เจ๊ติ๋ม จัดอีก สมปอง อึ้งเป็นพระแต่หนี้เยอะ - เจ้าสัวเสนอเงิน 16 ล้าน แค่ธุรกิจเหรอ ?

ก่อนที่ ทิดสมปอง จะสึก ใครเป็นฝ่ายติดต่อ

           ตอนนั้นเลขากับนักข่าวก็ไปทำข่าว สัมภาษณ์เขาตามปกติ เขาก็ขอให้ต่อสายหาพี่ ซึ่งตอนแรกก็จะไม่คุย แต่เขายืนยันว่าจะขอคุยกับพี่ติ๋ม คำแรกเขาบอกเลยว่า "พี่ติ๋ม ผมจะสึกแล้ว วันที่ 29 ผมจะขอมาเช่าบ้านพี่ติ๋มและก็เช่าออฟฟิศเล็ก ๆ ได้มั้ย เพราะว่าผมจะทำมาหากินแล้ว" พี่ก็เลยให้ ก็ถือว่าช่วยคนที่เขาทำคุณประโยชน์กับศาสนามา 30 ปี จึงบอกไปว่า ไม่ต้องมาเช่าหรอก บ้านพี่มีห้องว่างเยอะแยะ มาอยู่ได้เลย เพราะลูกพี่ก็นิยมอยู่คอนโดมากกว่า ไม่ค่อยได้อยู่บ้านหลังนี้

           พอวางหูปุ๊บเขาก็มาเดี๋ยวนั้นเลย มาแบบยังเป็นพระ พี่ยังต้องไหว้ต้องกราบเขาเลย เป็นการมาดูที่พักว่าเขาอยู่ได้ไหม เขาชอบหรือเปล่า หลังจากมาถึง เขาก็มาดู มาถามว่าห้องไหนที่เข้าจะมาอยู่ได้ ออฟฟิศอยู่ตรงไหน พอดูแล้วเขาก็บอกว่าชอบมาก แจ้งว่าวันที่ 29 จะสึกตอน 13.09 น. เขาจะมาอยู่ที่นี่ เดี๋ยวเรามาช่วยกัน "ผมจะมาช่วยทีวีพูลด้วย เดี๋ยวเราจะมาทำงานให้เต็มที่เลย" ก็เป็นสัญญาจากเขา

ตกใจเป็นพระทำไมเป็นพระมีหนี้เยอะ

           จากนั้นอีกไม่กี่วัน เขาก็โทร. มาอีกทีหนึ่ง บอกว่า "พี่ มีเจ้าสัวใหญ่ เขาให้ข้อเสนอผม" เขาก็บอกว่าเขามีหนี้อยู่ 10 กว่าล้าน แต่พี่ก็มองในมุมดีว่า เขามีความกตัญญูต่อครอบครัวเขา เขาก็มีสวนยาง คือไปฟังจากลูกศิษย์เขาคนหนึ่งมาว่าการมีสวนยางประมาณ 300 กว่าไร่ จะทำให้มีกำไรเดือนละเป็นแสน เพื่อมาเลี้ยงดูครอบครัว โดยที่เขาไม่ต้องไปห่วง และเขาจะส่งเงินไปให้ เพราะบ้านเขาแม่ก็ติดเตียง และพี่สาวก็ต้องดูแลหมดทั้งครอบครัว  แต่การทำสวนยางมันไม่ใช่ง่าย พอทำไม่ไหวก็ประกาศขาย แต่มันเป็นที่ ส.ป.ก. ขายเท่าไหร่ก็ขายไม่ได้ เงินที่ซื้อก็เป็นเงินกู้นอกระบบ ทำให้เขามีหนี้จ่ายแค่ค่าดอกเบี้ยเดือนละ 300,000 บาท โอ้โห พี่ฟังแล้วก็ตกใจเป็นพระทำไมเป็นพระมีหนี้เยอะแบบนี้ ทำไมไปคิดการใหญ่แบบนี้ ชีวิตมันควรจะแบบสมถะสิ คือพี่เองก็อยากช่วย

เจ้าสัวเสนอเงิน 16 ล้านบาท แต่อาจไม่ใช่แค่เรื่องธุรกิจ

           ต่อมา เขาเล่าว่า มีเจ้าสัวตระกูลใหญ่ของประเทศไทยมาติดต่อ บอกว่า "เขา (เจ้าสัว)ให้ผมเท่านี้ พี่ให้มั้ย" แต่พี่ไม่ซื้อตัวใครอยู่แล้ว ใครจะมาก็มา ไม่มาพี่ก็ไม่ได้อะไร แต่ถ้าลองกดด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ สิ่งที่เค้าเสนอให้คือ เงิน 16 ล้านบาท เจ้าสัวบอกจะให้เลยทันที เท่านั้นยังไม่พอ ให้บ้านอีก 1 หลัง ให้เงินอีก 100 ล้านบาท เพื่อตั้งบริษัทแม่ปอง ที่จะทำอะไรก็ได้ พี่ก็บอกเขาว่าให้เยอะขนาดนี้ต้องคิด 2 แบบว่า เขาเอาไปเพื่อทำธุรกิจ หรือเขาเอาไปเพื่อเป็นนักการเมือง มองถ้าเอาไปทำธุรกิจมันดูไม่น่าเป็นไปได้

           สัญญา 5 ปี และ แบ่งกำไร 20% เป็นดีลที่ดีมาก แต่ก็ต้องคิดว่ามันผิดปกติไหม หรือเขาอยากให้เรา Call Out แล้วเป็นกระแส ก็ให้เขาคิดดู แต่ถ้าไปเล่นการเมือง ถือว่าเราอ่อนหัดนะ เพราะเราอยู่ในวงการพระสงฆ์มาพี่ก็บอกว่าลองดูอีกสักพักดีไหม พี่คิดว่ามันน่าจะเป็นเรื่องอื่นมากกว่าธุรกิจแล้วแหละ ถ้าเขาให้เงินมากขนาดนี้ พี่ก็ให้คำแนะนำแค่นี้เอง

           พี่ก็คิดว่าเขาจะไม่มานะ เพราะทางนั้นข้อเสนอดีมาก แต่วันที่ 29 ตอน 14.30 น. เขาสึก และเขาก็มา มาอยู่กับพี่ ตอนนั้นก็ยังไม่ได้ดีใจอะไร เพราะต้องมาดูกันว่าจะมาเป็นสิ่งที่ดีหรือสิ่งที่ไม่ดี ในตอนแรก ๆ เขาบอกจะมาช่วยสร้างทีวีพูลให้กับมายิ่งใหญ่กว่าเดิม

เรื่องสัญญาความจริงเป็นอย่างไร

           คุณเต้ เล่าแทนว่า ที่บอกว่า 4 เดือน 1 ล้าน ประกอบด้วย ซิตคอม 1 รายการ ทางช่อง 9, รายการ ถึงไหนถึงกัน, รายการ โทร. ติดทิดตอบ ซึ่งคอนเซ็ปต์ของรายการจะเน้นเรื่องช่วยเหลือสังคมเป็นหลัก เรื่องธรรมะสอดแทรกความตลก ซึ่งจะช่วยให้เขามีภาพลักษณ์ที่ดี แต่ก็ควบคู่ไปกับการสร้างรายได้ของบริบทด้วย

           เจ๊ติ๋ม เล่าว่า เขาเป็นห่วงเรื่องหนี้มาก เมื่อเขามาอยู่กับเราจึงคิดโจทย์แรกคือ สิ่งสำคัญต้องใช้หนี้ เขาเป็นลูกศิษย์พระที่วัดพระบาทน้ำพุ พี่ก็ไปทำบุญที่นั่นบ่อย ท่านก็คงมีเมตตาเห็นสมปองไปช่วยงานที่นั่นบ่อย เลยช่วยให้ลูกศิษย์รวย ๆ มาช่วยโปะหนี้แทน ทำให้สมปองไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ย วันที่เขามาเจอกับพี่ เขาบอกเขาเป็นหนี้เหลือ 10 ล้าน 9 แสน พี่ก็วางแผนจะช่วยเหลือให้ต่อ ตั้งเป้าว่า 1 ปี หากจัดรายการกับเต้ 1 ปี คือหนี้จบ คือเขาทำเงินได้เยอะจริง แต่เขาก็ใช้เงินเป็นกระดาษ แต่รับว่าบางส่วนเขาก็ใช้ทำบุญด้วย

           นอกจากนี้ มีค่ายใหญ่ 2 ค่าย บอกให้ทำเป็น The journal of สมปอง เล่าเรื่องของเล่า บางช่วงก็จะเปิดใจคนที่มีกรณีกัน เช่น พี่ศรี หรือ บุ๋ม ปนัดดา มันจะเท่มากเลย คิดให้หมดเลย ดีลกันเรียบร้อย เตรียมหาสปอนเซอร์แล้ว กำลังจะโปรโมตแล้วด้วย วางคิวไว้หมดแล้ว ดีลดีมา ทางค่ายให้ 1 ล้านบาท แล้วค่ายนี้ทำไม่เคยต่ำกว่า 20 ล้านบาทเลย ได้ส่วนแบ่งสินค้าอีก 20%

ทิศทางดูดีมาก แล้วปัญหาคืออะไร

           คุณเต้ ตอบว่า ปัญหามันไม่ได้มีอะไรชัดเจน แต่ส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องของเงิน อาจจะมีการไปเปรียบเทียบกับตอนไปออกรายการ หรือรับงานรีวิว เรตงานแบบนั้นมันต่างกับเรตของรายการเสริมภาพลักษณ์อยู่แล้ว

           เจ๊ติ๋ม กล่าวเสริมว่า 2 แสน 5 หมื่นต่อเดือน แต่ทำอยู่ไม่กี่ชั่วโมง แล้วคุณคิดไหมที่ทำคือความมั่นคงให้เขารู้สึกสบายใจ อีก 2 ปี คุณก็ยังได้แบบนี้เพราะมันมีในสัญญา แต่คุณรู้ไหมว่าแบบนี้อีก 2 ปี ค่าตัวคุณจะไม่ใช่แบบนี้แล้ว เพราะกระแสมันจะดรอปลงเรื่อย ๆ