x close

สรุปที่มารถบิ๊กไบค์ เป็นของกลางหรือไม่ หลังพ่อค้ารถแฉไม่ได้ขายให้ตำรวจ จนทัวร์ลง


           เปิดที่มารถบิ๊กไบค์คันก่อเหตุชน หมอกระต่าย พบเป็นการขายแบบโอนลอยเป็นทอด ๆ ยังไม่พบหลักฐานถูกยึดเป็นของกลาง หลังพ่อค้ารถโผล่แฉยืนยันไม่ได้ขายให้ตำรวจ แล้วถูกทัวร์ลงจนต้องลบโพสต์

           เป็นประเด็นต่อเนื่องหลังการเสียชีวิตของหมอกระต่าย แพทย์หญิงวราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล ถูก ส.ต.ต. นรวิชญ์ บัวดก ขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์พุ่งชน ระหว่างเดินข้ามทางม้าลายจนเสียชีวิต กรณีรถบิ๊กไบค์ที่ชน จากที่ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่าเป็นรถของกลางที่ถูกยึดแล้วผู้ต้องหาเอามาขี่จนประสบเหตุนั้น

           วันที่ 24 มกราคม 2565 แนวหน้า รายงานว่า พล.ต.ต. นครินทร์ สุคนธวิท ผู้บังคับการกองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน เปิดเผยว่า ส.ต.ต. นรวิญช์ ยืนยันว่ารถบิ๊กไบค์คันเกิดเหตุเป็นของเจ้าตัว มีสัญญาการซื้อขายเป็นหลักฐาน ที่มีชื่อของ ส.ต.ต. นรวิญช์ อยู่ในใบสัญญา แต่อย่างไรก็ตามจะมอบหมายให้กับพนักงานสอบสวน สน.พญาไท ตรวจสอบเรื่องนี้ต่อไป

           พล.ต.ต. นครินทร์ ยืนยันว่า คดีที่เกิดขึ้นถือเป็นความผิดทางวินัย แต่จะมีโทษถึงขั้นไล่ออกหรือไม่นั้น ยังตอบไม่ได้ ต้องดูผลการสอบสวนเป็นหลัก และจะไม่มีการช่วยเหลือหรือเบี่ยงเบนประเด็นเด็ดขาด

คดีหมอกระต่าย

พ่อค้ารถโผล่แย้ง ยันเป็นรถของกลาง ก่อนลบโพสต์หลังทัวร์ลงว่าหิวแสง


           ทว่า หลังตำรวจออกมายืนยันว่ารถบิ๊กไบค์คันเกิดเหตุ ไม่ใช่รถของกลาง กลับพบว่ามีเฟซบุ๊ก พิชัย สอนทอง ซึ่งเป็นพ่อค้าขายรถ ได้มีการโพสต์ทำนองโต้แย้งว่า รถคันดังกล่าวเป็นรถของกลาง โดยอ้างว่า รถเป็นของร้านตนและมีลูกค้าซื้อต่อไป แต่ไปถูกตำรวจจับแล้วยึด ก่อนที่ตำรวจจะแอบเอาไปขี่ชนหมอกระต่าย แต่หลังโพสต์ได้ไม่นานเจ้าตัวก็ลบไป เนื่องจากมีเอกสารซื้อ-ขายหลุดออกมา ยืนยันว่า ส.ต.ต. นรวิญช์ ซื้อรถต่อไปแล้วจริง ๆ ไม่ใช่แอบเอาของกลางมาขี่ ทำให้เจอทัวร์ลง เพราะมองว่าผู้โพสต์หิวแสง หวังให้ร้านดังจากการเกาะกระแสการเสียชีวิตของหมอกระต่าย

           และในเวลาต่อมา (24 มกราคม) เฟซบุ๊ก พิชัย สอนทอง โพสต์ชี้แจงสาเหตุที่ลบโพสต์ว่า ตอนแรกมีเจตนาแค่ต้องการออกมาปกป้องสิทธิให้ลูกค้าตน (นายปฏิภาณ) เพราะมีหลักฐานชัดเจนว่าตนขายรถไปเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2562 ที่จังหวัดพิจิตร ส่วนรถจะไปต่ออีกกี่มืออันนี้ไม่ทราบ ยืนยันว่าไม่ได้หิวแสง แต่ที่เลือกเสี่ยงลงเรื่องนี้ เพราะลูกค้าเครียดมาก ทักมาให้ช่วยเป็นพยานให้ ที่ทำไปก็แค่อยากยืนยันช่วยลูกค้าว่าเขาไม่ได้ใช้รถแล้ว แต่รถยังไม่ได้โอนเปลี่ยนชื่อ

           ก่อนทิ้งท้ายว่า "นี่คือผลเสียของการโอนลอยแล้วไม่แจ้งขนส่ง พอมีการกระทำผิดอะไร ชื่อเจ้าของคนล่าสุดยังอยู่ในระบบ เขาก็จะซวยไปด้วย" ยืนยันว่าไม่ได้หิวแสงแน่นอน

คดีหมอกระต่าย

คดีหมอกระต่าย

ย้อนเส้นทางรถบิ๊กไบค์คันเกิดเหตุ มีกี่มือกันแน่ - ตกลงเป็นของกลางหรือไม่ ?


           รายการเอาให้ชัด ทางช่องวัน เปิดเผยเส้นทางรถบิ๊กไบค์ กับที่มาที่ไปก่อนประสบเหตุ จากผู้ที่เคยครอบครองรถทั้ง 3 มือ ตั้งแต่มือแรก คือนายไพฑูรย์ จ.เชียงราย ที่ครอบครองช่วงปี 2561 - 2562 ก่อนจะขายต่อเป็นมือที่ 2 คือคนในพื้นที่ จ.สกลนคร (เป็นการโอนลอย) ครอบครองปี 2562 และมือที่ 3 คือนายพิชัย สอนทอง คนที่โพสต์ข้างต้น ก่อนที่จะขายต่ออีกครั้ง

           - นายไพฑูรย์ เปิดเผยว่า ซื้อรถคันดังกล่าวต่อมาจากเพื่อนอีกที แล้วโอนเป็นชื่อตน มีเอกสารทุกอย่างครบ แต่รถถูกเปลี่ยนมาก่อนประมาณ 3 มือแล้ว ก่อนจะขายต่อไปให้พ่อค้ารถที่สกลนคร เป็นการโอนลอย และก็ไม่ได้ติดตามเลย มาเห็นอีกทีคือในเพจโพสต์ว่าขายต่อไปแล้ว

           - นายปฏิภาณ คนครอบครองรถคนสุดท้ายก่อนขายต่อให้ ส.ต.ต. นรวิชญ์ ให้การสอบปากคำยอมรับว่า ขายให้ ส.ต.ต. นรวิชญ์ จริง มีการทำเอกสารสัญญากัน แต่ชื่อผู้ครอบครองรถยังคงเป็นชื่อของนายไพฑูรย์อยู่

คดีหมอกระต่าย

           ทั้งนี้ ผู้กำกับ สน.พญาไท เปิดเผยว่า ตอนนี้ได้มีการออกหมายเรียกนายไพฑูรย์ ให้เข้ามาสอบปากคำแล้ว เพื่อให้สิ้นกระแสความว่ารถคันดังกล่าวมีการขายต่อมากันเป็นทอด ๆ แต่เบื้องต้นจากการตรวจสอบยังไม่พบว่ารถคันดังกล่าวเป็นรถที่มีคดีความ หรือถูกจับยึดจนเป็นของกลางมาก่อนที่จะขายให้ ส.ต.ต. นรวิชญ์ แต่อย่างใด

           สำหรับประเด็นการโอนลอย ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ เปิดเผยว่า กฎหมายแพ่ง ตามมาตรา 437 ผู้ใดครอบครองและควบคุมยานพาหนะในขณะเกิดเหตุ มีความผิด แต่หากรถไปเกิดเหตุแล้วไม่มีหลักฐาน อาทิ พยานหรือวงจรปิด ที่สามารถจับภาพคนร้ายได้ ผู้ที่มีชื่อครอบครองอยู่จะถูกคาดการณ์ว่าเป็นคนทำผิดไว้ก่อน

ขอบคุณข้อมูลจาก แนวหน้า, เฟซบุ๊ก พิชัย สอนทอง, รายการเอาให้ชัด



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สรุปที่มารถบิ๊กไบค์ เป็นของกลางหรือไม่ หลังพ่อค้ารถแฉไม่ได้ขายให้ตำรวจ จนทัวร์ลง อัปเดตล่าสุด 25 มกราคม 2565 เวลา 13:24:37 24,465 อ่าน
TOP