เจ้าสาวป้ายแดงกุมขมับ ไปฮันนีมูนกับสามี กำลังแฮปปี้หวานชื่น ก่อนทริปหวานล่มไม่เป็นท่า เพราะ "เซอร์ไพรส์" ไม่คาดคิดมาเคาะประตู..
เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2564 เว็บไซต์เดลี่สตาร์
เผยเรื่องราวของเจ้าสาวป้ายแดงชาวอเมริกันที่มีอันต้องชีช้ำจากทริปฮันนีมูน
โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ เธอได้เล่าผ่านทางเว็บไซต์ชุมชนออนไลน์สุดฮิตอย่าง
Reddit เผยว่า หลังจากแต่งงาน
เธอและสามีก็เดินทางไปพักผ่อนที่เม็กซิโกเป็นเวลา 1 เดือน
ระหว่างนั้นเหมือนทุกอย่างจะแฮปปี้ดีงาม จนกระทั่งวันหนึ่ง
เมื่อมีแขกมาเยือนที่หน้าประตูบ้าน เขาคนนั้นก็คือ พ่อของสามี
เมื่อพ่อของสามีทราบว่าลูกชายและลูกสะใภ้ไปเที่ยวและพักผ่อนที่เมืองชายฝั่งแคนคูน
เขาจึงต้องการไปร่วมด้วย โดยที่ไม่มีการแจ้งหรือบอกกล่าวล่วงหน้า
ตอนแรกที่เธอได้ยินเสียงเคาะประตูก็ไม่คาดคิดว่าเป็นคนในครอบครัว
เมื่อเปิดประตูมาเจอพ่อสามี เขาก็กล่าวว่า
"เซอร์ไพรส์"
ส่วนสามีของเธอก็เป็นคนที่เงียบ ๆ
ไม่ชอบมีปากเสียงและให้เกียรติพ่อของเขามาก เขาจึงไม่แสดงความรู้สึกใด ๆ
และยอมให้พ่อของเขาเข้ามาร่วมพักผ่อนในที่เดียวกัน แต่สำหรับเธอ
มันทำให้เธอรู้สึกอึดอัด สุดท้ายเธอจึงตัดสินใจบอกเขาว่า
เธออยากย้ายไปพักที่อื่น และสามีก็ตกลง
แต่เรื่องราวไม่จบแค่นั้น หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้น
เธอกลายเป็นลูกสะใภ้เจ้าอารมณ์ในสายตาของทั้งพ่อและแม่สามี
พวกเขามองว่าสิ่งที่เธอทำนั้นหยาบคายและไม่เคารพพวกเขา
แม้ว่าเธอจะพยายามจะอธิบายว่า
มันเป็นเรื่องของมารยาทและการให้เกียรติกันและกัน
ทริปฮันนีมูนควรจะมีแค่เธอและสามี
และเธอก็มีเรื่องให้ตกใจอีกว่า ที่บ้านพักดังกล่าวเป็นบ้านของครอบครัวสามี
แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น การที่พ่อของเขาไปโดยไม่บอกล่วงหน้า
โดยที่ทำให้เธอรู้สึกว่าไม่สามารถปฏิเสธได้ ก็เป็นเรื่องที่ไม่โอเค
มันล้ำเส้นความเป็นส่วนตัวเกินไป
ภายหลังจากเรื่องราวของเธอถูกแชร์ไป ก็ได้รับความสนใจในโลกออนไลน์
หลายคนเข้าไปคอมเมนต์มากมาย โดยส่วนใหญ่ต่างเข้าใจฝ่ายหญิงสาว กล่าวว่า "ลองบอกสามีคุณไปสิว่า คุณไม่ได้แต่งงานกับพ่อแม่ของเขานะ" และ "ถ้าเป็นฉัน
ฉันจะถามเขา (พ่อสามี) ว่า คุณอยากดูพวกเราทำหลานให้คุณเหรอ
ฮันนีมูนสำหรับคู่รักควรเป็นเรื่องส่วนตัวหรือเปล่า"
ทั้งนี้ ผู้ใช้โซเชียลบางส่วนยังได้แสดงความเห็นว่า จริง ๆ
แล้วเรื่องนี้คนกลางอย่างสามีของเธอควรจะเป็นคนจัดการอธิบายให้ทั้งสองฝ่ายได้เข้าใจตรงกัน
ไม่เช่นนั้นแล้วอาจมีเรื่องเช่นนี้อีกไม่จบสิ้น
และอาจจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ในอนาคตได้
ขอบคุณข้อมูลจาก
เดลี่สตาร์