x close

หนุ่มทำบิตคอยน์ 1.4 หมื่นล้าน หายวับ - 8 ปีผ่านไป ยังหวังคุ้ยขยะหาฮาร์ดไดรฟ์ที่ทิ้งไป

         หนุ่มพลาดทิ้งฮาร์ดไดรฟ์ลงขยะ ทำบิตคอยน์ มูลค่ากว่า 1.4 หมื่นล้านหายวับ ใช้เวลา 8 ปี พยายามขอไปคุ้ยหาจากกองขยะ ถึงขั้นติดต่อผู้เชี่ยวชาญระดับนาซา เงินก้อนโตนี้ จะได้คืนมาไหม


บิตคอยน์
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

         นับเป็นเทรนด์ใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก สำหรับการลงทุนในคริปโทเคอร์เรนซีซึ่งสร้างกำไรมหาศาลให้กับนักลงทุนบนโลกดิจิทัล โดยมีกลุ่มผู้เล่นบิตคอยน์ยุคบุกเบิกจำนวนไม่น้อยที่ชีวิตเปลี่ยนกลายเป็นเศรษฐี จากมูลค่าของเหรียญคริปโทเคอร์เรนซีที่พุ่งสูงขึ้นตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา

         อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ผู้ถือครองเหรียญบิตคอยน์จำนวนไม่น้อยได้ฉลองกับความร่ำรวยที่มาถึงแล้ว ยังคงมีวิศวกรไอทีอีกรายหนึ่งที่ยังคงกล้ำกลืนอยู่กับความผิดพลาดในอดีต และต้องดิ้นรนทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ฮาร์ดไดรฟ์แสนสำคัญกลับคืนมา มิเช่นนั้นบิตคอยน์ของเขาที่มีมูลค่ากว่า 330 ล้านปอนด์ (ราว 14,800 ล้านบาท) ก็ยังคงเป็นเพียงตัวเลขที่เขาถือครอง แต่ไม่อาจเข้าถึงได้

         โดยเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2564 เว็บไซต์เมโทร รายงานว่า ชายคนดังกล่าวคือ เจมส์ โฮเวลล์ส (James Howells) วิศวกรไอทีวัย 36 ปี ซึ่งได้เผลอทิ้งฮาร์ดไดรฟ์ที่มี private key ลงถังขยะไปเมื่อ 8 ปีก่อนระหว่างที่กำลังเคลียร์ข้าวของภายในบ้าน โดยในตอนนั้นเขามีฮาร์ดไดรฟ์ที่หน้าตาเหมือนกันอยู่ 2 เครื่อง แต่กลับทิ้งไปผิดเครื่องซะอย่างนั้น

         สำหรับ private key ดังกล่าว เป็นชุดรหัสที่จำเป็นต้องใช้เพื่อเข้าถึงกระเป๋าเงินดิจิทัล ซึ่งโฮเวลล์สมีบิตคอยน์อยู่ 7,500 เหรียญ แต่หลังจากฮาร์ดไดรฟ์หายไป เขาก็ไม่สามารถทำอะไรกับเหรียญบิตคอยน์ที่มีได้เลย ทำได้แค่ดูมูลค่าที่เพิ่มสูงขึ้นตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยไม่สามารถทำธุรกรรมแลกเปลี่ยนใด ๆ ได้

         แน่นอนว่าเพื่อให้ได้เงินจำนวนมหาศาลกลับคืนมา โฮเวลล์สได้พยายามจะขออนุญาตทางสภาเมืองนิวพอร์ต ในเซาธ์เวลส์ สหราชอาณาจักร เพื่อเข้าไปขุดหาอุปกรณ์ฮาร์ดไดรฟ์ของเขาในสถานที่ฝังกลบขยะของเมือง เนื่องจากเขายังคงเชื่อมันว่าฮาร์ดไดรฟ์ดังกล่าวน่าจะยังอยู่ในกองขยะ และเขาก็เชื่อว่าน่าจะสามารถกู้ข้อมูลในฮาร์ดไดรฟ์ได้ต่อให้สภาพภายนอกจะเสียหายหรือขึ้นสนิมก็ตาม

         โฮเวลล์สยังถึงขั้นเสนอจะมอบเงิน 1 ใน 4 จากมูลค่าทั้งหมดของบิตคอยน์ที่มีแก่กองทุนเยียวยาโควิดของเมืองด้วย แต่แม้เขาจะพยายามยื่นขออนุญาตครั้งแล้วครั้งเล่า ตลอดช่วง 8 ปีที่ผ่านมา คำตอบจากทางสภาเมืองก็ยังเป็นคำปฏิเสธ โดยยกเหตุผลความกังวลด้านสิ่งแวดล้อมและเงินทุน


บิตคอยน์
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

         ด้านโฆษกของสภาเมือง ยอมรับว่า พวกเขาได้รับการติดต่อจากโฮเวลล์สมาหลายต่อหลายครั้ง นับตั้งแต่ปี 2556 เกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่เขาจะขอเข้าไปเก็บกู้ รื้อหาชิ้นส่วนฮาร์ดแวร์ที่มีบิตคอยน์อยู่ ซึ่งทางสภาก็แจ้งกลับไปหลายรอบแล้วว่า การเข้าไปขุดหาอุปกรณ์นั้นเป็นไปไม่ได้ภายใต้ใบอนุญาตของทางสภาเมือง อีกทั้งการลงมือขุดด้วยตัวเองยังจะส่งผลต่อสภาพแวดล้อมของพื้นที่โดยรอบอย่างมาก
 
         นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายในการขุดหลุมฝังกลบขยะ การจัดเก็บ ตลอดจนการบำบัดของเสีย ยังอาจมีมูลค่าสูงหลายล้านปอนด์ ซึ่งไม่มีสิ่งใดจะรับประกันได้เลยว่าเขาจะเจออุปกรณ์ที่ตามหา รวมถึงไม่สามารถบอกได้ว่าอุปกรณ์ดังกล่าวจะยังสามารถใช้งานได้หรือไม่

         แต่วิศวกรหนุ่มยังคงไม่ยอมแพ้ เขาได้ทำการติดต่อและรวบรวมทีมงานผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่าง ๆ ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม และผู้เชี่ยวชาญด้านการกู้ข้อมูลจากทั่วโลก เพื่อนำข้อมูลต่าง ๆ มาหักล้างสารพัดข้อกังวลตามที่ทางสภาเมืองอ้าง

         โดยโฮเวลล์สยืนยันว่าเขาได้ติดต่อขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญด้านการกู้ข้อมูล ที่เคยทำงานร่วมกับองค์การนาซา ในภารกิจหายนะกระสวยอวกาศโคลัมเบีย ซึ่งคนเหล่านี้สามารถกู้ข้อมูลจากกระสวยอวกาศที่ระเบิดได้ จึงไม่คิดว่าการที่ฮาร์ดไดรฟ์อยู่ในจุดฝังกลบขยะจะเป็นปัญหา

         ชายที่ยังคงมุ่งมั่นกอบกู้ฮาร์ดไดรฟ์ของตัวเอง ชี้ว่า มูลค่าบิตคอยน์ที่จมอยู่ในกองขยะ ตอนนี้มีมูลค่าเทียบเป็นเงินราว 454 ดอลลาร์สหรัฐ และเขาคิดว่ามันอาจจะพุ่งขึ้นแตะหลักพันล้านดอลลาร์สหรัฐ ก่อนที่ทางการจะได้ลงมืออะไร

         เขายืนยันว่า ความกังวลของทางสภาเมืองเรื่องคนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในกรณีที่เขาไม่สามารถกู้ฮาร์ดไดรฟ์ได้นั้น เป็นหนึ่งในสิ่งที่จะถูกระบุในสัญญาที่ต้องมีการลงนาม และเขาก็มีกองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่พร้อมสนับสนุนทั้งค่าใช้จ่ายกับอุปกรณ์ในการดำเนินการ เพื่อแลกกับการได้มีส่วนร่วมในเงินจำนวนมหาศาลนั้น เขากำลังขอให้ทางสภาเมืองศึกษาความเป็นไปได้ เพื่อที่ทีมของเขาจะได้เริ่มร่างแผนในการทำงาน แต่สุดท้ายทางสภาเมืองยังคงไม่ให้โอกาสเขาเลย

 
         ทั้งนี้ จากการศึกษาภาพถ่ายทางอากาศของสถานที่ฝังกลบขยะดังกล่าว เขาเชื่อว่าฮาร์ดไดรฟ์ของตัวเองน่าจะยังอยู่ในพื้นที่ 200 ตารางเมตร และอาจอยู่ที่ระดับความลึก 15 เมตร

ขอบคุณข้อมูลจาก เมโทร, CNBC


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
หนุ่มทำบิตคอยน์ 1.4 หมื่นล้าน หายวับ - 8 ปีผ่านไป ยังหวังคุ้ยขยะหาฮาร์ดไดรฟ์ที่ทิ้งไป อัปเดตล่าสุด 23 ธันวาคม 2564 เวลา 15:57:00 22,579 อ่าน
TOP