ดราม่าชาวนาเผาที่นาไฟท่วม ลั่น เผาก็เสียค่าปรับ 500 บาท เผาไม่ถึงชั่วโมง ถ้าไม่เผา ผลผลิตก็ไม่ดี ทำนามานานไม่มีปัญหา เริ่มมาลำบากตอนหมู่บ้านเพิ่งสร้าง คนร้องเรียนทำตัวเป็นเทวดาลงมาจากสวรรค์
จากกรณีที่ เฟซบุ๊ก อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 3 ได้โพสต์คลิปวิดีโอที่สมาชิกเพจร้องเรียนว่าชาวนาในพื้นที่ อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี เผานาจนชาวบ้านใกล้เคียงได้รับความเดือดร้อนจากมลพิษจากควันไฟ โดยให้ข้อมูลว่าเผาทุกรอบที่ไถนา วอนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแล
ชาวนาลั่นจุดปีละครั้งเอง ไม่ถึงชั่วโมง โต้คนร้องเรียนปัญญาอ่อน ไม่มีสมอง จุดปุ๊บก็จ่ายค่าปรับ 500
ต่อมา ช่อง 3 ได้สัมภาษณ์นายสุรศักดิ์ พันธุ์ทอง อายุ 53 ปี ชาวนาในพื้นที่ดังกล่าว ออกมาโต้ว่า การจุดไฟเผานาเป็นวิถีชาวนา เขารู้กันว่าต้องจุดไฟ มีแปลงหนึ่งที่ไม่เผา เพราะไปเชื่อพวกนักวิชาการแล้วได้ข้าวไม่เท่าไหร่ เกิดหนี้สินมาใครจะรับผิดชอบ ชาวก็ไม่ได้เก็บเกี่ยว จุดแค่ปีละครั้ง ไม่ถึงชั่วโมง "โดนควันนิดหน่อย ปัญญาอ่อน มันสมองไม่มี"
นายสุรศักดิ์ ระบุว่า ตนไม่รู้จักเจ้าของที่นาแปลงที่เป็นปัญหา ตำรวจหาคนเผาไม่เจอ ตนต้องไปเสียค่าปรับแทนเพราะเห็นใจชาวนาด้วยกัน จ่ายไป 500 บาท ข้อหาเผาหรือกระทำผิดใดภายใน 500 เมตร จากทางเดินรถ ที่ สภ.ไทรน้อย
"คนทำนาทำกับความลำบาก ปุ๋ยก็แพง น้ำมันก็แพง ให้นักวิชาการมาทำนาแบบไม่ต้องเผา มาทำดูว่าใครจะดีกว่า อย่าไปนั่งในห้องแอร์พูดสวยงาม ผมยังไม่ได้จุดแต่มาเสียค่าปรับแทน นาของผมห่างไปอีก 2 กิโลเมตร"
ชาวนาลั่นคนในหมู่บ้านทำตัวเป็นผู้ดีลงมาจากสวรรค์ เห็นควันนิดหน่อยก็โวยวายแล้ว
นายสุรศักดิ์ ระบุว่า เห็นว่าวุ่นวายเลยตัดปัญญาจ่ายค่าปรับเอง คนเผาเขาก็เฝ้าอยู่ ไม่ได้ปล่อยปละละเลย เห็นควันนิดหน่อยก็โวยวายแล้ว อยากให้เห็นใจกันบ้าง หลังจากนี้ก็ต้องทยอยเผาไปเรื่อย ๆ ให้น้อยที่สุด ตนเป็นคนเก่าแก่ ทำนามาตลอดชีวิต มาลำบากตอนที่โครงการหมู่บ้านขึ้น ทำเป็นพวกผู้ดีลงมาจากสวรรค์ ที่ต้องเผาเพราะข้าวดีดเต็มนา อยากให้พวกนักวิชาการมาดูผลของการไม่เผาบ้าง จะได้รู้ว่าชาวนาลำบากแค่ไหน ผลผลิตก็ไม่ดี ทุกเจ้าเจอข้าวดีดก็เจ๊งหมด ปุ๋ยแพงขึ้นทุกวัน พวกนักวิชาการลองเอาเวลาไปทำให้ปุ๋ยถูกลงดีกว่ามานั่งสั่งไม่ให้เผาฟาง
"พวกลงเฟซ ถ่ายคลิปโซเชียล ก็อย่าปัญญาอ่อน ไปลงอะไรที่มันสร้างสรรค์ดีกว่า"
เพจดังเห็นข่าวแล้วอึ้ง เรื่องนี้คือปัญหาแทบทุกมิติ ยิ่งฟังความปากแจ๋วแล้วอยากให้ลองมายืนรมควันตอนเผาบ้าง
ขณะที่ เพจ ตามติดชีวิตแม่บ้านแขก ได้แสดงความคิดเห็นต่อเรื่องนี้ว่า จากที่ได้เห็นข่าวก็ถึงกับอึ้ง เพราะมันเป็นปัญหาสังคมทุกภาคส่วน ตั้งแต่การที่เจ้าของบ้านในหมู่บ้านจัดสรรร้องเรียนแล้วหน่วยงานที่เข้ามาดูแลก็หาย เรื่องก็เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก พอนักข่าวลงพื้นที่ก็เจอชาวนาปากแจ๋วจ่ายค่าปรับ 500 บาท เพื่อพี่น้องชาวนา แถมโต้คนในหมู่บ้านที่มาทีหลังว่าปัญญาอ่อน จึงอยากจะให้ลองยืนรมควันตอนที่พวกพ้องตัวเองเผาอยู่แบบนั้นตลอดระยะเวลาที่เผาให้มันจบ ๆ จะได้รู้ว่า 5 นาทีคนก็ป่วยได้แล้ว ยิ่งบ้านไหนมีเด็กยิ่งอันตราย
ซัดเอาความเห็นแก่ตัวมาทำร้ายคนอื่น แถมเผาก็สร้างมลภาวะที่คนเขารณรงค์กันปาว ๆ ด้วย พูดแต่เรื่องปากท้อง ซึ่งต้องวนไปที่รัฐ
เพจดังกล่าวมองว่าถ้าหากเป็นต่างประเทศ จะมีรถดับเพลิงมาแล้ว และเรื่องนี้ก็จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ มีการจับกุมเข้าคุกเข้าตาราง ซัดชาวนาเอาความเห็นแก่ตัวมาทำร้ายประชากร การที่เผาก็เป็นการสร้างมลภาวะที่เขารณรงค์กัน แถมพูดแต่เรื่องปากท้อง แน่นอนว่าปากท้องเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งรัฐก็ต้องช่วยหาวิธีทั้งค่าปุ๋ย ค่าอุปกรณ์ ไม่ใช่แจกเงินอย่างเดียว วัตถุดิบทำกินก็สำคัญ
"ปล่อยให้ไฟโหมอันตรายแบบนี้ได้ไงจนดับวะ และไม่มีรถดับเพลิงเข้ามาดับ ปล่อยบ้าน ปล่อยคนแถวนั้นดมควันพิษไป แล้วคิดว่าคนที่ร้องเรียนคือปัญญาอ่อน ทนไม่ได้เหรอ"
เรื่องที่เกิดขึ้น วนกลับมาที่คำถามว่า "เราต้องอดทนกับวิถีนี้ใช่ไหม"
เพจดังกล่าวระบุว่า ในข่าวช่อง 3 คุณสรยุทธ สุทัศนะจินดา พูดหลังจากรายงานข่าวนี้ว่า "เราต้องอดทนกับวิถีนี้ใช่ไหม" ซึ่งทางเพจระบุว่า ถ้าไม่อดทน รัฐจะช่วยอะไรได้ ตำรวจจะปรับแพงมาก หรือจะมีกฎหมายออกมาว่าห้ามเผาใด ๆ ก็ควรจะเคร่งครัดจริง ๆ
"คำว่าเผาขยะ เคยพิจารณาเรื่องศูนย์รับทิ้งขยะของรัฐหรือไม่ ? สิทธิ์ของการเป็นประชาชนอะ เราได้รับมากพอหรือยัง ? ลูกหลานที่อยู่ใกล้กับแหล่งที่เผา ต้องทนสูดดมไปอีกนานเท่าไหร่กัน ถึงจะได้รับการแก้ไขจริงจังให้หมดไป ?"
