เรื่องราวชวนทึ่งของชายหนุ่ม อดีตเด็กเร่ร่อนข้างถนน 20 ปี ผ่านไป กลายเป็น CEO มูลนิธิช่วยเหลือเด็ก ชีวิตสุดพีค เจ๋งสุดยอด
โด๋ ซวี หวิ เกิดในครอบครัวเกษตรกรในจังหวัดนามดินห์ ประเทศเวียดนาม เขามีพี่น้องอีก 3 คนที่อาศัยอยู่กับแม่ ส่วนพ่อมักเดินทางไปทำงานที่จังหวัดอื่น จนเรื่องราวเลวร้ายลงเมื่อพ่อของเขาล้มป่วย ต้องกลับไปรักษาตัวที่บ้าน ทำให้ครอบครัวสูญเสียรายได้สำคัญ
"ในตอนนั้น ผมไม่มีเงินไปโรงเรียน ครอบครัวของเราอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก จนผมไม่อยากเรียนต่อ" โด๋ ซวี หวิ กล่าว
แต่แน่นอนว่าชีวิตข้างถนนไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเด็กวัยเท่านี้ ด้วยอันตรายและความเสี่ยงรอบตัว โด๋ ซวี หวิ เผชิญช่วงเวลาที่ท้อแท้และสิ้นหวัง เขาอยากเปลี่ยนแปลงชีวิตให้ดีขึ้น "ผมต้องการใครสักคนที่จะช่วยฉัน ให้โอกาสผมได้เปลี่ยนชีวิต"
กระทั่งหลังจากนั้นประมาณเกือบ 1 ปี โด๋ ซวี หวิ ได้พบกับผู้ใจดีชื่อว่า ไมเคิล โบโรวสกี ซึ่งต่อมาเป็นผู้ก่อตั้งมูลนิธิเด็ก Blue Dragon ในตอนนั้นไมเคิล เป็นอาจารย์สอนที่มหาวิทยาลัย National Economics University และเปิดชั้นเรียนสอนภาษาอังกฤษสำหรับเด็กเร่ร่อน เขาขอให้ โด๋ ซวี หวิ ซึ่งขัดรองเท้าให้ในขณะนั้น ไปร่วมเรียนด้วยกัน
ตอนแรกโด๋ ซวี หวิ ระมัดระวังตัวมาก สงสัยว่าชายคนนี้จะมาหลอกเขาหรือเปล่า คนที่ไม่รู้จักกัน อยู่ดี ๆ จะมาช่วยเหลือทำไม เขาคิดอยู่นานเพราะกลัวว่ามีปัญหาตามมาภายหลัง แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจไปร่วมเรียนกับไมเคิล โดยมีเพื่อนข้างถนนอีกคนที่มาจากบ้านเกิดเดียวกันไปด้วย
ในตอนนั้น โด๋ ซวี หวิ คิดเพียงว่าหากสามารถสื่อสารกับชาวต่างชาติได้ ก็จะหาเงินจากอาชีพขัดรองเท้าได้มากขึ้น แต่หลังจากนั้นเขาก็เริ่มสนใจในการเรียนมากขึ้น "ผมไปเรียนที่นั่น ทั้งได้เรียน เล่น ได้กิน ผมรู้สึกซาบซึ้ง รู้สึกเหมือนมีค่า เมื่อคนเหล่านั้นปฏิบัติกับผมอย่างดี"
และชั้นเรียนนี้เองเป็นจุดเริ่มต้น ทำให้โด๋ ซวี หวิ ได้รับการช่วยเหลือย้ายเข้าไปอยู่กับมูลนิธิ Blue Dragon พร้อมกับเด็กอีก 6 คน เป็นกลุ่มแรก หลังจากมีชีวิตที่ดีขึ้น นั้นเขาก็ได้มีโอกาสเติบโตและประสบความสำเร็จในสายงานด้านบริการ แต่ก็ยังแวะเวียนกลับมาช่วยงานมูลนิธิบ้าง
จนในปี 2552 โด๋ ซวี หวิ ตัดสินใจกลับมาทำงานที่มูลนิธิเต็มตัว กลายเป็นผู้ที่ออกไปช่วยเหลือเด็ก ๆ เร่ร่อนข้างถนน ซึ่งล้วนแต่ประสบปัญหาทางสังคมมากมาย ตั้งแต่เหยื่ออาชญากรรมและความรุนแรงทางเพศ แม้ว่าจะเป็นงานที่ยากลำบาก แต่เขาก็ต่อสู้อย่างหนัก เพราะคิดว่า เมื่อเขาได้รับโอกาสมา เด็กเหล่านี้ก็สมควรได้รับเช่นเดียวกัน
เช่นเดียวกับโด๋ ซวี หวิ สุดท้ายเขาได้รับตำแหน่งกลายเป็นหนึ่งในทีมผู้บริหารมูลนิธิ อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จนี้ไม่ใช่เป้าหมายสูงสุดในชีวิตของเขา เพราะเป้าหมายของคือการได้ช่วยเหลือเด็ก ๆ ให้ได้รับโอกาส และเขาก็ยังคงเดินหน้าทำเช่นนี้ต่อไป
"หากพวกเขาทุ่มเทจริง ๆ พวกเขาสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของพวกเขาเองได้" โด๋ ซวี หวิ กล่าว
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก vietnamnews