คุณแก้ว เจ้าของร้านโกดังชาบู เคลียร์ใจ ดราม่าโดนขุดร้านเจ๊งเพราะแบนสลิ่ม-ด่ารัฐบาล ยันทุกวันนี้ยังงงอยู่เลย สลิ่ม และ 3 กีบคืออะไร พร้อมท้าหาหลักฐานโพสต์เจ้าปัญหามา ถ้ามีจริงจะยกร้านให้เลย

ภาพจาก เฟซบุ๊ก โกดังชาบู
จากกรณี คุณแก้ว เจ้าของร้านอาหาร โกดังชาบู ย่านตลาดพลู ออกมาไลฟ์ทั้งน้ำตา ประกาศขอปิดกิจการ พร้อมขอโทษลูกค้าที่ไปต่อไม่ไหวเพราะพิษโควิด 19 ตอนนี้พร้อมเปิดให้เช่า เซ้งพื้นที่ของร้าน โดยเงินที่ได้จากค่าเช่า ค่าเซ้งจะนำไปเคลียร์หนี้ อีกทั้งยังเผยว่าแฟนก็ป่วยเป็นซึมเศร้า พยายามสู้แต่ไม่ไหวจริง ๆ จนทำให้มีลูกค้า ชาวเน็ตเข้าไปคอมเมนต์ให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก แต่ก็มีบางส่วนขุดว่าร้านโกดังชาบูเคยประกาศว่าเป็นร้านปลอดสลิ่ม และเคยด่ารัฐบาล นั้น
อ่านข่าว : เจ้าของโกดังชาบู ไลฟ์ทั้งน้ำตา ขอปิดกิจการ สู้ไม่ไหวแล้ว สามีป่วย-หนี้ท่วม

ภาพจาก เคลียร์ให้จบ
คุณแก้ว : อันนี้ถามว่ามีส่วนไหม ก็มีส่วนได้รับผลกระทบ แต่อีกส่วนคือเราจัดการบริหารวางแผนร้านไม่ดี ประกอบกับเศรษฐกิจ แล้วก็การถูกสั่งปิด ๆ เปิด ๆ ค่ะ
แต่สลิ่มที่เห็นต่างทางการเมือง คือเข้าร้านคุณไม่ได้ ?
คุณแก้ว : ไม่เคยค่ะ เราไม่เคยที่ว่าไม่ต้อนรับลูกค้าคนไหน เราเป็นแม่ค้านะคะ เราตั้งใจทำมาหากิน ไม่ว่าจะเป็นใครเราต้อนรับทุกคนอยู่แล้ว เพราะว่าลูกค้าเขานำเงินมาอุดหนุนเรา
ถ้าไม่จริงแล้วมีข่าวที่สลิ่มเข้าร้านโกดังชาบูไม่ได้ ออกมาได้ยังไง ?
คุณแก้ว : อันนี้ไม่ทราบ เพราะว่าหลาย ๆ ท่านลูกเพจเขาแคปเข้ามาให้เราดู ว่ามีโพสต์หนึ่งว่า ร้านนี้ปลอดสลิ่ม ร้านนี้ไม่ต้อนรับสลิ่มอะไรประมาณนี้ค่ะ ตอนนั้นเราก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะเราตั้งใจที่จะทำมาหากิน กระแสนี้ที่โดนเข้ามาประมาณ 2 ปีกว่าได้แล้ว ที่เริ่มเป็นข่าวคราว

ภาพจาก เคลียร์ให้จบ
คุณแก้ว : ตอนนั้นมีคนคอมเมนต์มา เราก็พยายามที่จะคอมเมนต์ตอบ ตอนไลฟ์ขายของเราก็พยายามที่จะพูด แต่ว่าจะให้เรามาตอบทุกคอมเมนต์เป็นหมื่นคอมเมนต์คงไม่มีเวลา
จากสลิ่มที่เป็นข่าวออกมา กลายเป็นว่าโกดังชาบูต้อนรับเฉพาะ 3 นิ้ว ?
คุณแก้ว : ไม่จริงค่ะ เราต้อนรับลูกค้าทุกท่านทุกคน ยกเว้นเขาจะเอามีดมาจี้เท่านั้นแหละค่ะ ที่ไม่ต้อนรับ
แล้วพอเกิดปัญหาขึ้น 3 นิ้วเข้าไปอุดหนุนไปกินชาบูที่ร้าน คุณแก้วจริง ๆ ไหม ?
คุณแก้ว : อันนี้แม่ค้าไม่รู้หรอกนะคะ ว่าใครจะเป็นฝั่ง 3 นิ้วหรือฝั่งสลิ่ม แม่ค้ารู้แค่ว่าเป็นลูกค้า

ภาพจาก เคลียร์ให้จบ
คุณแก้ว : คือยังยืนยันคำเดิม ว่าแม่ค้าไม่เคยพูด ไม่เคยโพสต์นะคะ และไม่เคยบอกว่าไม่ต้อนรับใคร ไม่เคยพูดว่าไม่ต้อนรับสลิ่ม หรือไม่ต้อนรับฝั่งไหน แม่ค้าไม่ได้ฝักใฝ่ฝั่งใด แม่ค้าต้อนรับทุกคนอยู่แล้ว หลาย ๆ คนก็บอกว่าแม่ค้าโพสต์เอง จึงอยากบอกว่าให้ไปเอาข้อความนั้นมาดูเลย
ถ้าเขาเชื่อทำยังไง ?
คุณแก้ว : คือเราพูดความจริงแล้วค่ะ เราจะบังคับทุกคนให้มาเชื่อเราไม่ได้หรอก
คุณแก้ว : อันนี้พูดตรง ๆ ไม่รู้จักด้วยซ้ำว่าสลิ่มกับ 3 นิ้วคืออะไร หนูคอยถามลูกเพจ ถามลูกค้าว่าคืออะไร จนปัจจุบันล่าสุดก็ยังคงถามอยู่

ภาพจาก เคลียร์ให้จบ
คุณแก้ว : ก็คือด้วยการจัดการบริหารของเรา บางครั้งพนักงานมีน้อย ถามลูกค้าได้เลย ที่เป็นลูกค้าประจำของทางร้าน บางทีอยู่กันแค่ 3 คน 4 คน ลูกค้าเข้าเต็ม แน่นอนเป็นบุฟเฟ่ต์ เราไม่สามารถที่จะทำทุกอย่างได้หมด บางทีลูกค้ายังช่วยเก็บโต๊ะให้ด้วยซ้ำไป ยอมรับมันก็มีผิดพลาดบ้าง แต่ไม่ใช่ทุกครั้ง บางทีเด็กล้างกระทะไม่สะอาดบ้าง โต๊ะไม่ได้เก็บ เช็ดไม่ทัน เราทำเต็มที่แล้วแต่ไม่ทันให้เราทำยังไง เราไม่ได้มีต้นทุนที่สูงจ้างคนงานหลาย ๆ คนมาช่วย
นอกจากความสะอาดแล้ว เสิร์ฟก็ช้าแล้ว ก็ไม่คุ้มกับเวลาที่ปล่อยให้กินบุฟเฟ่ต์ด้วย ?
คุณแก้ว : แม่ค้าไม่ได้จำกัดเวลา แม่ค้าเริ่มต้นขาย 99 บาท ไม่จำกัดเวลา ลูกค้านั่งทานตั้งแต่ 4 โมงเย็น ยันปิดตี 5 นั่งได้ แม่ค้าไม่เคยไล่ ลูกค้าสั่งได้เรื่อย ๆ

ภาพจาก เคลียร์ให้จบ
คุณแก้ว : ใช่ค่ะ หนูทำอย่างนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ราคาบุฟเฟ่ต์ 99 บาทไม่จำกัดเวลา
มีคนตำหนิเรื่องของคุณภาพด้วย ?
คุณแก้ว : ก่อนหน้านั้นช่วงที่ขายดี แม่ค้าจะมีพนักงานเยอะ มียำ เราจะยำสด ๆ ทุกจานต่อจาน มีตามสั่งเราทำให้ทุกจาน เราไม่ได้ผัดเป็นถาดมาวางให้ลูกค้าตักเอง เราทำเมนูต่อเมนู แน่นอนมันช้าเพราะเรามีพนักงานน้อย ผิดเราก็ยอมรับ เราก็เสียใจที่ดูแลลูกค้าได้ไม่ดี แต่แม่ค้าก็ทำเต็มที่แล้ว

ภาพจาก เคลียร์ให้จบ
คุณแก้ว : ถ้าถามว่าถ้าแม่ค้าดูแลไม่ดีขนาดนั้น หรือสกปรกขนาดนั้น ร้านคงไม่มีลูกค้าประจำหรอกค่ะ บางครั้งมันก็ต้องมีผิดพลาดกันบ้าง จะให้ถูกต้องหรือถูกใจทุกคนเป็นไปไม่ได้ บางทีคุณไม่ได้มาอยู่ในเหตุการณ์กับเรา คุณไม่ได้มาเป็นเรา คุณไม่เข้าใจหรอกค่ะ เราทำเต็มที่แล้ว บางทีด้วยจังหวะที่คุณมา เราเก็บโต๊ะไม่ทันเราอยู่กันแค่นี้จริง ๆ เราก็ต้องเสิร์ฟให้ลูกค้าก่อน เพราะกลัวลูกค้ารอนาน พนักงานเรามีน้อยเราก็ต้องออกของให้ลูกค้า มันก็ต้องช้า
โกดังชาบูวันนี้ เจ๊งปิดกิจการ เพราะไปด่ารัฐบาล ?
คุณแก้ว : ไม่ค่ะ
แล้วที่ออกมาไลฟ์ในเพจ ที่ปิดไปเพราะล็อกดาวน์ไม่ให้คนมานั่งกิน ?
คุณแก้ว : หลัก ๆ เลย คือเราไม่ได้เป็นคนมีตังค์ หาเช้ากินค่ำ กว่าจะมีร้านโกดังชาบูได้ แม่ค้าเริ่มจากขายก๋วยเตี๋ยวร้านเล็ก ๆ ริมถนน แล้วค่อยขยับขยายไปขายริมทางเป็นชาบูริมทาง จากนั้นก็มาเป็นโกดังชาบู เบ็ดเสร็จตรงนี้รวมมาแล้ว 9 ปี แต่คำว่าชาบูแม่ค้าทำมาปีที่ 5 คำว่าโกดังมาปีที่ 4 ถ้าสังเกตที่ร้านโต๊ะจะซื้อมือสอง

ภาพจาก เคลียร์ให้จบ
คุณแก้ว : คือพี่เข้าใจไหมว่าคนไม่มีตังค์ พอสั่งปิดรอบแรกเราโอเคนะ พอรอบสองเราไปกู้มาแล้วเพื่อจะให้ได้ขายช่วงคลายล็อก เราไปกู้มาเคลียร์ค่าน้ำ ค่าไฟ ลงวัตถุดิบ พอลงวัตถุดิบเสร็จปุ๊บปิด รอบแรกปิดไปเราก็ขายนะคะ เราก็ปรับตัวขายตามสั่ง ขายออนไลน์ นั่งขายตั้งแต่เช้ายันเคอร์ฟิว 4 ทุ่ม ขายได้ 59 บาท ขายไก่ย่างอยู่หน้าร้านส้มตำ ย่างเอง กินเอง จนปวดเข่าจะเป็นเก๊าอยู่แล้วค่ะ
พอจะต้องมาปิดรอบ 2 ทุนเราเอามาลงแล้วไปกู้มาแล้ว กู้เต็มวงเงินแล้ว เปิดยังไม่ทันไรต้องปิดแล้ว แล้วถ้าเปิดอีกรอบเราจะไปเอาจากไหน พอปิดอีกเราก็ปรับตัวพยายามขายออนไลน์ ส่งเดลิเวอรี่ ไม่ใช่ไม่ปรับตัวนะคะ ร้านแม่ค้าอยู่วุฒากาศ ลูกค้าอยู่ลำลูกกา มีนบุรี รามคำแหง สั่งเซ็ต 299 แม่ค้าก็ไปส่ง ส่งฟรีด้วย ด้วยความที่เราอยากมีออร์เดอร์เข้าร้าน ทำยังไงก็ได้ให้ร้านมีรายได้ แต่เราไม่มีความรู้ในการจัดการวางแผนเดลิเวอรี่

ภาพจาก เคลียร์ให้จบ
คุณแก้ว : เราเป็นแม่ค้าคนหนึ่งที่ทำแบบงู ๆ ปลา ๆ ตามใจรัก เราไม่ได้มีระบบจัดการวางแผนที่ดี เราไม่รู้ว่าการบริหารร้านจริง ๆ ต้องเป็นยังไง
เมื่อมีบทเรียนแล้ว โกดังชาบูไม่คิดจะปรับกลยุทธ์ ไม่คิดจะปรับวิธีบริหารจัดการใหม่ ?
คุณแก้ว : เราพยายามปรับมาเรื่อย ๆ แต่เราไม่มีต้นทุน พอรอบสุดท้ายเราปรับ น้ำจิ้มก็ทำขาย ไลฟ์ขายในเพจก็ขายแล้ว ชาบูเราขายเป็นเซต ลงแอปฯ เราก็ลง
คุณแก้ว : ถ้าให้พูดโควิดก็มีส่วน แล้วล่าสุดที่เรามาไลฟ์ลูกค้าที่เคยทานร้านเรา เข้ามาบอกเขาเป็นฝ่ายสลิ่ม บอกว่ามาทานร้านนี้ประจำ เป็นลูกค้าประจำ แต่พอเห็นโพสต์ว่าไม่ต้อนรับสลิ่ม เลยไม่มาก็มาสารภาพกับเรา เขาบอกว่าถ้ากลับมาเปิดอีกจะกลับมาอุดหนุน เพราะเขาได้ฟังจากปากเรา
คุณแก้วไม่รู้เหรอ ว่าสลิ่มนี่ เขาเป็นคนมีเงิน เขารวยมีกำลังซื้อสูงนะ ?
คุณแก้ว : ถึงบอกข้างต้นไงคะ ว่าไม่รู้คำว่าสลิ่มหมายความว่าอะไร ไม่รู้ว่า 3 กีบคืออะไร ยังงงถึงทุกวันนี้ เราก้มหน้าก้มตาทำงานอย่างเดียว ทำยังไงจะเลี้ยงดูครอบครัว เราไม่ได้ไปโฟกัสจุดนั้น

ภาพจาก เคลียร์ให้จบ
คุณแก้ว : วันนั้นตั้งใจมาไลฟ์แจ้งลูกค้า ว่าเราปิดแล้วนะเราสู้ไม่ไหว แล้วก็ประกาศให้คนที่เขาสนใจเซ้งร้าน ส่วนเรื่องทำไมถึงร้อง เพราะร้านนี้กว่าจะมาเป็นร้านมันไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เราเก็บเล็กประสมน้อยมาเป็นร้าน เราไม่ใช่ว่ามีเงินก้อนหนึ่งแล้วมาเปิดร้าน เรามีความผูกพันกับร้าน แล้วก็มันคือสิ่งที่เรารัก
คุณแก้วกำลังจะบอกว่า ทุกอย่างมันประเดประดังเข้ามาภายในเวลาไม่กี่วัน และอีกเหตุผลคือสามีป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ?
คุณแก้ว : ใช่ค่ะ เขาเป็นตั้งแต่เริ่มมีโควิดเพราะจากเดิมที่เราขายได้ อยู่ ๆ ยอดขายเหลือวันละ 59 บาท แล้วพอเราเริ่มสู้ ก็มาปิด ๆ เปิด ๆ กู้หนี้ยืมสินจนมีหนี้ล้น แต่ว่าเราก็พยายามรอว่ามีมาตรการไหนเข้ามาช่วยเหลือเราไหม ก็ไม่มี จนเราไปไม่ไหว ด้วยความที่เราไม่มีต้นทุนด้วย อะไรหลายอย่างหลายปัจจัย ไหนจะกระแสที่ว่าเราว่าไม่ต้อนรับสลิ่มอีก

ภาพจาก เคลียร์ให้จบ
คุณแก้ว : เกือบล้านค่ะ
แล้วที่บอกว่าไม่มีใครเข้ามาช่วยเหลือเลย นักการเมืองก็ไม่มี มีแต่ ส.ส. ในพื้นที่ ?
คุณแก้ว : มีเข้ามาสอบถามค่ะ มีท่าน ส.ส. เข้ามาจำชื่อไม่ได้แล้ว เข้ามาสอบถามว่าเป็นยังไงบ้าง ก็มีสนับสนุนออร์เดอร์ข้าวกล่อง ในช่วงแรก ๆ นั้นมาให้กำลังใจประมาณนี้
เห็นมีเจ้าหน้าที่ของกระทรวงพัฒนาสังคมเข้าไปเยียวยา ?
คุณแก้ว : ใช่ค่ะ หลังจากวันที่ไลฟ์ ท่านก็ลงพื้นที่แล้วก็ไปสอบถาม แล้วเดี๋ยวจะหามาตรการหาวิธีแก้ไขให้ ลองปรับเปลี่ยนอะไรอย่างนี้ค่ะ

ภาพจาก เคลียร์ให้จบ
คุณแก้ว : รู้ค่ะ ตอนนั้นเราก็รอ เราพยายามที่จะบอกให้ท่านทราบ ว่าไม่ได้ต้องการให้มาช่วยร้านเราแค่ร้านเดียว อยากจะให้ช่วยหลาย ๆ ร้าน เพราะได้รับผลกระทบกันหมด ถ้าเกิดว่าท่านไม่ลงมาคุยกับเรา ไม่ส่งคนมาคุยกับเรา ท่านก็จะไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วในกลุ่มของร้านค้ารากหญ้าอย่างเรา มีความรู้สึกยังไง อยากให้ท่านมาช่วยเหลือยังไง
กระทรวงพัฒนาสังคม เขาลงมาบอกจะช่วยอะไรโกดังชาบู ?
คุณแก้ว : เรื่องของหนี้สิน เขาก็ให้ไปประนอมหนี้ไว้ก่อน พักชำระหนี้ 3-6 เดือน ให้เราตั้งหลักค้าขายไปก่อน
ร้านอื่นในละแวกเดียวกัน เขาได้อภิสิทธิ์นี้ไหม ?
คุณแก้ว : ก็มีเหมือนกัน เพราะในโครงการเขาจะมีมาเรื่อย ๆ อยู่แล้ว แม่ค้าเขาไปพักชำระหนี้ตลอด

ภาพจาก เคลียร์ให้จบ
คุณแก้ว : ค่ะ ดีใจค่ะ ดีใจที่ท่านลงมา
แล้วหลังจากนี้ยังจะด่ารัฐบาลอีกไหม ?
คุณแก้ว : ทำดีก็ชมค่ะ ทำไม่ถูกใจก็ด่า
ประเด็นไหนที่อยากจะด่า ?
คุณแก้ว : ตอนนี้เหรอคะ ตอนนี้ไม่รู้จะด่าอะไรแล้วค่ะ ท่านจะช่วยยังไงก็สุดแล้วแต่ท่าน หลังจากนี้จะยังไงหนูก็ไม่รู้

ภาพจาก เคลียร์ให้จบ
คุณแก้ว : ก็ถ้าเขาไม่ให้พูด ก็ไม่พูดจะดีกว่า
แล้วทำไมเขาถึงมาช่วยคุณแก้ว ทำไมเขาไม่ไปช่วยร้านอื่น ร้านอื่นก็ไม่รอด ?
คุณแก้ว : ไม่รู้เหมือนกัน เพราะเราสู้มั้งคะ คือความดีถึงมันจะช้าแต่เชื่อว่าสักวันต้องมีคนเห็น เรายึดคตินี้กับแฟนมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว
คุณแก้วกลัวว่าสามนิ้วจะมารุมด่าไหม ที่ลุงตู่ลงมาช่วยร้าน ?
คุณแก้ว : ตอนนี้อะไรจะเกิดก็ต้องปล่อยให้เกิด เราไม่สามารถบังคับให้ใครมารักเราได้ทุกคน
ถ้าวันนี้กลับกันสามนิ้วไม่เข้าร้านแล้ว เปลี่ยนเป็นสลิ่มเข้าร้านเราต้อนรับไหม ?
คุณแก้ว : คือใจจริง เราไม่อยากเป็นจุดที่ทำให้แตกแยกกัน อยากให้ทุกคนปรองดองเพราะเราเป็นคนไทย เราต้อนรับทุกคน ขนาดตอนนั้นที่เคยมีคอมเมนต์เป็นกระแสในช่วงก่อนโน้นว่าไม่ต้อนรับสลิ่ม ก็มีลูกค้าที่เขาเข้ามาแสดงตัวว่า เป็นสลิ่มทานได้ไหม เราก็บอกว่าทานได้ค่ะ ลูกค้าเป็นลูกค้า เราต้อนรับทุกคน เราไม่เคยแบ่งฝ่ายและไม่เคยโพสต์ว่าไม่ต้อนรับใคร ถึงขนาดที่แฟนเราบอกว่า ถ้าเป็นคำพูดของเขาหรือเขาพูดจริง เอาร้านไปเลย คุณเอาเงินมาลงทุนต่อไปเลย เอาไปเลยทั้งร้าน
คุณแก้ว : ไม่แบนค่ะ ไม่แบนใครทั้งนั้น เราต้อนรับลูกค้าทุกคน
แล้วเรื่องความสะอาด ความสกปรก เรื่องราคามันแพง วันนี้จะกลับไปแก้ยังไง ?
คุณแก้ว : ก็ถ้าเกิดว่าได้กลับไปขายอีกครั้ง เราต้องกราบขออภัยลูกค้าทุกท่านที่ว่าพนักงานเรามีน้อย บางทีเก็บโต๊ะไม่ทัน ถ้าลูกค้าประจำจะเห็นว่าเราวิ่งล้างด้วย เสิร์ฟด้วย ทำด้วยทุกอย่างวนกัน บางทีทำกันอยู่แค่ 3 คน
อาหารเสิร์ฟช้า จะแก้ยังไงจากนี้ ?
คุณแก้ว : เรามีประสบการณ์มากขึ้นแล้ว เราวางแผนใหม่แล้ว แน่นอนก่อนจะเปิดหนูต้องไปศึกษาเรียนรู้ระบบจัดการให้ดีกว่านี้ และถ้ามีเงินทุนพอ เราต้องจ้างพนักงานให้เพียงพอก่อน พร้อมแล้วค่อยเปิด ไม่พร้อมก็ยังไม่เปิด
ทุกเสียงของลูกค้าไม่ว่าจะอยู่ฝั่งไหน โกดังชาบูฟังหมด อยากบอกอะไรกับสลิ่มที่ฟังอยู่ ?
คุณแก้ว : ยืนยัน เราไม่เคยพูดไม่เคยโพสต์ ไม่ว่าจะเป็นหนูหรือแฟนหรือในเพจร้าน ว่าไม่ต้อนรับสลิ่ม เราต้อนรับคนไทยทุกคน เราอยากให้ทุกคนรักกัน ไม่อยากเป็นจุดให้ท่านต้องมาแตกแยกกัน
วันนี้เจ๊งจริง ๆ หรือแค่สร้างกระแสให้คนไปร้าน ?
คุณแก้ว : เช็กดูได้เลยค่ะ ร้านเราไปไม่รอดจริง ๆ เงินลงทุนเรายังไม่มี ค่าไฟก็จะโดนตัดอยู่แล้ว