ครูสุดกลั้น แฉ ผอ.โรงเรียนดัง จ.ชัยภูมิ ใช้งานเยี่ยงคนรับใช้ เลี้ยงลูก ซักผ้า เก็บขี้หมา ทำงานล่วงเวลาแทบไม่มีวันหยุด แถมหนีบแฟนต่างชาติไปเที่ยวนอก 1 เดือนชิล ๆ ไม่ขออนุญาตต้นสังกัด
ทั้งนี้ รายละเอียดระบุว่า คณะครูในโรงเรียนแห่งนี้รู้สึกอัดอั้นมาก หลัง ผอ. คนใหม่ที่เพิ่งย้ายมาไม่นาน มาสร้างความเดือดร้อนให้คณะครูในโรงเรียนไม่หยุด ทำเหมือนครูในโรงเรียนเป็นคนรับใช้ โดยการใช้ให้ไปซื้อของเครื่องใช้ส่วนตัวทั้งในและนอกเวลาราชการ ให้คอยดูแลลูก ดูแลหมา เก็บขี้หมา ทำงานบ้าน ซักเสื้อผ้ายันชุดชั้นในให้กับคนในครอบครัว
อีกทั้ง ผู้อำนวยการคนนี้เป็นนักล่ารางวัลโชว์ผลงานตัวเอง จึงทำให้ครูบางคนโดนกดขี่ข่มเหง ถูก ผอ. ใช้อำนาจให้ช่วยงานยันดึกดื่น รวมถึงชอบพูดคำหยาบคายและอารมณ์โมโหร้ายอยู่เสมอ นอกจากนี้ยังใช้รถตู้ส่วนกลางของโรงเรียนไปรับ-ส่ง ลูกของตัวเองทุกอาทิตย์ ทำธุระส่วนตัว, เสริมสวย โดยมีการเบิกบิลจากงบโรงเรียน แถมยังไปท่องเที่ยวกับแฟนต่างชาติ 1 เดือน โดยไม่ขออนุญาตจากต้นสังกัด และบังคับให้ข้าราชการครูไปนอนเฝ้าลูก เฝ้าหมาตลอด 24 ชั่วโมง
ล่าสุด (15 กุมภาพันธ์ 2565) ทางเพจได้โพสต์อัปเดตอีกว่า จากโพสต์เดิมภาค 2 ตอนนี้ มีนักเรียนเริ่มออกมาพูดในทวิตเตอร์แล้วมาดูกันว่า สพม.ชัยภูมิ จะว่าอย่างไรในเรื่องนี้ เกาะยาว ๆ ครับหนังไตรภาค ซึ่งโพสต์แฉภาค 2 นี้ เหล่านักเรียนต่างวิพากษ์วิจารณ์และมีการติดแฮชแท็ก #ชื่อย่อ... พร้อมเล่าวีรกรรมเพิ่มเติมว่า ทุก ๆ วัน ผอ. คนนี้จะให้ครูคอยมาส่งข้าวส่งน้ำที่บ้าน เวลามีงานอะไรที่โรงเรียน ครูจะต้องมาแจ้งที่บ้าน ผอ. ตลอด
ด้านชาวเน็ตต่างเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมาก ส่วนใหญ่รู้สึกหดหู่ใจที่มีคนประเภทนี้อยู่ในแวดวงการศึกษา พร้อมทั้งอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบด่วน ไม่อยากให้เรื่องนี้เงียบไปเพราะสมัยนี้ผู้บริหารบ้าอำนาจมีเยอะทุกวงการ
ขณะที่หลายคนไม่เชื่อว่าเรื่องดังกล่าวจะเป็นเรื่องจริง มองว่า ทำไมครูถึงต้องยอมทำตามขนาดนี้ ทำให้มีคนเข้ามาอธิบายเพิ่มว่า คนที่ถามคงไม่เข้าใจบริบทของการปกครองในระบบข้าราชการดีพอ
ในระบบข้าราชการเรียกหัวหน้าว่าผู้บังคับบัญชา มีอำนาจเต็มที่ในการตัดสินความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ถ้าจะจัดการใครสักคนที่อยู่ในระดับผู้บริหาร คุณต้องมีกำลังมากพอที่จะซัดทีเดียวให้ล้ม ไม่อย่างนั้นคุณเองที่จะเป็นฝ่ายอยู่ไม่ได้
ภาพจาก เฟซบุ๊ก วันนั้นเมื่อฉันสอน
ภาพจาก เฟซบุ๊ก วันนั้นเมื่อฉันสอน
ภาพจาก เฟซบุ๊ก วันนั้นเมื่อฉันสอน
ภาพจาก เฟซบุ๊ก วันนั้นเมื่อฉันสอน
ภาพจาก เฟซบุ๊ก วันนั้นเมื่อฉันสอน
ภาพจาก เฟซบุ๊ก วันนั้นเมื่อฉันสอน
กลายเป็นประเด็นในโลกออนไลน์ หลังเพจเฟซบุ๊ก วันนั้นเมื่อฉันสอน ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวของครูโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งใน จ.ชัยภูมิ
ที่ต้องการเรียกร้องความเป็นธรรม หลังถูก ผอ.โรงเรียน
ใช้งานเยี่ยงทาสเกินขอบเขตหน้าที่ความเป็นครู
และทำงานล่วงเวลาแทบไม่มีวันหยุด
โดยไม่เกี่ยวกับงานราชการแต่เป็นเรื่องส่วนตัวของ ผอ. ล้วน ๆ
สุดอึดอัด โดนใช้งานเหมือนเป็นคนรับใช้ ทำทุกอย่างตั้งแต่ซักผ้า ชุดชั้นใน ยันเก็บขี้หมา
ทั้งนี้ รายละเอียดระบุว่า คณะครูในโรงเรียนแห่งนี้รู้สึกอัดอั้นมาก หลัง ผอ. คนใหม่ที่เพิ่งย้ายมาไม่นาน มาสร้างความเดือดร้อนให้คณะครูในโรงเรียนไม่หยุด ทำเหมือนครูในโรงเรียนเป็นคนรับใช้ โดยการใช้ให้ไปซื้อของเครื่องใช้ส่วนตัวทั้งในและนอกเวลาราชการ ให้คอยดูแลลูก ดูแลหมา เก็บขี้หมา ทำงานบ้าน ซักเสื้อผ้ายันชุดชั้นในให้กับคนในครอบครัว
อีกทั้ง ผู้อำนวยการคนนี้เป็นนักล่ารางวัลโชว์ผลงานตัวเอง จึงทำให้ครูบางคนโดนกดขี่ข่มเหง ถูก ผอ. ใช้อำนาจให้ช่วยงานยันดึกดื่น รวมถึงชอบพูดคำหยาบคายและอารมณ์โมโหร้ายอยู่เสมอ นอกจากนี้ยังใช้รถตู้ส่วนกลางของโรงเรียนไปรับ-ส่ง ลูกของตัวเองทุกอาทิตย์ ทำธุระส่วนตัว, เสริมสวย โดยมีการเบิกบิลจากงบโรงเรียน แถมยังไปท่องเที่ยวกับแฟนต่างชาติ 1 เดือน โดยไม่ขออนุญาตจากต้นสังกัด และบังคับให้ข้าราชการครูไปนอนเฝ้าลูก เฝ้าหมาตลอด 24 ชั่วโมง
วีรกรรมเยอะจัด ภาค 1 ไม่พอ ต้องจัดมาอีกภาค 2
ล่าสุด (15 กุมภาพันธ์ 2565) ทางเพจได้โพสต์อัปเดตอีกว่า จากโพสต์เดิมภาค 2 ตอนนี้ มีนักเรียนเริ่มออกมาพูดในทวิตเตอร์แล้วมาดูกันว่า สพม.ชัยภูมิ จะว่าอย่างไรในเรื่องนี้ เกาะยาว ๆ ครับหนังไตรภาค ซึ่งโพสต์แฉภาค 2 นี้ เหล่านักเรียนต่างวิพากษ์วิจารณ์และมีการติดแฮชแท็ก #ชื่อย่อ... พร้อมเล่าวีรกรรมเพิ่มเติมว่า ทุก ๆ วัน ผอ. คนนี้จะให้ครูคอยมาส่งข้าวส่งน้ำที่บ้าน เวลามีงานอะไรที่โรงเรียน ครูจะต้องมาแจ้งที่บ้าน ผอ. ตลอด
ชาวเน็ตคอมเมนต์สนั่น ทั้งเห็นใจและไม่เชื่อว่าเป็นเรื่องจริง ครูที่ไหนจะยอมทำขนาดนี้
ด้านชาวเน็ตต่างเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมาก ส่วนใหญ่รู้สึกหดหู่ใจที่มีคนประเภทนี้อยู่ในแวดวงการศึกษา พร้อมทั้งอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบด่วน ไม่อยากให้เรื่องนี้เงียบไปเพราะสมัยนี้ผู้บริหารบ้าอำนาจมีเยอะทุกวงการ
ขณะที่หลายคนไม่เชื่อว่าเรื่องดังกล่าวจะเป็นเรื่องจริง มองว่า ทำไมครูถึงต้องยอมทำตามขนาดนี้ ทำให้มีคนเข้ามาอธิบายเพิ่มว่า คนที่ถามคงไม่เข้าใจบริบทของการปกครองในระบบข้าราชการดีพอ
ในระบบข้าราชการเรียกหัวหน้าว่าผู้บังคับบัญชา มีอำนาจเต็มที่ในการตัดสินความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ถ้าจะจัดการใครสักคนที่อยู่ในระดับผู้บริหาร คุณต้องมีกำลังมากพอที่จะซัดทีเดียวให้ล้ม ไม่อย่างนั้นคุณเองที่จะเป็นฝ่ายอยู่ไม่ได้
ภาพจาก เฟซบุ๊ก วันนั้นเมื่อฉันสอน
ภาพจาก เฟซบุ๊ก วันนั้นเมื่อฉันสอน
ภาพจาก เฟซบุ๊ก วันนั้นเมื่อฉันสอน
ภาพจาก เฟซบุ๊ก วันนั้นเมื่อฉันสอน
ภาพจาก เฟซบุ๊ก วันนั้นเมื่อฉันสอน
ภาพจาก เฟซบุ๊ก วันนั้นเมื่อฉันสอน
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก วันนั้นเมื่อฉันสอน