สลด... 2 เอ็นจีโอพ่อลูกอ่อน อยู่ในกลุ่มเหยื่อกว่า 35 ชีวิต ที่ถูกทหารเมียนมาสังหาร-จุดไฟเผา ทิ้งศพกลางถนน ทางองค์กรยืนยันการสูญเสีย หลังเจ้าหน้าที่หายตัวไป

ภาพจาก AFP PHOTO / KARENNI NATIONALITIES DEFENSE FORCE (KNDF)
วันที่ 28 ธันวาคม 2564 สำนักข่าวอัลจาซีรา รายงานว่า องค์กร Save the Children ออกแถลงการณ์ยืนยัน เจ้าหน้าที่ขององค์กร 2 รายที่หายตัวไปจากเหตุการณ์สังหารหมู่ในรัฐกะยา ทางตะวันออกของเมียนมา เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม ที่ผ่านมา อยู่ในกลุ่มผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 35 รายที่ถูกทหารเมียนมาสังหารและเผาทำลายศพ
ด้าน อินเกอร์ แอชชิง หัวหน้าฝ่ายบริการขององค์กร ระบุว่า ข่าวดังกล่าวช่างน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง เรารู้สึกสั่นคลอนจากความรุนแรงที่ถูกกระทำต่อพลเรือนและเจ้าหน้าที่ขององค์กร ผู้อุทิศตนเพื่อมนุษยธรรมและทำงานเพื่อสนับสนุนเด็ก ๆ หลายล้านชีวิตที่ต้องการความช่วยเหลือทั่วเมียนมา
สำหรับเหตุการณ์สังหารหมู่ดังกล่าว เกิดขึ้นบนถนนทางหลวงในรัฐกะยา เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม ที่ผ่านมา ซึ่งกลุ่มนักสู้ต่อต้านทหาร ยืนยันว่า พวกเขาพบศพที่ถูกเผามากกว่า 30 ร่าง รวมถึงผู้หญิงและเด็ก ถูกทิ้งไว้บนถนน หลังกลุ่มสนับสนุนประชาธิปไตยได้ปะทะกับทหาร
อนึ่ง นับตั้งแต่เกิดเหตุรัฐประหารเมียนมา ซึ่งรัฐบาลทหารเข้ายึดครองอำนาจ มีผู้คนกว่า 1,300 ชีวิตที่ถูกสังหารระหว่างการปราบปรามโดยกองกำลังรักษาความปลอดภัย ขณะที่กลุ่มคนซึ่งเรียกตัวเองว่าเป็นกองกำลังป้องกันประชาชนก็ได้เกิดขึ้นทั่วประเทศ เพื่อต่อสู้กับกองกำลังทหารจนนำมาสู่เหตุปะทะนองเลือดหลายครั้ง
อย่างไรก็ตาม ทางกองทัพเมียนมาได้อ้างว่า การโจมตีในเมืองพะยูโซ ที่รัฐกะยาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (24 ธันวาคม) สืบเนื่องจากกองทัพพยายามจะหยุดขบวนรถ 7 คันที่ขับมาอย่างน่าสงสัย โดยมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากจากการโจมตีครั้งดังกล่าว แต่ทางโฆษกของกองทัพไม่ได้เผยรายละเอียดมากไปกว่านั้น
ขณะที่ผู้สังเกตการณ์จาก Myanmar Witness เผยข้อมูลว่ามีประชาชนถึง 35 คน ที่รวมถึงผู้หญิงและเด็ก ถูกทหารสังหารและเผาทิ้งในเหตุโจมตีดังกล่าว โดยมีภาพถ่ายจากดาวเทียมยืนยันว่ามีการจุดไฟขึ้นในเมืองดังกล่าว เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น
ทั้งนี้ องค์กร Save the Children ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ราว 900 คนปฏิบัติการในเมียนมา ได้ระงับภารกิจต่าง ๆ ในรัฐกะยา และอีกหลายภูมิภาคของเมียนมาแล้ว ขณะที่ทางสหรัฐฯ ก็เริ่มมีการเสนอให้ใช้มาตรการคว่ำบาตรการค้าอาวุธกับกองทัพทหารของเมียนมา เพื่อเป็นการป้องกันความโหดร้ายที่เกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าในประเทศนี้
ขอบคุณข้อมูลจาก อัลจาซีรา