บอสใหญ่แก๊งยากูซ่าญี่ปุ่น วัย 75 ปี ศัลยกรรมขยายขนาดน้องชาย สุดท้ายสั่งเก็บพยาบาล หลังไม่พอใจผลลัพธ์-พูดจาไม่เข้าหู

วันที่ 4 มกราคม 2565 เว็บไซต์เดลี่สตาร์ เผยเรื่องราวคดีความโด่งดังจากประเทศญี่ปุ่น ซาโตรุ โนมุระ ชายวัย 75 ปี หัวหน้าระดับสูงขององค์กรคุโดะ-คาอิ (Kudo-kai) ซึ่งเป็นที่รู้จักกันว่า เป็นหนึ่งในแก๊งยากูซ่าที่มีความรุนแรงที่สุดในญี่ปุ่น ถูกฟ้องร้องดำเนินความผิด ในข้อหาเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการสั่งให้คนไปฆ่าพยาบาลสาวรายหนึ่ง
ตามรายงานเผยว่า ก่อนช่วงเวลาก่อนเกิดเหตุ โนมุระได้ไปเข้ารับการศัลยกรรมขยายขนาดอวัยวะเพศและกำจัดขนที่คลินิกดังกล่าว จากนั้นใน เดือนมกราคม 2556 พยาบาลหญิงซึ่งทำงานที่นั่นและเข้าร่วมการผ่าตัดให้กับโนมุระ ก็ถูกคนร้ายใช้อาวุธแทงเข้าที่ศีรษะ คอและหน้าอก ที่บริเวณถนนในเขตฮากาตะ เมืองฟุกุโอกะ
ตามรายงานท้องถิ่นเผยว่า ก่อนหน้านี้ หากผู้ที่เป็นระดับหัวหน้าของแก๊งยากูซ่าไปมีเรื่องหรือไม่พอใจใคร เขาก็สามารถสั่งเก็บได้ง่าย ๆ โดยจ่ายเงินชดเชยเพื่อขอโทษ และรอดพ้นการดำเนินคดีทางกฎหมาย แต่สำหรับกรณีนี้ ได้รับความสนใจจากประชาชนจำนวนมาก และได้กลายเป็นจุดเปลี่ยนต่อการจัดการแก๊งอันธพาลในประเทศ
ในเดือนสิงหาคม 2563 ศาลแขวงฟุกุโอ ตัดสินโทษประหารชีวิตโนมุระ ซึ่งตามกฎหมายของญี่ปุ่น ยังคงมีการอนุญาตให้ประหารชีวิตด้วยการแขวนคอ ในคดีฆาตกรรมหลายคดี เช่น ข่มขืน การฆาตกรรม และการโจรกรรมบางกรณี
ภายหลังจากได้ฟังคำตัดสิน โนมุระ ไม่เพียงแต่ไม่ยอมรับคำตัดสิน แต่เขายังได้ข่มขู่ผู้พิพากษาด้วยความโกรธแค้นอย่างรุนแรงว่า "การตัดสินไม่เป็นธรรม แล้วคุณจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิตที่ตัดสินเช่นนี้" ซึ่งในเวลาต่อมา เบน อาดาชิ หัวหน้าผู้พิพากษาคดีดังกล่าว ต้องเข้ารับการคุ้มครองพิเศษโดยทางตำรวจ
คดีความและการตัดสินของศาลในครั้งนี้ กลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดอื้ออึง เนื่องจากโนมุระ ได้กลายเป็นหัวหน้าแก๊งยากูซ่าคนแรก ที่ได้รับโทษตัดสินประหารชีวิต อีกทั้งองค์กรของเขาเป็นกลุ่มมาเฟียที่มีประวัติสืบทอดมายาวนานตั้งแต่สมัยซามูไรโบราณ และมีจำนวนสมาชิกมากกว่า 25,000 คน