สาววัย 29 ปี ไรเดอร์ฟู้ดแพนด้า ประสบอุบัติเหตุ
อาการสมองตาย เพิ่งเปรยอยากบริจาคอวัยวะ ครอบครัวสานต่อความตั้งใจ
เป็นสะพานบุญช่วยเหลือคนได้ถึง 6 ชีวิต
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
วันที่ 23 มกราคม 2565 ข่าวช่อง 3 รายงานเรื่องราวของ น.ส.ชาลิสา
วงษาวดี อายุ 29 ปี พนักงานงานฟู้ดแพนด้า
ซึ่งประสบอุบัติเหตุทางรถจักรยานยนต์ มีอาการสมองตาย
ครอบครัวจึงตัดสินใจบริจาคอวัยวะให้กับทางสภากาชาดไทย
ซึ่งจะสามารถนำไปช่วยชีวิตคนได้อีก 6 ชีวิต
ย้อนไปเมื่อ วันที่ 21 มกราคม น.ส.ชาลิสา ได้รวมกลุ่มไปทำงานที่บ้านเพื่อน ก่อนจะกลับบ้านช่วง 02.00 น. แต่ประสบอุบัติเหตุขี่รถไปชนท้ายรถยนต์ข้างทาง บริเวณแถวบายพาส หน้าโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ และถูกส่งตัวรักษาที่โรงพยาบาลดังกล่าว แพทย์ทำการปั๊มหัวใจถึง 6 ครั้ง ก่อนพบว่า น.ส.ชาลิสา ขาดอากาศหายใจ มีอาการสมองตาย ญาติตัดสินใจถอดเครื่องช่วยหายใจ เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2565 เวลา 15.52 น. ต่อมาทางโรงพยาบาลได้สอบถามญาติว่าความประสงค์จะบริจาคอวัยวะของผู้เสียชีวิตหรือไม่ ก่อนพบว่า เมื่อวันที่ 15 มกราคม ที่ผ่านมา น.ส.ชาลิสา เคยบอกกับญาติ ในงานวันเกิดของป้าว่าถ้าหากตนเองตายลง ก็อยากบริจาคอวัยวะช่วยชีวิตคน
ย้อนไปเมื่อ วันที่ 21 มกราคม น.ส.ชาลิสา ได้รวมกลุ่มไปทำงานที่บ้านเพื่อน ก่อนจะกลับบ้านช่วง 02.00 น. แต่ประสบอุบัติเหตุขี่รถไปชนท้ายรถยนต์ข้างทาง บริเวณแถวบายพาส หน้าโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ และถูกส่งตัวรักษาที่โรงพยาบาลดังกล่าว แพทย์ทำการปั๊มหัวใจถึง 6 ครั้ง ก่อนพบว่า น.ส.ชาลิสา ขาดอากาศหายใจ มีอาการสมองตาย ญาติตัดสินใจถอดเครื่องช่วยหายใจ เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2565 เวลา 15.52 น. ต่อมาทางโรงพยาบาลได้สอบถามญาติว่าความประสงค์จะบริจาคอวัยวะของผู้เสียชีวิตหรือไม่ ก่อนพบว่า เมื่อวันที่ 15 มกราคม ที่ผ่านมา น.ส.ชาลิสา เคยบอกกับญาติ ในงานวันเกิดของป้าว่าถ้าหากตนเองตายลง ก็อยากบริจาคอวัยวะช่วยชีวิตคน
ภาพจาก ThaiPBS
จากนั้นทางครอบครัวจึงตัดสินใจบริจาคอวัยวะของ น.ส.ชาลิสา ให้กับทางสภากาชาดไทย เพื่อหวังให้บุญกุศล ส่งให้ผู้ตายไปสู่ในภพภูมิที่ดี โดยสามารถมอบอวัยวะประกอบด้วย ดวงตาทั้ง 2 ข้าง ลิ้นหัวใจ ไต 2 ข้าง หลอดเลือดดำบริเวณขาหนีบ ซึ่งจะสามารถนำไปช่วยชีวิตคน ได้ 6 ชีวิต ส่วนศพขครอบครัวจะนำกลับไปตั้งบำเพ็ญกุศล ต.บ้านติ้ว อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ และจะมีพิธีฌาปนกิจ ในวันที่ 27 มกราคม 2565 ณ วัดศรีภูมิ ต่อไป
ด้าน นางระพีพร วงษาวดี อายุ 58 ปี แม่ผู้ตา เล่าว่า ตนมีลูก 2 คน น.ส.ชาลิสา เป็นลูกคนเล็ก ชอบเรียนภาษาอังกฤษมาก มีความฝันอยากไปทำงานต่างประเทศเพื่อหาเงินมาเลี้ยงดูครอบครัว ช่วงนี้จึงกำลังสอบภาษา แต่กลับเหตุอุบัติเหตุดังกล่าว เรื่องการบริจาคอวัยวะ เป็นความตั้งใจของลูกที่เคยพูดไว้ไม่นานนี้ แต่ยังไม่ได้แจ้งความประสงค์ไปทางสภากาชาดไทย ในครั้งนี้ที่ตัดสินใจบริจาคอวัยวะของลูก เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้ยังมีชีวิตอยู่ และให้เป็นบุญกุศล หนุนนำให้ลูกได้ไปเจอสิ่งที่ดีในภพภูมิข้างหน้า
ขณะที่ นายแพทย์นิติ เหตานุรักษ์ ผอ.โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ กล่าวว่า ทางโรงพยาบาลขอสาธุอนุโมทนาบุญให้กับครอบครัวผู้บริจาคอวัยวะ ซึ่งครั้งนี้สามารถนำไปช่วยเหลือคนได้ 6 คน ยอมรับว่ายังมีผู้รอปลูกถ่ายอวัยวะเป็นจำนวนมาก ซึ่งโรงพยาบาลช่วยเป็นสะพานบุญ จัดหาอวัยวะสำหรับผู้บริจาค ตั้งแต่ ปี 2562 เป็นต้นมา
สำหรับปี 2565 นี้ โรงพยาบาลรับบริจาคอวัยวะแล้ว ประกอบด้วย ไต 4 ข้าง ตับ 1 หัวใจ 1 ลิ้นหัวใจ 1 แล้วก็ดวงตา 6 ดวง จากผู้บริจาคอวัยวะ 8 ราย ส่งต่อถึง 13 คนที่จะได้รับอวัยวะ ส่วนกรณีของ น.ส.ชาลิสา ที่ประสบอุบัติเหตุทำให้เกิดภาวะสมองตาย แม้ไม่มีข้อผูกห้ามทางการแพทย์เรื่องการบริจาคอวัยวะ แต่ทางครอบครัวมีจิตศรัทธา และยินดีที่จะบริจาคอวัยวะให้กับผู้ที่รอคอยจนช่วยเหลือคนได้ถึง 6 ชีวิต
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
ภาพจาก ThaiPBS
ภาพจาก ThaiPBS
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่อง 3