x close

ดราม่า Hermes ยังไม่จบ สรพงษ์ขุดคลิปแจง อาจทำคดีพลิก-ยังไม่เปลี่ยนชื่อเป็น ประยุทธ์


           เปิดภาคต่อดราม่า กระเป๋า Hermes ด้านทีน่า หรือ สรพงษ์ ขุดคลิปเสียงออกมาใหม่ โชว์หลักฐานคู่กรณีก็ตอบไม่ได้ ว่ากระเป๋ามาจากไหน - จะหาโอกาสคืนแต่ตำรวจไม่รับไว้ - ไม่เคยแอบโอนเงินไปให้ เอาแล้วไงล่ะทีนี้

ดราม่า Hermes
ภาพจาก โหนกระแส

           จากกรณีเรื่องราวอีนุงตุงนัง สำหรับทีน่า เจ้าของร้านรับซื้อแบรนด์เนมมือสอง ที่ออกมาบอกว่ากระเป๋า Hermes Constance 24 ที่คุณชมพู่ขายต่อเป็นของปลอม พร้อมกับเอาปากกาลบได้เขียนหน้ากระเป๋าตรง ๆ ว่า ปลอม ซึ่งเธอได้ท้าว่า หากกระเป๋านี้เป็นของจริง เธอจะเปลี่ยนชื่อเป็นสรพงษ์ และจ่ายเงิน 2 ล้าน และผลก็คือว่า กระเป๋าใบดังกล่าวนั้นเป็นของจริง

           อ่านเพิ่มเติม เจ้าของกระเป๋าแฉ ร้านแอบโอนเงินคืน จี้จ่าย 2 ล้าน ตามคำพูด - เปลี่ยนชื่อเป็น สรพงษ์ ! 

ดราม่า Hermes
ภาพจาก โหนกระแส

           ล่าสุด ทางทีน่าได้ขุดหลักฐานใหม่ ที่อาจจะพลิกเรื่องนี้ไปอีกเลยก็ได้ ซึ่งทางกระปุกดอทคอม ได้สรุปรวมมาให้แล้ว ดังนี้

ทีน่ายอมรับ ติดใจเรื่องยาแนวกระเป๋า Hermes โทร. เช็กต้นทาง ต้นทางบอกไม่ได้ซื้อมาจากไหน เลยมั่นใจว่าปลอม


           ทางทีน่าบอกว่า เมื่อชมพู่เอากระเป๋ามาขายให้ ทีน่าติดใจตรงยาแนวด้านหลัง แต่ด้วยความที่ทีน่าคิดไม่รอบคอบเอง มั่นหน้า เลยขอข้อมูลคุณจิ๊บ แม่ค้าที่ชมพู่ไปซื้อกระเป๋าแอร์เมสมา และพอได้เบอร์มาก็โทร. หาคุณจิ๊บ แต่คุณจิ๊บกลับพูดจาคลุมเครือ จนมองไม่ออกและไม่สามารถยืนยันที่มาของกระเป๋าได้ ถ้าคุณจิ๊บเจ้าของร้านที่ชมพู่ซื้อมา สามารถแสดงใบเสร็จว่าซื้อแอร์เมสมาจากร้านได้ คงไม่มีดราม่า

           ทางทีน่าได้ตัดสินใจโทร. ไปเช็กกับคุณจิ๊บ และในเสียงคุยโทรศัพท์ระหว่างทีน่ากับคุณจิ๊บ คุณจิ๊บออกอาการงง ๆ เหมือนจะจำไม่ได้ ทางคุณจิ๊บก็บอกว่า ให้ชมพู่ทักคุณจิ๊บมาดีกว่า ทางทีมงานทีน่าก็เหมือนจะจี้คุณจิ๊บว่ากระเป๋านี้เป็นของปลอมนะ และทางคุณจิ๊บก็บอกว่า ถ้าคิดว่าเป็นของปลอม เดี๋ยวคุณจิ๊บขอเช็กกับต้นทางก่อน ซึ่งทางทีน่าก็บอกว่า กระเป๋าใบนี้จะขีดไปเลยว่า ปลอม เพื่อไม่ให้กระเป๋านี้หลุดไปในร้านแบรนด์เนมร้านอื่นอีก และคุณจิ๊บก็ตกลง

           ทีน่าบอกว่า ยืนยันว่ากระเป๋าปลอม "ไม่ปลอมมาตัดหัวพี่ไปเลย" ทีน่าสั่งสอนคุณจิ๊บไปด้วยว่า สำหรับบางคนที่รู้ที่มาที่ไปของกระเป๋า สามารถโอนเงินได้เลย เพราะสามารถตามสืบได้ว่า แหล่งต้นทางกระเป๋ามาจากไหน แต่กรณีนี้พอมาเช็กกับคุณจิ๊บ คุณจิ๊บบอกไม่ได้ว่ามาจากไหน อีกอย่างคุณจิ๊บบอกว่า ตนไม่เคยซื้อแอร์เมส เลยยิ่งทำให้ทีน่าระแวงมากกว่าเดิม

ดราม่า Hermes

ทีน่า มั่นใจว่าปลอมแน่ ๆ หลังไปเช็กกับพี่ที่เคารพ ยังไงก็ไม่คืน เรื่องลามปามถึงเอาตำรวจมาเคลียร์


           ทีน่าเอากระเป๋าไปเช็กอีกครั้งกับคนที่ชื่อโจ ซึ่งเป็นพี่ที่ทีน่าเคารพ เพราะชมพู่ยืนยันว่ากระเป๋าใบนี้ไม่มีปัญหา ซึ่งทั้งทีน่าและคุณโจชี้ว่า รอยยาแนวหลังกระเป๋าไม่เนียน และยิ่งทำให้ทีน่าเชื่อมั่นเข้าไปอีกว่า กระเป๋าใบนี้คือของปลอม

           วันต่อมา หลังจากที่ชมพู่พยายามทวงคืนกระเป๋า และทีน่าไม่ให้ เพราะไม่อยากให้กระเป๋าปลอมหลุดเข้าไปในตลาด ชมพู่ก็ได้แจ้งความทีน่า และให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาคุย ซึ่งเป็นร้อยเวร ซึ่งร้อยเวรเจรจาว่า ไม่ว่ากระเป๋าจะจริงหรือปลอมอย่างไร ก็อยากให้เอามาคืน และวันที่เอามาคืนก็เอาให้ชมพู่ดูไปชัด ๆ เลยว่า ของมันปลอมตรงไหน แต่ทีน่าบอกว่า ถ้าตนxxx (ฟังไม่ออก - ผู้เขียน) ให้จับทีน่าไปติดคุกได้เลย ให้โอกาสทีน่าบ้าง บอกว่าทีน่ายักยอกทรัพย์ ตนเป็นคนค้าขาย คนเอาไปโพสต์ว่ายักยอกทรัพย์แล้วเดี๋ยวทีน่าจะเสียหาย
 
           จากนั้น เมื่อการเจรจายืดเยื้อ และชมพู่จ่อเอาเรื่องจริง ๆ ทีน่าบอกว่า ตนพร้อมที่จะเอากระเป๋าไปคืนให้เลย วันนี้ แต่ตำรวจไม่ว่าง (ตำรวจออกท่าทางรำคาญ) แต่ถ้าเป็นวันอื่น ทีน่าก็ไม่ว่างเหมือนกัน ซึ่งทีน่ายืนยันว่า อย่างไรตนก็ไม่เอากระเป๋าใบนี้ไว้แน่นอน ชมพู่แจ้งความทีน่าว่ายักยอก-ทำให้เสียทรัพย์ แต่ทีน่าบอกว่าตนยังไม่ได้ทำอะไรผิดเลย ซึ่งต่อมาเมื่อเรื่องราวคลี่คลาย ทีน่าก็ได้ออกมากล่าวขอโทษร้อยเวร ที่พูดจาวีนเหวี่ยงไปแบบนั้น

ดราม่า Hermes

ชมพู่พาตำรวจบุกร้านทีน่า เจรจาคืนกระเป๋าไม่เป็นผล จนนักข่าวมายุ่ง เรื่องยิ่งอีนุงตุงนัง


           ชมพู่พาตำรวจมาเจอทีน่าที่ร้าน ตำรวจบอกว่า เมื่อมีเจ้าทุกข์มาแจ้งความ ตำรวจก็ต้องรับแจ้งความ และสอบสวนคดีว่าผู้ต้องหาผิดหรือบริสุทธิ์ ทีน่าบอกว่า ทำแบบนี้เหมือนแกล้งกัน แต่ตำรวจยืนยันว่า ที่ทำนั้นคือขั้นตอนตามกฎหมาย ตนยังไม่ได้ว่าอะไรทีน่าเลย

           ทีน่าบอกว่า ทีตนแจ้งความ คดีกลับไม่คืบ และพอเป็นแบบนี้ตนจะขอพิสูจน์บ้าง แต่ตำรวจไม่ให้โอกาสเลย ซึ่งทางตำรวจบอกว่า กรณีนี้ ตำรวจไม่ต้องมาพิสูจน์ว่ากระเป๋าปลอมหรือไม่ปลอม หากทีน่ามั่นใจว่านี่กระเป๋าปลอม ก็ให้ไปแจ้งทางเจ้าของลิขสิทธิ์ ให้เจ้าของลิขสิทธิ์ดำเนินการ

           วันต่อมา ทีน่าบอกว่า ตนไม่เอากระเป๋านี้ไว้แล้ว จะขอคืน แต่ปรากฏว่าร้อยเวรก็ติดธุระอีก ทีน่าเลยจะเอากระเป๋าไปคืนให้ที่ สน. จากนั้นเรื่องนี้ก็เริ่มเป็นข่าว นักข่าวมาขอดูกระเป๋า และมองว่าทีน่าไม่คืนกระเป๋า ทีน่าจึงติดต่อไปหาร้อยเวรอีกครั้งเพื่อติดต่อขอคืนกระเป๋า เพราะทีน่ารู้สึกอาย กลายเป็นคนโกงไปแล้ว หน้าไอจีก็มีแต่คนมาทวงว่าทำไมไม่คืนกระเป๋า และไม่มีใครพูดเลยว่า เธอไปหาร้อยเวรถึงโรงพัก

           ทั้งนี้ ในระหว่างที่ข่าวออกนั้น เธอก็ได้เอากระเป๋าไปให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ แต่ข่าวออกก่อนและเธอถูกตราหน้าว่าโกง ทั้งที่ผลการตรวจสอบยังไม่ออกว่ากระเป๋าของจริงหรือของปลอม แล้วตำรวจก็โทร. มา บอกให้ทีน่าเอากระเป๋าไปไว้ที่ตำรวจ ถ้าผลออกมาอย่างไรแล้ว ทีน่าพร้อมจะโอนเงินให้ทันที ซึ่งหากเจ้าหน้าที่สามารถรับประกันได้ว่า ถ้าผลออกมาแล้วเป็นกระเป๋าปลอม ทีน่าจะได้เงินคืน ทีน่าคงจะโอนให้ไปตั้งแต่แรก

ดราม่า Hermes

ทีน่ายัน ไม่เคยแอบโอนเงินให้ชมพู่ ทุกอย่างตกลงกันก่อน ตอนนี้เดือดร้อนไปทั้งตระกูล


           เรื่องที่อยู่ดี ๆ เมื่อผลตรวจว่ากระเป๋าเป็นของจริง แล้วทีน่าแอบโอนเงินให้ชมพู่นั้น ทีน่าบอกว่า เรื่องนี้เรามีการคุยกันแล้ว ก่อนที่จะโอนเงินก็คุยกันแล้ว แต่ชมพู่กลับเอาไปพูดอีกแบบ และทำให้คนมองว่าทีน่าร้าย แต่ชมพู่เป็นคนใสซื่อ

           ทีน่ายืนยันว่า เรื่องนี้ต้องดูว่า ใครที่เป็นฝ่ายได้ ใครที่เป็นฝ่ายเสีย จะฟ้องเอาเงินเท่าไรไม่ทราบ แต่ถ้าจะมาแกล้งกันแบบนี้ "เอาชีวิตไปดีกว่า" และเชื่อว่าศาลจะดูจากเจตนาและหลักฐาน ไม่ใช่กระแสโซเชียล ทีน่ายอมรับว่าโพสต์จริง วีนจริง ด่าจริง แต่ไม่เคยบอกว่าวีนใคร แต่ชมพู่กลับมาว่าทีน่าเสีย ๆ หาย ๆ หาว่าโกง มีคดีอาญา ใส่ร้ายทีน่า และเรื่องแบบนี้ไม่ใช่แค่ทีน่าเสื่อมเสียชื่อเสียง แต่ยังทำให้ครอบครัวเสียชื่อ ตระกูลเสียชื่อ ตนมีญาติพี่น้องเป็นนายร้อย นายพล พลอากาศเอก ผู้ว่าการท่า รองนายกรัฐมนตรี  ส.ส. ฯลฯ  และญาติพี่น้องต้องพลอยเป็นจำเลยสังคมไปด้วย
    
           เรื่องขีดกระเป๋า ทีน่ายอมรับว่าเป็นความคิดน้อยและใจร้อนของตัวเอง และความไม่ชัดเจนของชมพู่ แต่บอกไปแล้วว่า ใบนี้จะซื้อแน่นอน ถ้าเป็นของจริงก็จ่ายในราคาของจริง ถ้าเป็นของปลอมก็จ่ายอีกราคา

ดราม่า Hermes

ทนายเกิดผล เตรียมฟ้องทีน่าอีก เรียกเงิน 7 แสน - พบยังไม่เปลี่ยนชื่อเป็น ประยุทธ์


           แม้ว่าทีน่าจะแพ้พนัน แต่เธอก็ยืนยันว่าเรื่องเงิน 2 ล้านเป็นการพูดเล่น แต่การเปลี่ยนชื่อเป็นสรพงษ์นั้นตั้งใจจะทำจริง ๆ แต่ต่อมาก็บอกว่า เนื่องจากปีที่เกิดนั้นใช้ ส ไม่ได้ ดุมาก เป็นกาลกิณีและ ป เท่านั้นที่ชนะทุกอย่าง ดังนั้นจึงจะขอเปลี่ยนชื่อเป็น ประยุทธ์ เนตรระหงษ์ แทน

           ทว่าล่าสุด 29 ธันวาคม 2564 ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะเกิดปัญหา เมื่อทนายเกิดผล แก้วเกิด ได้เข้าไปเช็กว่า ทีน่าเปลี่ยนชื่อเป็นประยุทธ์หรือยัง และพบว่ายังไม่มีการเปลี่ยนชื่อแต่อย่างใด

           อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 29 ธันวาคม นี้ ทนายเกิดผล ได้รับมอบหมายจากคุณชมพู่ ให้ไปฟ้องทีน่าในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา (หลายกรรม) และเรียกค่าเสียหาย 700,000 บาท ถือเป็นการส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ส่วนของขวัญที่จะให้ คือคดีค่ากระเป๋า 2 ล้านบาทตามนัด

ทีน่า บุกสภาทนายความ ร้องขอความเป็นธรรม ชื่อเสียงหาย รายได้หด เรื่องนี้ต้องมีคนรับผิดชอบ


           เมื่อทางชมพู่จะเอาเรื่องทีน่า ทีน่าก็จะเอาเรื่องคืนเหมือนกัน โดยที่เธอโพสต์ภาพขณะไปเยือนสภาทนายความ และมองว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้ทีน่าเสียหาย แต่ก่อนทีน่าขายของได้วันละล้านกว่า ตอนนี้เหลือแสนกว่า รวมทั้งภาพของทีน่าที่ไปแจ้งความไว้ที่ สน.บางขุนเทียน ซึ่งคาดว่าเป็นใบแจ้งความกลับชมพู่ ที่ทำให้เสียชื่อเสียง

ดราม่า Hermes

ดราม่า Hermes

ดราม่า Hermes

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ดราม่า Hermes ยังไม่จบ สรพงษ์ขุดคลิปแจง อาจทำคดีพลิก-ยังไม่เปลี่ยนชื่อเป็น ประยุทธ์ อัปเดตล่าสุด 29 ธันวาคม 2564 เวลา 17:14:58 108,442 อ่าน
TOP