เต่า หน้ายักษ์ ไรเดอร์หัวร้อน ย้อนศรทางม้าลายชนคนเสร็จลากมากระทืบซ้ำ ขอโอกาสสังคมให้อภัย ตอนนี้ไม่มีงานทำ ต้องส่งเงินให้ลูกกับเมียเก่า - เพื่อนซวยด้วย โดนแอปฯ สั่งแบนถาวร แจ้งความเอาผิดร่วม
จากกรณี เต่า หน้ายักษ์ ไรเดอร์ส่งอาหารรายหนึ่ง ขี่รถจักยานยนต์ย้อนศรขึ้นมาบนทางเท้า ก่อนเฉี่ยวชนหนุ่มคนหนึ่งที่เดินออกมาจากร้านค้า จากนั้นจึงเกิดการโต้เถียงกัน โดยผู้บาดเจ็บต่อว่าไรเดอร์ทำให้เกิดความไม่พอใจ และเข้าทำร้ายร่างกายซ้ำ หลังจากนั้นผู้บาดเจ็บได้นำหลักฐานภาพถ่ายเข้าแจ้งความ จนตำรวจสามารถจับกุมตัวไรเดอร์ผู้ก่อเหตุได้แล้วนั้น
อ่านข่าว : อย่าว่าแต่ทางม้าลาย ทางเท้าแท้ ๆ ยังเกือบขิต - ไรเดอร์หัวร้อน ชนเสร็จกระทืบซ้ำ
ต่อมา เฟซบุ๊ก Robinhood Delivery มีการออกมาเขียนจดหมายชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีไรเดอร์ในเครื่องแบบ Robinhood ก่อเหตุเฉี่ยวชนและทะเลาะวิวาท ระบุว่า ทาง Robinhood ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลโดยทันทีที่ทราบเรื่อง และพบว่าไรเดอร์ที่ก่อเหตุ ไม่ได้เป็นไรเดอร์ในระบบของ Robinhood แต่มีการนำไอดีของเพื่อนที่เป็นไรเดอร์ Robinhood มารับงานในช่วงเวลาเกิดเหตุ ซึ่งทางบริษัทได้ดำเนินการปิดระบบถาวรของคนขับผู้ให้ยืมไอดีแล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายอีกในอนาคต
เหตุการณ์ในครั้งนี้ ทำให้ทางบริษัทได้รับความเสียหายทางด้านชื่อเสียง จึงได้พิจารณาฟ้องร้องและดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ก่อเหตุ รวมถึงไรเดอร์ Robinhood ที่เป็นเจ้าของไอดี เพื่อให้เป็นกรณีตัวอย่าง และจะใช้กรณีนี้กำชับอบรมไรเดอร์ทุกคนให้ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัดและเน้นถึงมาตรการลงโทษโดยเด็ดขาด
ถึงแม้ว่าผู้ก่อเหตุจะสวมสิทธิ์ไรเดอร์ของ Robinhood และไม่ได้เป็นไรเดอร์ที่ลงทะเบียน แต่ด้วยภาพที่ปรากฏออกไปในสีเสื้อ Robinhood นั้น สร้างความไม่สบายใจให้กับสาธารณชน ทาง Robinhood จะร่วมรับผิดชอบโดยการเข้าเยี่ยมเยียนผู้เสียหายและเสนอมาตรการเยียวยาในวันอังคาร (8 กุมภาพันธ์) โดยทันที
ล่าสุด (8 กุมภาพันธ์ 2565) เที่ยงวันทันเหตุการณ์ ทางช่อง 3 รายงานเพิ่มเติมว่า นายบุญฤทธิ์ ไรเดอร์ผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า หลังจากที่ตนก่อเหตุ สังคมก็วิพากษ์วิจารณ์ถึงพฤติกรรมของตนเป็นอย่างมาก ตนรู้สึกเสียใจ และยอมรับผิดทุกอย่าง ตอนนี้ยังไม่รู้จะทำอย่างไรกับชีวิต เพราะไม่มีงานทำแล้ว รถต้องถูกยึดและถูกดำเนินคดี รวมทั้งถูกทางแอปพลิเคชัน Robinhood ฟ้องร้อง ตอนนี้ชีวิตมืดไปหมดทุกทางแล้ว มีเงินเหลือติดตัวอยู่เพียง 1,000 บาท
ปกติต้องวิ่งงานทุกวันตั้งแต่ 06.00-23.00 น. โดยไม่มีเวลาพักเลย ซึ่งในแต่ละวันต้องนำมาใช้จ่าย ทั้งค่ารถ ค่าโทรศัพท์ ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน อีกทั้งต้องส่งเงินให้ลูกฝาแฝด 2 คน ซึ่งตอนนี้อยู่กับภรรยาเก่า ซึ่งต้องส่งเงินให้เดือนละ 3,000-4,000 บาท ตอนนี้เงินกินข้าวยังไม่พอ อยู่ได้ไม่เกิน 5 วัน ยังไม่รู้จะไปประกอบอาชีพอะไร ไปสมัครงานก็ติดตรงที่ตนมีรอยสักทั่วตัว อยากขอโอกาสสังคมให้อภัย
ขณะที่ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจ สายไหมต้องรอด กล่าวว่า ในวันนี้จะพาผู้เสียหายไปยื่นหนังสือถึง ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในสองประเด็น คือ
1. ขอให้กระทรวงยุติธรรมพิจารณาเพิ่มโทษต่อผู้ฝ่าฝืนกฎหมายจราจรรวมถึงการฝ่าฝืนขับขี่รถบนทางเท้า
2. ขอรับสิทธิ์ จากกองทุนยุติธรรมหลังนายอิสราตกเป็นเหยื่อในคดีอาญา
ส่วนผู้บาดเจ็บตั้งแต่ช่วงเช้าได้ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล เพื่อนำผลการตรวจไปมอบให้กับพนักงานสอบสวนในการแจ้งข้อหากับนายบุญฤทธิ์ต่อไป

ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์

ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์

ภาพจาก เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว










