ส่องเบื้องหลังลูกศิษย์พระวันรัต
ออกอุบายขณะอดีตเจ้าอาวาสวัดบวรฯ อาพาส ยักยอกเงินกว่า 190 ล้าน ด้าน
อ.จตุรงค์ เผยไม่ใช่ทรัพย์สินส่วนตัว แต่เป็นเงินบูรณะวัด
วันที่ 3 เมษายน 2565
ข่าวช่องวัน เปิดเผยว่า มีรายงานเปิดเผยเกี่ยวกับพฤติการของผู้ก่อเหตุ พบว่ามีชื่อว่า น. เป็นลูกศิษย์คนสนิทฝ่ายฆราวาสของพระวันรัต อาศัยความสนิทฉวยโอกาสในช่วงที่พระวันรัตกำลังอาพาสรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ทำการปลอมแปลงเอกสารและลายเซ็นเพื่อทำธุรกรรมการเงิน
นาย น. ได้โยกย้ายทรัพย์สินของวัดบวรฯ กว่า 100 ล้านบาท รวมทั้งยักยอกจากวัดสาขาอีกราว 80 ล้านบาท รวมแล้วความเสียหายเบื้องต้นที่ตรวจสอบได้คือประมาณ 190 ล้าน ซึ่งขณะนี้ยังคงมีการตรวจสอบความเสียหายเพิ่มเติม
จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 นาย น. นำสมุดบัญชีเงินฝาก และบัตรของพระวันรัต ไปขอเปลี่ยนแปลงข้อมูลการทำธุรกรรมจากธนาคารผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ หลังจากนั้นจึงโอนเงินจากบัญชีพระวันรัต และบัญชีอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัดบวรฯ มายังบัญชีส่วนตัวของนาย น.
ต่อมาช่วงพฤศจิกายน 2564 นาย น. ใช้อุบายหลอกลวงให้พระวันรัตลงลายมือชื่อในใบถอนเงิน แล้วนำมากรอกตัวเลขเองเพื่อถอนเงินออกจากบัญชี แล้วนำเงินเข้าบัญชีตนเอง จากนั้นเดือนมกราคม 2565 นาย น. ใช้อุบายเหมือนเดิม แต่มอบหมายให้ผู้ใกล้ชิดพระวันรัตอีกราย เป็นผู้นำเงินออกมาจากบัญชี ครั้งนี้ทางวัดสาขาคือ วัดวชิรธรรมมาราม ตรวจสอบพบการทุจริต ความเสียหายตอนนั้นคือ 80 ล้านบาท วัดเข้าแจ้งความไว้กับตำรวจกองปราบปราม
เดือนมีนาคม 2565 ตำรวจสามารถจับกุม นาย น. ได้ที่คอนโด พบทรัพย์สินจำนวนมาก เช่น รถยนต์หรู เงินสด เงินฝากในบัญชี อสังหาริมทรัพย์ กระเป๋าแบรนด์เนม พระเครื่องทองคำ รวมมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท มีการแจ้งข้อหาฉ้อโกง ปลอมแปลงเอกสาร และฟอกเงิน ก่อนส่งตัวไปฝากขังต่อศาล
เบื้องต้น นาย น. ให้การปฏิเสธ อ้างว่าทั้งหมดเป็นการให้โดยเสน่หา เพราะทำงานรับใช้พระวันรัตมานานเกือบ 20 ปี แต่ตำรวจไม่ได้ปักใจเชื่อคำให้การ พร้อมยื่นคัดค้านการประกันตัวเพราะมูลค่าความเสียหายสูงเกรงว่าจะหลบหนี ขณะนี้กำลังสืบสวนขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการ
แจง เงิน 200 ล้านไม่ใช่ของพระวันรัต
ด้าน อ.จตุรงค์ จงอาสา นักวิชาการด้านพุทธศาสนา เผยว่า เงินดังกล่าวที่ถูกยักยอกไปไม่ใช่เงินส่วนตัวของพระวันรัต แต่เป็นเงินเพื่อบูรณะวัดบวรฯ และวัดสาขา บัญชีเป็นในนามวัด พร้อมแนะนำให้คนที่เคยรับทรัพย์สินหรือส่งของจาก นาย น. ให้มาแสดงความบริสุทธิ์ใจกับตำรวจ เพราะไม่เช่นนั้นอาจจะถูกหมายเรียกให้มาสอบปากคำได้
พร้อมกันนั้น นายจตุรงค์ ชี้แจงผ่าน
เฟซบุ๊ก Jaturong Mantaso Jongarsa ยืนยันว่า สมเด็จพระวันรัต ถือเรื่องการจับเงิน ไม่รับเงินมาก ๆ ดังนั้น โจรจึงอาศัยช่องทางนี้ในการเข้าถึงธุรกรรมทางการเงินในวัดต่าง ๆ ช่วงที่ท่านยังรักษาตัวที่โรงพยาบาล
นอกจากนี้ การที่คนขับรถธรรมดา ไปถอนเงินจากบัญชีต่าง ๆ ได้ เราควรโทษพระที่มรณภาพไปแล้วหรือ ? ทำไมไม่ด่าโจร ด่าระบบคณะสงฆ์ ด่าสถาบันการเงิน ที่ปล่อยให้โจรเอาเงินออกไปนอกระบบ
สุดท้ายขอย้ำว่า ท่านไม่เคยสะสมทรัพย์สินส่วนตัว มีแต่ดูแลทรัพย์สินคณะสงฆ์ส่วนกลาง ดูแลทรัพย์สินคณะธรรมยุติ ดูแลทรัพย์สินวัด ดูแลทรัพย์สินสาธารณกุศล