แม่แตงโม ไม่รับพวงมาลัยขอขมาจาก กระติก จวก 4 วัน ไม่เคยติดต่อมาปิดบังอะไรไว้ ทำไมไม่ช่วยลูกแม่ ซัดเดือด คุณกระโดดลงไปสิ เจอกระติก ตอบอยากให้โมไปเข้าฝันแม่ อธิบายทุกอย่าง
วันที่ 1 มีนาคม 2565 ไฮโซปอ พร้อมด้วย โรเบิร์ต ผู้ที่อยู่บนเรือและกระติก ผู้จัดการส่วนตัว แตงโม นิดา ได้เข้าขอขมาคุณแม่ของแตงโม ซึ่งคุณแม่ไม่รับพวงมาลัยมาขอขมาจากกระติก พร้อมทั้งบอกว่า คุณแม่ยังไม่รับพวงมาลัยของน้องกระติก คุณแม่ขอถามก่อนว่าวันนี้วันที่ 4 แล้ว หนูไม่เคยติดต่อคุณแม่เลยว่าน้องโมตกน้ำ เพราะเหตุใด มีปัญหาอะไร หนูปิดบังอะไรไว้ ลูกคุณแม่หนูรู้ว่าคุณแม่รักลูกแค่ไหน และลูกก็รักคุณแม่ เมื่อพ่อก็ไม่อยู่เขาก็รักคุณแม่มาก แล้วหนูมีปัญหาอะไรถึงไม่บอกคุณแม่ว่าลูกแม่ตกน้ำ หนูตอบคุณแม่สิ
กระติก : หนูตั้งสติไม่ได้ หนูเสียใจจริง ๆ ที่ไม่ได้โทร. หาคุณแม่คนแรกหนูยอมรับตรงนี้ หนูสติแตกมาก ๆ หนูเสียใจกับการจากไปของโม
แม่แตงโม : วันนี้วันที่ 4 แล้วนะคะ เราเห็นกันมาตลอดเพราะว่าหนูเป็นผู้จัดการแตงโม แล้วทำไมถึงพูดว่าไม่บอกคุณแม่เพราะคุณแม่ไม่ใช่นักดำน้ำ
กระติก : แม่ก็รู้ว่าหนูสื่อสารไม่ได้ แล้ว ณ ตอนนั้นหนูสติแตก หนูไม่รู้จะคุยกับแม่ยังไง ไม่รู้จะเริ่มยังไง หนูเสียใจหนูยอมรับ หนูยอมให้แม่ว่าหนู แต่หนูเสียใจจริง ๆ
แม่แตงโม : คุณแม่ไม่เห็นกระติกร้องไห้สักครั้งเดียว จริง ๆ กระติกต้องร้องไห้ฟูมฟายด้วยซ้ำ
กระติก : คนเราเป็นมนุษย์หนูขออธิบาย การแสดงออกต่างกันนะแม่ หนูอยู่คนเดียวหนูร้องไห้ฟูมฟายได้ แต่หนูอยู่ต่อหน้าคนอื่นหนูทำไม่ได้จริง ๆ หนูเสียใจ (แม่แตงโม : คุณปอยังทำได้เลย) อันนั้นคุณปอแม่ แม่ต้องเข้าใจหนูด้วยนะว่าหนูเป็นคนแบบนี้ ถ้าหนูอ่อนโยนกว่านี้มันคงจะดีกว่านี้ใช่ไหม แม่อยากเห็นหนูร้องไห้ใช่ไหม
แม่แตงโม : คุณแม่คิดว่าพูดตรง ๆ นะ ปิดบังอะไรไว้หรือเปล่า เอาน้องโมไปทำอะไร
กระติก : คุณแม่หนูไม่ได้ปิดบังอะไร คุณแม่คุยกับตำรวจนะคะ หนูให้ปากคำกับตำรวจไปหมดแล้ว วันหนึ่งความจริงกระจ่างคุณแม่จะรู้เอง หนูไม่มีอะไรปิดบังคุณแม่เลย หนูอยากให้โมตื่นมานะ มาอธิบายกับแม่ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่โมเขาไม่ตื่นมาแล้ว ทุกวันหนูนอนคิดถึงโม เหตุการณ์วันนั้นหนูชวนโมไปลงเรือแค่นั้นเอง แล้วโมเขาเดินไปฉี่ไม่บอกหนูด้วยซ้ำ หนูรู้อีกทีคือเขาตกไปแล้ว อันนี้คือสั้น ๆ ได้ใจความเลยแม่
ทำไมหนูรู้สึกว่าสังคมลงโทษหนูขนาดนี้ หนูชวนเพื่อนไปนั่งเรือ คิดถึงเขาในแง่ดี ไปนั่งเรือดี ๆ สวย ๆ แต่มันเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน หนูไม่ได้อยากให้มันเกิดขึ้น หนูพูดเหมือนแก้ตัว แต่มันคือเรื่องจริง เรื่องจริงกว่านี้ไม่มีอีกแล้วแม่ ให้หนูเล่าเป็นพัน ๆ ครั้งมันก็คือเรื่องนี้
แม่แตงโม : หนูไม่ได้ดูแลน้องโมในฐานะผู้จัดการใช่ไหม หนูรู้ไหมว่าการเป็นผู้จัดการดาราเขาต้องดูแลกันยังไง คุณนั่งเล่นโทรศัพท์ คุณไม่ได้ดูว่าน้องโมจะไปฉี่ตรงไหน
กระติก : คุณแม่เขาไม่ได้บอกใครเลย ทุกคนเป็นพยานให้ได้ มีแซนคนเดียวที่รู้ หนูยืนใกล้ปอกับพี่เบิร์ต เขาไปตอนไหนเรายังไม่รู้เลยแม่ รู้อีกทีคือได้ยินเสียงข้างหลังตะโกนมาว่า เอ๊ย โมตกน้ำ ให้หนูอธิบายกี่ทีหนูก็พูดได้แค่นี้แม่ เพราะหนูรู้แค่นี้
แม่แตงโม : แล้วหนูทำอะไรอยู่
กระติก : หนูดูวิวอะแม่ หนูมี 2 หมวด คือหนึ่งหนูเป็นเพื่อนเขา สองเป็นผู้จัดการ แต่วันนั้นเราชวนกันไปเที่ยวไปถ่ายรูป ถ้าวันนั้นมีงานเราจะดูแลนักแสดงอย่างดี แต่วันนั้นเราชวนกันไปเที่ยวเราไปกันในฐานะเพื่อน เราเป็นเพื่อนกัน หนูก็มีสิทธิ์จะเที่ยวของหนูอะค่ะ หนูว่าเขาก็ไม่ได้สนใจหนูด้วยตอนนั้น จะโทษหนูยังไงก็ได้ หนูพูดอันนี้จริงที่สุดแล้ว ถ้าหนูพูดเกินกว่านี้มันไม่จริงแล้วแม่ หนูอยากให้โมไปเข้าฝันแม่นะ แล้วอธิบายเหตุการณ์นั้นให้แม่ฟังด้วยตัวเองว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่มันทำไม่ได้ ต้องเป็นหนูมานั่งอธิบายเอง หนูพูดไปเหมือนแม่ก็ไม่เชื่อ ตอนนี้หนูผิดเลยนะ 2 อย่าง หนูไม่โทร. หาแม่ และอีกอย่างหนูไม่กล้าพอที่จะเผชิญหน้า ช้าไปทุก ๆ เรื่อง หลายวันแล้วยังไม่โทร.
แม่แตงโม : หนีหน้าคุณแม่ด้วย วันที่ไปที่นิติเวชหนูก็ไป เราก็อยู่ใกล้กันแค่นั้น หนูไม่เข้าไปดูศพน้อง (กระติก : เจ้าหน้าที่บอกว่าปิดแล้ว) ยังไม่ปิด พวกเพื่อน ๆ เขาเข้าไปดูกันหมด
กระติก : ปิดแล้วแม่ หนูมีพยาน แม่ให้หนูจำภาพโมแบบดี ๆ เถอะนะแม่ หนูไม่ได้อยากเข้าไป ให้โมมันไปจากหนู ให้หนูจำภาพมันดี ๆ เถอะแม่
แม่แตงโม : ที่คุณพูดมันถูกต้อง แต่มันเป็นการแสดงออกซึ่งความแปลกประหลาดสำหรับคุณแม่มาก กระติกเป็นแม่อีสเตอร์ คุณแม่ก็รักอีสเตอร์ลูกคุณมาก คุณแม่ซื้อเปียโนให้นะ (เสียงสั่นเครือ) แล้วกระติกเป็นแบบนี้กับคุณแม่ได้ยังไง น้องโมตกเรือ ช้า 10 นาที หนูโทร. ครึ่งชั่วโมงหนูโทร. คุณแม่ก็จะให้อภัยนะ แต่นี่ 4 วัน เราถึงได้เจอกัน วันที่เจอศพน้องโมก็ไม่เห็นคุณ จะให้คุณแม่คิดยังไง คุณมีอะไรปิดบังคุณแม่หรือเปล่า
กระติก : หนูไม่มีอะไรปิดบังคุณแม่เลยค่ะ ไม่มีสักนิดหนึ่ง หนูยอมรับว่าหนูช้า แล้วหนูก็เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หนูก็โดนสังคมลงโทษทุกวันนี้ เพราะว่าสิ่งที่หนูไม่กล้าที่จะโทร. นึกไม่ทัน ช็อก ตั้งสติไม่ได้
แม่แตงโม : คนคนนี้เหรอที่บอกว่ารักลูกคุณแม่ เป็นผู้จัดการลูกคุณแม่ เมื่อลูกแม่ตายหนูยังไม่ไปดูศพ ทำไมไม่ช่วยน้องโม
กระติก : แม่หนูช่วย แม่ถามเพื่อน ๆ หนูโทร. หาที่โบไง
แม่แตงโม : ก็ตกไปลึกแล้วจะโทร. หาพี่โบทำไม
กระติก : เพื่อน ๆ เขาก็ช่วยกันตามหา ในคลิปก็มี เราวนตามหากันตั้งหลายรอบนะแม่นะ เราทำกันสุดความสามารถ เราตะโกนโม โม โม จนสุดเสียง
แม่แตงโม : คนตกในน้ำคุณไปตะโกนเขาจะได้ยินไหม
กระติก : แล้วจะให้หนูทำยังไงอะแม่
แม่แตงโม : คุณต้องกระโดดลงไปสิ
กระติก : แม่ !
แม่แตงโม : คุณก็กระโดดลงไปด้วยก็ได้ ถ้าคุณว่ายน้ำเป็นแล้วก็ขึ้นมา
กระติก : หนูว่ายน้ำไม่เป็นแม่
แม่แตงโม : อันนี้ไม่ทราบ คุณต้องแสดงความช่วยเหลือสิ
กระติก : แม่หนูขอโทษ ๆ
แม่แตงโม : ไม่ใช่ปล่อยลงไปในน้ำจนลึก ในปอดเขาเต็มไปด้วยทราย เพราะเขาลงไปถึงพื้นดินพื้นทราย เขาพยายามตะเกียกตะกายนะ
กระติก : (ก้มกราบที่ตัก วางพวงมาลัย ก้มกราบเท้า จากนั้นลุกออกไป)
วันที่ 1 มีนาคม 2565 ไฮโซปอ พร้อมด้วย โรเบิร์ต ผู้ที่อยู่บนเรือและกระติก ผู้จัดการส่วนตัว แตงโม นิดา ได้เข้าขอขมาคุณแม่ของแตงโม ซึ่งคุณแม่ไม่รับพวงมาลัยมาขอขมาจากกระติก พร้อมทั้งบอกว่า คุณแม่ยังไม่รับพวงมาลัยของน้องกระติก คุณแม่ขอถามก่อนว่าวันนี้วันที่ 4 แล้ว หนูไม่เคยติดต่อคุณแม่เลยว่าน้องโมตกน้ำ เพราะเหตุใด มีปัญหาอะไร หนูปิดบังอะไรไว้ ลูกคุณแม่หนูรู้ว่าคุณแม่รักลูกแค่ไหน และลูกก็รักคุณแม่ เมื่อพ่อก็ไม่อยู่เขาก็รักคุณแม่มาก แล้วหนูมีปัญหาอะไรถึงไม่บอกคุณแม่ว่าลูกแม่ตกน้ำ หนูตอบคุณแม่สิ
กระติก : หนูตั้งสติไม่ได้ หนูเสียใจจริง ๆ ที่ไม่ได้โทร. หาคุณแม่คนแรกหนูยอมรับตรงนี้ หนูสติแตกมาก ๆ หนูเสียใจกับการจากไปของโม
แม่แตงโม : วันนี้วันที่ 4 แล้วนะคะ เราเห็นกันมาตลอดเพราะว่าหนูเป็นผู้จัดการแตงโม แล้วทำไมถึงพูดว่าไม่บอกคุณแม่เพราะคุณแม่ไม่ใช่นักดำน้ำ
กระติก : แม่ก็รู้ว่าหนูสื่อสารไม่ได้ แล้ว ณ ตอนนั้นหนูสติแตก หนูไม่รู้จะคุยกับแม่ยังไง ไม่รู้จะเริ่มยังไง หนูเสียใจหนูยอมรับ หนูยอมให้แม่ว่าหนู แต่หนูเสียใจจริง ๆ
แม่แตงโม : คุณแม่ไม่เห็นกระติกร้องไห้สักครั้งเดียว จริง ๆ กระติกต้องร้องไห้ฟูมฟายด้วยซ้ำ
กระติก : คนเราเป็นมนุษย์หนูขออธิบาย การแสดงออกต่างกันนะแม่ หนูอยู่คนเดียวหนูร้องไห้ฟูมฟายได้ แต่หนูอยู่ต่อหน้าคนอื่นหนูทำไม่ได้จริง ๆ หนูเสียใจ (แม่แตงโม : คุณปอยังทำได้เลย) อันนั้นคุณปอแม่ แม่ต้องเข้าใจหนูด้วยนะว่าหนูเป็นคนแบบนี้ ถ้าหนูอ่อนโยนกว่านี้มันคงจะดีกว่านี้ใช่ไหม แม่อยากเห็นหนูร้องไห้ใช่ไหม
แม่แตงโม : คุณแม่คิดว่าพูดตรง ๆ นะ ปิดบังอะไรไว้หรือเปล่า เอาน้องโมไปทำอะไร
กระติก : คุณแม่หนูไม่ได้ปิดบังอะไร คุณแม่คุยกับตำรวจนะคะ หนูให้ปากคำกับตำรวจไปหมดแล้ว วันหนึ่งความจริงกระจ่างคุณแม่จะรู้เอง หนูไม่มีอะไรปิดบังคุณแม่เลย หนูอยากให้โมตื่นมานะ มาอธิบายกับแม่ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่โมเขาไม่ตื่นมาแล้ว ทุกวันหนูนอนคิดถึงโม เหตุการณ์วันนั้นหนูชวนโมไปลงเรือแค่นั้นเอง แล้วโมเขาเดินไปฉี่ไม่บอกหนูด้วยซ้ำ หนูรู้อีกทีคือเขาตกไปแล้ว อันนี้คือสั้น ๆ ได้ใจความเลยแม่
ทำไมหนูรู้สึกว่าสังคมลงโทษหนูขนาดนี้ หนูชวนเพื่อนไปนั่งเรือ คิดถึงเขาในแง่ดี ไปนั่งเรือดี ๆ สวย ๆ แต่มันเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน หนูไม่ได้อยากให้มันเกิดขึ้น หนูพูดเหมือนแก้ตัว แต่มันคือเรื่องจริง เรื่องจริงกว่านี้ไม่มีอีกแล้วแม่ ให้หนูเล่าเป็นพัน ๆ ครั้งมันก็คือเรื่องนี้
แม่แตงโม : หนูไม่ได้ดูแลน้องโมในฐานะผู้จัดการใช่ไหม หนูรู้ไหมว่าการเป็นผู้จัดการดาราเขาต้องดูแลกันยังไง คุณนั่งเล่นโทรศัพท์ คุณไม่ได้ดูว่าน้องโมจะไปฉี่ตรงไหน
กระติก : คุณแม่เขาไม่ได้บอกใครเลย ทุกคนเป็นพยานให้ได้ มีแซนคนเดียวที่รู้ หนูยืนใกล้ปอกับพี่เบิร์ต เขาไปตอนไหนเรายังไม่รู้เลยแม่ รู้อีกทีคือได้ยินเสียงข้างหลังตะโกนมาว่า เอ๊ย โมตกน้ำ ให้หนูอธิบายกี่ทีหนูก็พูดได้แค่นี้แม่ เพราะหนูรู้แค่นี้
แม่แตงโม : แล้วหนูทำอะไรอยู่
กระติก : หนูดูวิวอะแม่ หนูมี 2 หมวด คือหนึ่งหนูเป็นเพื่อนเขา สองเป็นผู้จัดการ แต่วันนั้นเราชวนกันไปเที่ยวไปถ่ายรูป ถ้าวันนั้นมีงานเราจะดูแลนักแสดงอย่างดี แต่วันนั้นเราชวนกันไปเที่ยวเราไปกันในฐานะเพื่อน เราเป็นเพื่อนกัน หนูก็มีสิทธิ์จะเที่ยวของหนูอะค่ะ หนูว่าเขาก็ไม่ได้สนใจหนูด้วยตอนนั้น จะโทษหนูยังไงก็ได้ หนูพูดอันนี้จริงที่สุดแล้ว ถ้าหนูพูดเกินกว่านี้มันไม่จริงแล้วแม่ หนูอยากให้โมไปเข้าฝันแม่นะ แล้วอธิบายเหตุการณ์นั้นให้แม่ฟังด้วยตัวเองว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่มันทำไม่ได้ ต้องเป็นหนูมานั่งอธิบายเอง หนูพูดไปเหมือนแม่ก็ไม่เชื่อ ตอนนี้หนูผิดเลยนะ 2 อย่าง หนูไม่โทร. หาแม่ และอีกอย่างหนูไม่กล้าพอที่จะเผชิญหน้า ช้าไปทุก ๆ เรื่อง หลายวันแล้วยังไม่โทร.
แม่แตงโม : หนีหน้าคุณแม่ด้วย วันที่ไปที่นิติเวชหนูก็ไป เราก็อยู่ใกล้กันแค่นั้น หนูไม่เข้าไปดูศพน้อง (กระติก : เจ้าหน้าที่บอกว่าปิดแล้ว) ยังไม่ปิด พวกเพื่อน ๆ เขาเข้าไปดูกันหมด
กระติก : ปิดแล้วแม่ หนูมีพยาน แม่ให้หนูจำภาพโมแบบดี ๆ เถอะนะแม่ หนูไม่ได้อยากเข้าไป ให้โมมันไปจากหนู ให้หนูจำภาพมันดี ๆ เถอะแม่
แม่แตงโม : ที่คุณพูดมันถูกต้อง แต่มันเป็นการแสดงออกซึ่งความแปลกประหลาดสำหรับคุณแม่มาก กระติกเป็นแม่อีสเตอร์ คุณแม่ก็รักอีสเตอร์ลูกคุณมาก คุณแม่ซื้อเปียโนให้นะ (เสียงสั่นเครือ) แล้วกระติกเป็นแบบนี้กับคุณแม่ได้ยังไง น้องโมตกเรือ ช้า 10 นาที หนูโทร. ครึ่งชั่วโมงหนูโทร. คุณแม่ก็จะให้อภัยนะ แต่นี่ 4 วัน เราถึงได้เจอกัน วันที่เจอศพน้องโมก็ไม่เห็นคุณ จะให้คุณแม่คิดยังไง คุณมีอะไรปิดบังคุณแม่หรือเปล่า
กระติก : หนูไม่มีอะไรปิดบังคุณแม่เลยค่ะ ไม่มีสักนิดหนึ่ง หนูยอมรับว่าหนูช้า แล้วหนูก็เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หนูก็โดนสังคมลงโทษทุกวันนี้ เพราะว่าสิ่งที่หนูไม่กล้าที่จะโทร. นึกไม่ทัน ช็อก ตั้งสติไม่ได้
แม่แตงโม : คนคนนี้เหรอที่บอกว่ารักลูกคุณแม่ เป็นผู้จัดการลูกคุณแม่ เมื่อลูกแม่ตายหนูยังไม่ไปดูศพ ทำไมไม่ช่วยน้องโม
กระติก : แม่หนูช่วย แม่ถามเพื่อน ๆ หนูโทร. หาที่โบไง
แม่แตงโม : ก็ตกไปลึกแล้วจะโทร. หาพี่โบทำไม
กระติก : เพื่อน ๆ เขาก็ช่วยกันตามหา ในคลิปก็มี เราวนตามหากันตั้งหลายรอบนะแม่นะ เราทำกันสุดความสามารถ เราตะโกนโม โม โม จนสุดเสียง
แม่แตงโม : คนตกในน้ำคุณไปตะโกนเขาจะได้ยินไหม
กระติก : แล้วจะให้หนูทำยังไงอะแม่
แม่แตงโม : คุณต้องกระโดดลงไปสิ
กระติก : แม่ !
แม่แตงโม : คุณก็กระโดดลงไปด้วยก็ได้ ถ้าคุณว่ายน้ำเป็นแล้วก็ขึ้นมา
กระติก : หนูว่ายน้ำไม่เป็นแม่
แม่แตงโม : อันนี้ไม่ทราบ คุณต้องแสดงความช่วยเหลือสิ
กระติก : แม่หนูขอโทษ ๆ
แม่แตงโม : ไม่ใช่ปล่อยลงไปในน้ำจนลึก ในปอดเขาเต็มไปด้วยทราย เพราะเขาลงไปถึงพื้นดินพื้นทราย เขาพยายามตะเกียกตะกายนะ
กระติก : (ก้มกราบที่ตัก วางพวงมาลัย ก้มกราบเท้า จากนั้นลุกออกไป)