลาต่อมาผลตรวจสอบยืนยันว่ากระเป๋าใบดังกล่าวเป็นของแท้ แต่ทางแม่ค้ารายนี้กลับบ่ายเบี่ยงไม่ทำตามที่พูด อ้างว่าเป็นการพูดเอาสนุก จะเปลี่ยนชื่อและจ่ายเงินแค่ 3.9 แสนเท่านั้น อ้างว่าก่อนหน้านี้ที่พูดว่า 2 ล้าน เป็นการท้าพนัน แต่อีกฝ่ายไม่ได้ตอบรับเอง และพูดเอาสนุกเท่านั้น
อ่านข่าว : อวสานสรพงษ์ ! พลิกลิ้น ไม่ได้พูดกระเป๋าของปลอม ยันไม่จ่าย 2 ล้าน ใครอยากฟ้องเชิญ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ทนายเกิดผล แก้วเกิด
เกี่ยวกับเรื่องนี้ (20 ธันวาคม 2564) เฟซบุ๊ก ทนายเกิดผล แก้วเกิด ซึ่งเป็นทนายความของคุณชมพู่ เจ้าของกระเป๋า Hermes ได้มีการโพสต์ข้อความยืนยันหลัง ทีน่า แม่ค้าร้านกระเป๋าแบรนด์เนมมือสอง อ้างถึงเรื่องเงิน 2 ล้าน เป็นแค่คำพูดท้าพนัน ไม่ได้จะให้จริง โดยชี้ว่า "คำมั่น ไม่ใช่การพนัน ซึ่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 362 บุคคลออกโฆษณาให้คำมั่นว่าจะให้รางวัลแก่ผู้ซึ่งกระทำการอันใด ท่านว่าจำต้องให้รางวัลแก่บุคคลใด ๆ ผู้ได้กระทำการอันนั้น แม้ถึงมิใช่ว่าผู้นั้นจะได้กระทำเพราะเห็นแก่รางวัล
ทั้งนี้ ยังเปิดเผยเพิ่มเติมว่า ตัวทนายพร้อมด้วยคุณชมพู่ได้เดินทางไปยัง สน.บางขุนเทียน เพื่อรับกระเป๋า Hermes คืนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ทนายเกิดผล แก้วเกิด
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก ทนายเกิดผล แก้วเกิด