Thailand Web Stat

เปิดที่มาภาพรถสายตรวจ CBR300 ถูกจอดทิ้งไว้จนฝุ่นเกาะ ชี้ เกิดขึ้นแทบทุกโรงพักทั่วประเทศ

           เปิดสาเหตุสำคัญทำไมรถสายตรวจ รุ่น CBR300 สภ.เมืองตรัง ถึงถูกจอดทิ้งไว้จนฝุ่นเกาะ เผยซื้อสมัยยุค คสช. วงเงินกว่า 1.7 พันล้าน ชี้ เกิดขึ้นแทบทุก สน. - สภ. ทั่วประเทศ


           จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก ชมรมตรังต้านโกง ได้โพสต์ภาพรถจักรยานยนต์สายตรวจ สภ.เมืองตรัง ในสภาพจอดทิ้งร้างไร้การดูแลซ่อมแซมจนมีฝุ่นจับเกรอะกรัง พร้อมระบุว่า "เครือข่ายชมรมตรังต้านโกง พบรถจักรยานยนต์สายตรวจ รุ่น CBR 300 ของ สภ.เมืองตรัง จอดทิ้งไว้ไม่ได้นำมาใช้งานหลังโรงพัก จำนวน 35 คัน" ทำให้โลกออนไลน์เกิดการวิพากษ์วิจารณ์พร้อมอยากให้ตรวจสอบถึงงบประมาณในการจัดซื้อ และงบการซ่อมบำรุงด้วยนั้น

           เกี่ยวกับเรื่องนี้ (13 เมษายน 2565) สำนักข่าวอิศรา ได้สอบถามไปยัง พ.ต.อ. เชื้อชาติ เยาว์ดำ ผกก. สภ.เมืองตรัง ได้รับคำชี้แจงว่า รถสายตรวจ รุ่น CBR 300 เป็นรถที่เหลือจากการเบิกใช้ของสายตรวจ ซึ่งต้องนำไปจอดเก็บไว้ในโรงรถที่อยู่ด้านข้างโรงพัก

           โดยมีการติดตั้งหลังคาและกล้องวงจรปิด มีการคล้องโซ่ ล็อกล้อไว้เพื่อความปลอดภัย หากเจ้าหน้าที่ต้องการเบิกใช้ ก็สามารถทำเรื่องเสนอมาเบิกใช้ตามระเบียบ ไม่ได้ถือว่าเป็นรถปลดระวาง แต่การจอดไว้นานก็มีฝุ่นจับบ้าง

           รถเหล่านี้เคยใช้ในการปฏิบัติหน้าที่สายตรวจ สภ.เมืองตรัง ซึ่งได้รับจัดสรรล็อตแรกเมื่อปี 2558 จำนวน 37 คัน และล็อต 2 เมื่อปี 2561 จำนวน 38 คัน รวม 75 คัน ก่อนมีการเบิกจ่ายไป 44 คัน ไม่เบิกใช้งานจำนวน 31 คัน เป็นรถ CBR300 รุ่นเก่าทั้งหมด โดยเก็บรักษาไว้ในสถานที่ดังกล่าว 25 คัน และเก็บไว้บริเวณหน้าอาคารพิทักษ์ราษฎร์อีก 6 คัน

           ยืนยันว่า สภ.เมืองตรัง มีการตรวจสอบบัญชีการใช้รถตามวงรอบทุกเดือน ส่วนการเบิกจ่ายน้ำมัน เบิกจ่ายเฉพาะรถที่มีตำรวจปฏิบัติหน้าที่แต่ละชุดปฏิบัติการ และเป็นรถที่พร้อมใช้งาน รถที่ไม่มีการเบิกใช้ไม่ได้เบิกจ่ายน้ำมันแต่อย่างใด


ที่มาที่ไป รถจักรยานยนต์สายตรวจ CBR300 กับงบประมาณจัดสรรในยุค คสช.


           สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับที่มาของรถนี้ พบว่า ในการประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2557 คสช. ได้อนุมัติงบประมาณจำนวน 1.73 พันล้านบาทเศษ ให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ในการจัดซื้อรถจักรยานยนต์สายตรวจ 14,442 คัน แต่ปรากฏว่าทีมโฆษก คสช. กลับไม่มีการแถลงมติการประชุมดังกล่าว

           แหล่งข่าวจาก สตช. ให้ข้อมูลยืนยันว่า คสช. ได้เห็นชอบตามที่ สตช. โดย พล.ต.อ. วัชรพล ประสารราชกิจ รักษาราชการแทน ผบ.ตร. เป็นผู้นำเสนอ ให้ สตช. ดำเนินการประกวดราคาด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์โครงการจัดซื้อรถจักรยานยนต์ (ทดแทน) ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น CBR300 ขนาด 250 ซีซี (งานสายตรวจ) จำนวน 14,442 คัน วงเงินกว่า 1.7 พันล้านบาท

           โดยแบ่งเป็นงบประมาณผูกพันข้ามปี 2557-2559 เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของ คสช. ในการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณเพื่อกระตุ้นระบบเศรษฐกิจ และมีเพียงบริษัท เวิลด์ สปีด เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด ยื่นเอกสารประกวดราคา จากที่มีเอกชนเข้ามาซื้อเอกสารประกวดราคาทั้งหมด 5 บริษัท

           ซึ่งคณะกรรมการประกวดราคาได้มีการต่อรองราคากับบริษัทดังกล่าวถึง 3 ครั้ง จากเดิมราคาที่จำหน่ายในท้องตลาดคันละ 133,000 บาท เหลือคันละ 119,572.50 บาท พร้อมอุปกรณ์พิเศษคือติดตั้งเหล็กกันล้มและหมวกนิรภัย 2 ใบ จึงทำให้ได้ราคาถูกลง 12 % โดยที่บริษัท เวิลด์ สปีด ต้องรับผิดชอบการประกันความชำรุดบกพร่องจากการใช้งานตามปกติทุกคันเป็นระยะเวลา 2 ปี โดยไม่จำกัดระยะทางอีกด้วย

           ส่วนข้อสงสัยที่ว่าทำไมถึงจัดซื้อรุ่น CBR300 ที่มีกระบอกสูบ 286 ซีซี นั้น บริษัท เวิลด์ สปีด ระบุว่า รุ่นดังกล่าวเป็นรุ่นล่าสุดที่ผลิตและจำหน่ายในประเทศไทย และรุ่น CBR250 เลิกการผลิตแล้วในปัจจุบัน รวมทั้งมีการเสนอให้จัดซื้อเป็นยี่ห้อคาวาซากิ รุ่นนินจา 300ABS เนื่องจากมีคุณสมบัติใกล้กับ ฮอนด้า CBR300 แต่ปรากฏว่าถูกตีตกไป เพราะราคาจำหน่ายตามท้องตลาดสูงคันละ 182,500 บาท ซึ่งเกินกว่างบประมาณที่ตั้งไว้คันละ 120,000 บาท


สาเหตุสำคัญทำไมรถรุ่น CBR300 ถึงถูกจอดทิ้งไว้จนฝุ่นเกาะ ชี้ เกิดขึ้นแทบทุก สน. - สภ. ทั่วประเทศ


           ฝ่ายปราบปรามกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เผยว่า รถจักรยานยนต์สายตรวจ รุ่น CBR300 ดังกล่าว ถูกจอดทิ้งไว้ไร้เจ้าหน้าที่มาเบิกใช้เป็นจำนวนมากนั้น เกิดขึ้นแทบทุก สน. และ สภ. ทั่วประเทศ เพราะแม้จะเป็นรถที่มีกำลังเครื่องยนต์ถึง 286 ซีซี แต่การใช้งานจริงเทอะทะไม่คล่องตัว ทำความเร็วได้เพียงทางตรงเท่านั้น

           เมื่อเกิดภาวะคับขันต้องไล่ล่าคนร้ายตามยุทธวิธี เจ้าหน้าที่ตำรวจเพียงคนเดียวไม่สามารถไล่ล่าได้คล่องตัว เพราะเป็นรถมีคลัชต์ต้องใช้ 2 มือขับ จึงไม่สามารถใช้กระบองด้านข้างรถ หรืออาวุธปืนประจำกายระงับเหตุทันทีได้ จึงจำเป็นต้องปฏิบัติงานโดยใช้เจ้าหน้าที่ 2 นายต่อรถ 1 คัน

           อีกทั้งในการปฏิบัติงานจริง คนร้ายมักหลบหลีกเข้าตรอกซอกซอยเพื่อหนีการจับกุม บางครั้งหนีไปในพื้นที่ที่รถไม่สามารถขับขี่ไปได้ อีกทั้งวงเลี้ยวขณะกลับรถฉุกเฉินต้องเลี้ยวเป็นวงกว้าง จึงไม่สะดวก

           ทั้งนี้้ เมื่อมีรถสายตรวจรุ่นใหม่อย่าง ฮอนด้า PCX ซึ่งเป็นเกียร์อัตโนมัติและสามารถขับขี่โดยใช้มือเดียวได้ มีความคล่องตัวกว่า ประหยัดน้ำมัน และมีกล่องเก็บสัมภาระท้ายรถ ทำให้มีเจ้าหน้าที่ขอทำเรื่องคืนรถรุ่น CBR300 เป็นจำนวนมาก และหันมาใช้รถรุ่นใหม่แทน


ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก ชมรมตรังต้านโกง, สำนักข่าวอิศรา


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เปิดที่มาภาพรถสายตรวจ CBR300 ถูกจอดทิ้งไว้จนฝุ่นเกาะ ชี้ เกิดขึ้นแทบทุกโรงพักทั่วประเทศ อัปเดตล่าสุด 14 เมษายน 2565 เวลา 13:35:38 147,461 อ่าน
TOP
x close