หญิงเปิดชีวิตสุดทึ่ง มีพี่น้อง 150 คน เพราะพ่อมีถึง 27 เมีย เล่าชีวิตวัยเด็กในครอบครัวใหญ่ กินข้าวกันพร้อมหน้ากว่าครึ่งร้อย แม้เป็นเรื่องแปลก แต่คือชีวิตปกติ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Mary Jayne Blackmore
วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 เว็บไซต์ news.com.au นำเสนอเรื่องราวของ แมรี่ เจน แบล็กมอร์ หญิงแคนาดาวัย 39 ปี ซึ่งได้ออกมาเปิดชีวิตของเธอที่เติบโตมาในครอบครัวใหญ่ เมื่อพ่อของเธอมีภรรยามากถึง 27 คน ทำให้เธอมีพี่น้องรวมกันกว่า 150 คน แม้ว่าการอยู่ร่วมกับคู่ครองหลายคนในเวลาเดียวกันจะเป็นเรื่องผิดกฎหมายก็ตาม
แมรี่ เจน เผยว่า แม่ของเธอเป็นภรรยาคนแรกของ วินสตัน พ่อของเธอ ทั้งคู่แต่งงานกันตอนอายุ 18 ปี ภายในชุมชนชาวคริสต์ที่นับถือนิกายมอร์มอน ภายในเมืองบอนติฟูล ของรัฐบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา พวกเขามีลูกด้วยกัน 4 คน ก่อนที่พ่อของเธอจะได้รับการแต่งตั้งเป็นบิชอปของโบถส์ตอนอายุ 26 ปี
จุดเริ่มต้นของการมีภรรยาหลายคน
ด้วยความที่เขาถูกคนในชุมชนคาดหวังให้มีภรรยาหลายคนตามความเชื่อของลัทธิ วินสตันจึงแต่งงานกับภรรยาคนที่ 2 ในปี 2525 และในตอนที่ แมรี่ เจน ลืมตาดูโลกในปี 2526 พ่อของเธอก็แต่งงานกับภรรยาคนที่ 3 ทำให้เธอมีน้องชายต่างพ่อที่อายุห่างกันไม่กี่เดือน
ตอนแรกทั้ง 10 คนยังอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน กระทั่งตอนที่ แมรี่ เจน อายุ 8 ขวบ พ่อของเธอก็แต่งงานรับภรรยาคนที่ 4 และ 5 เข้ามาในครอบครัวอีก จึงต้องสร้างบ้านอีกหลังไว้ข้างบ้านหลังเดิม
แมรี่ เจน เผยว่าวัยเด็กของเธอเต็มไปด้วยความโหวกเหวกและสนุกสนาน แต่ละมื้ออาหารจะมีของกองอยู่เต็มโต๊ะชนิดที่เพียงพอสำหรับเลี้ยงกองทัพได้ ตอนที่เธออายุ 14 ปี แมรี่ เจน ก็มักจะนั่งกินข้าวร่วมกับครอบครัว รวมถึงภรรยาอีก 12 คนของพ่อ และพี่น้องอีก 40 คน ซึ่งมันอาจฟังดูน่าเหลือเชื่อ แต่นั่นคือชีวิตปกติของเธอ
กฎที่เข้มงวดในชุมชน
สำหรับในชุมชนของเธอ งานต่าง ๆ ล้วนถูกแบ่งตามเพศ โดยเด็กหญิงและแม่ ๆ จะทำหน้าที่เตรียมอาหาร ดูแลลูก ๆ และทำงานบ้าน ขณะที่เด็กผู้ชายกับผู้ชายในหมู่บ้านจะไปทำงานในฟาร์ม ภายในชุมชนยังมีกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดในการกีดกันโลกภายนอก โดยห้ามการแต่งหน้าทำผม ผู้หญิงต้องสวมเสื้อผ้าปกปิดมิดชิดตั้งแต่คอจนถึงข้อมือและข้อเท้า ห้ามดื่มเหล้า ชา กาแฟ รวมถึงสูบบุหรี่ แม้แต่โทรทัศน์หรือดนตรีใหม่ ๆ ก็ยังถูกห้าม
อย่างไรก็ตาม แม้จะเติบโตมาในชุมชนเช่นนี้แต่ แมรี่ เจน ก็รู้ดีว่าการที่พ่อมีภรรยาหลายคนเป็นเรื่องผิดกฎหมาย โดยมักจะมีตำรวจมาที่บ้านของเธอเสมอ แม้สุดท้ายพวกเขาจะยอมถอยกลับไป เพราะมันเป็นวิถีปฏิบัติของชุมชนนิกายมอร์มอน แต่ถึงอย่างนั้นเธอมักจะถูกสั่งห้ามบอกคนแปลกหน้าว่าพ่อมีภรรยากี่คน
แน่นอนว่าการอยู่ร่วมกันคนหมู่มาก ย่อมต้องมีกระทบกระทั่งกันบ้าง แมรี่ เจน ยอมรับว่ามีแม่ ๆ หลายคนที่ไม่ถูกกัน
แยกห่างจากครอบครัว
กระทั่งตอนที่ แมรี่ เจน อายุ 17 ปี เธอก็ถูกผู้นำโบสถ์คัดเลือกสามีให้ อีกฝ่ายเป็นชายหนุ่มชื่อ แซม อายุ 19 ปี มาจากชุมชนนิกายมอร์มอนในรัฐยูทาห์ ทั้งคู่แต่งงานกันในปี 2543 ก่อนจะไปใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันที่รัฐแอลเบอร์ตา
โชคดีของ แมรี่ เจน ที่แม้สามีจะมาจากนิกายมอร์มอนเช่นกัน แต่เขามีเธอเป็นภรรยาเพียงคนเดียว และในขณะที่คนในชุมชนต่างห้ามปรามเธอจากการเรียนรู้และทดลองอะไรใหม่ ๆ แซมกลับไม่คิดห้าม นั่นทำให้ แมรี่ เจน ได้มีโอกาสเข้าเรียนระดับมหาวิทยาลัย
ระหว่างที่ได้เปิดโลกกว้าง แมรี่ เจน ก็เริ่มตั้งคำถามถึงความเชื่อเดิม ๆ ที่ชุมชนเคยสั่งสอนว่าเป็นบาป เธอทดลองดื่มแอลกอฮอล์ครั้งแรกตอนอายุ 23 ปี และเข้าร่วมทีมไอซ์-ฮอกกี้ และแน่นอนว่าในระหว่างที่ แมรี่ เจน กำลังมีชีวิตใหม่ของเธอเอง พ่อของเธอก็ยังคงแต่งงานกับภรรยาคนอื่น ๆ และมีลูกเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
พ่อถูกขับไล่จากโบถส์ สุดท้ายถูกตั้งข้อหา
ในที่สุดเมื่อเดือนมิถุนายน 2545 พ่อของแมรี่ เจน ก็ถูกขับไล่ออกจากโบสถ์เนื่องจากผู้นำโบสถ์ขณะนั้น มองชายคนนี้เป็นภัยคุกคามต่ออำนาจของตัวเอง ในตอนนั้นแม่ของ แมรี่ เจน ก็หย่าขาดจากเขา
แมรี่ เจน เผยว่าหลังเธอจบการศึกษาในปี 2552 เธอก็กลับมาทำงานสอนหนังสือในโรงเรียนที่เมืองบอนติฟูล ทำให้เธอกับแซมเริ่มห่างเหินกัน จนสุดท้ายเธอกับเขาก็สิ้นสุดชีวิตสมรสกันในปี 2553 ซึ่งแม้มันจะเป็นเรื่องน่าเศร้า แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นให้เธอลองทำอะไรใหม่ ๆ กระทั่งค้นพบตัวเอง
ขณะที่ วินสตัน พ่อของเธอ ถูกทางการตั้งข้อหาความผิดจากการมีภรรยาหลายคน ในปี 2560 และในปีต่อมาก็ถูกสั่งให้รับโทษโดยการกักบริเวณอยู่ในบ้านนาน 6 เดือน ซึ่งนั่นนับเป็นการตัดสินคดีการมีคู่สมรสหลายคนครั้งแรกในรอบกว่าสิบปีของแคนาดา
บทสรุปครอบครัวใหญ่ในปัจจุบัน
ทั้งนี้ แมรี่ เจน ชี้ว่าขณะนี้เธอมีพี่น้องกว่า 150 คนแล้ว จากภรรยาทั้ง 27 คนของพ่อ ซึ่งพี่น้องแต่ละคนมีอายุตั้งแต่ 4 เดือน จนถึง 46 ปี ซึ่งเธอยอมรับว่าตัวเองไม่ได้มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพี่น้องทั้งหมด แต่ยังสามารถจำชื่อของทุกคนได้ โดยเด็ก ๆ เหล่านี้มีครึ่งหนึ่งที่ยังเดินตามความเชื่อของนิกายมอร์มอน ขณะที่คนอื่น ๆ เลือกจะไปค้นหาเส้นทางของตัวเอง
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก news.com.au