ครูสาวจ่อฟ้องกลับ ยันทำตามกฎแต่โดนบีบให้พ้นสภาพ - ทนายชี้ รร. ไม่หมิ่นประมาท

          เรื่องที่เกิดขึ้น ทำให้ทัวร์ลงโรงเรียนและ ผอ. ทันที ประกาศแบบนี้ทำเหมือนครูมีความผิดร้ายแรง น่าเกลียดมาก ส่วนครูคนดังกล่าว เตรียมฟ้องโรงเรียนกลับ


          ต่อมาวันที่ 14 มีนาคม ผู้บริหารโรงเรียนเรียกไปคุย แจ้งให้ทราบว่า ตนสิ้นสภาพการเป็นครูของทางโรงเรียน มีผลในวันรุ่งขึ้นทันที เพราะทำผิดข้อบังคับในปี 2564 ที่ระบุว่า บุคลากรที่มีความประสงค์จะไปสอบราชการ พนักงานรัฐ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานเอกชน จะต้องลาออกก่อนการประกาศผลในรอบนั้น ๆ และตนก็มีการเซ็นรับทราบในเอกสารดังกล่าวแล้ว

          ตนนั้นสมัครสอบไปในเดือนพฤษภาคม 2564 แต่ไม่ได้แจ้งทางโรงเรียน ด้านโรงเรียนก็ไม่มีการตรวจสอบ ตนก็ทำงานตามปกติ ส่วนการสอบที่เกิดขึ้น ตนเพิ่งสอบในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ส่วนผลสอบออกมาเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ตนคิดว่าโรงเรียนต้องรู้ความจริงแน่ ๆ ตนจึงไปยื่นใบลาออกด้วยตัวเองในวันที่ 2 มีนาคม และวันที่ 8 มีนาคม โรงเรียนก็ประกาศรับสมัครครูแนะแนวคนใหม่

          หลังจากการพ้นสภาพ โรงเรียนติดต่อกลับมาว่า คืนคอมพิวเตอร์หรือยัง ตนก็คืนให้ในเวลาต่อมา จากนั้นก็มาตามงานตนอีก ขอให้คืนเพจกิจกรรมแนะแนวซึ่งตนเป็นคนสร้างขึ้นมา เรื่องนี้ทำเอาตนรู้สึกไม่ดีมาก

          กระทั่งโรงเรียนมีการออกประกาศเรื่องการพ้นสภาพ ตนคิดว่าไม่มีอะไร แต่ในโลกโซเชียลกลับให้ความสนใจมากจนเกิดประเด็น ที่สำคัญ ในอดีตก็มีบุคลากรของโรงเรียนลาออก ก็ไม่มีการประกาศแบบนี้ ทำให้ตนรู้สึกว่า ไม่ยุติธรรม และทำให้คนเห็นประกาศเข้าใจผิดตนได้

          ในมุมมองของตน ไม่ควรมีกฎห้ามบุคลากรครูไปสอบบรรจุเป็นข้าราชการครู เพราะการออกกฎแบบนี้ทำให้ขาดความก้าวหน้าในอาชีพ เพราะทุกคนก็ต้องการความมั่นคงในชีวิต ส่วนสาเหตุที่ตนไม่แจ้งให้ทางโรงเรียนทราบ เพราะไม่แน่ใจว่าจะสอบติดไหม ถ้าหากยื่นใบลาออกก่อน ก็ไม่มีงานรองรับอีก

ทนายชี้ กฎให้ครูลาออกไม่ถูกต้อง

          นายพงศธร สุวรรณรักษา ทนายความ เปิดเผยว่า การที่โรงเรียนโพสต์เรื่องการพ้นสภาพ จริง ๆ ไม่มีความผิดทางกฎหมาย ไม่ใช่ข้อความหมิ่นประมาท แต่การพ้นสภาพของครูหญิงไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เพราะครูหญิงไม่ได้ทำผิดอะไร และประกาศของโรงเรียนในปี 2564 ตามกฎหมายเป็นเรื่องของสภาพการจ้างงาน ซึ่งต้องได้รับการยินยอมจากตัวลูกจ้าง

          ส่วนครูหญิงทำสัญญาว่าจ้างปี 2562 ประกาศดังกล่าวจึงไม่อยู่ในสัญญา และข้อบังคับนี้ขัดกับกฎหมาย ไม่สามารถบังคับใช้ได้ เป็นการบังคับสิทธิเสรีภาพในการประกอบอาชีพ ฉะนั้นการกระทำของโรงเรียนจึงไม่ถูกต้อง ส่วนการโพสต์การพ้นสภาพ เป็นความผิดที่นำข้อความอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์

ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเช้านี้