x close

ย้อนคดี ฆ่าเด็ก ม.4 ปิดปาก เหตุไปอยู่ผิดที่ผิดเวลา พ่อแม่สู้นานเกือบ 4 ปี วันนี้ศาลตัดสินประหาร

          ย้อนคดีคนร้ายยิงนักเรียน ม.4 เสียชีวิต พ่อแม่เหยื่อต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรมนานเกือบ 4 ปี วันนี้พอใจได้รับความยุติธรรม ศาลตัดสินประหารชีวิตคนร้าย พบเด็ก ม.4 ไปอยู่ผิดที่ผิดเวลา ไม่รู้เรื่องอะไรแต่โดนยิงจนตาย

ยิงนักเรียน

          จากกรณี นายธีรยุทธ หรือ อ้น สมสู่ อายุ 52 ปี ชาว ต.โคกหล่อ อ.เมือง จ.ตรัง ใช้อาวุธปืนยิง นายธีรวัฒน์ หรือน้องนิว อายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม.4 โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในอำเภอเมืองตรัง เสียชีวิต และพยายามฆ่านายรัชพล อายุ 42 ปี จากปัญหาขัดแย้งกันเมื่อช่วงเดือนธันวาคม ปี 2561 ต่อมาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์จึงได้พิพากษาให้ประหารชีวิตนายธีรยุทธ แต่ยังต้องมาสู้ต่อในชั้นศาลฎีกานั้น

          ล่าสุด (20 เมษายน 2565) ข่าวช่องวัน รายงานว่า เมื่อวันที่ 19 เมษายนที่ผ่านมา ศาลจังหวัดตรัง ได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ให้ประหารชีวิตนายธีรยุทธ ในข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน, มีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่มีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนแก่พฤติการณ์

ย้อนจุดเริ่มต้นในวันเกิดเหตุสลด


          ในวันเกิดเหตุ 2 ธันวาคม ปี 2561 นายรัชพลได้ชวนน้องนิวไปที่บ้าน แต่ขากลับเป็นเวลากลางคืน นายรัชพลจึงขี่รถจักรยานยนต์ไปส่งน้องนิว ด้านนายธีรยุทธ ซึ่งเป็นคู่อริของนายรัชพล ได้ออกมาดักรอข้างทางเพื่อยิงสังหาร โดยที่น้องนิวไม่ทราบปัญหาความขัดแย้งของคนทั้ง 2 มาก่อน

          เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ นายรัชพลถูกกระสุนปืนยิงเข้าที่บริเวณแขนทำให้รถล้มลง ก่อนวิ่งหนีเอาตัวรอดเข้าไปในสวนปาล์มน้ำมัน โดยที่ผู้ต้องหาอีก 2 คน คือ นายปัญญา และ นายยงค์ เพื่อนของนายธีรยุทธ ไล่ยิงติดตาม แต่นายรัชพลหนีรอดไปได้ ขณะที่นายธีรยุทธผู้ต้องหาคนสำคัญ ซึ่งเชื่อว่าเพื่อนร่วมทีมทั้ง 2 คนจะต้องไล่ฆ่านายรัชพล คู่อริของตัวเองได้อย่างแน่นอน จึงใช้อาวุธปืนจ่อยิงศีรษะน้องนิว ซึ่งถูกรถจักรยานยนต์ล้มทับอยู่ เพื่อเป็นการฆ่าปิดปาก เป็นเหตุให้น้องนิวเสียชีวิตดังกล่าว

ตำรวจจับคนร้ายไม่ได้ สังคมตั้งคำถาม คนมีอิทธิพลและตำรวจช่วยเหลือหรือเปล่า ?


ยิงนักเรียน

          หลังเกิดเหตุแม้พยานปากสำคัญอย่างนาย รัชพล ซึ่งเป็นเป้าหมายของผู้ก่อเหตุจะรอดชีวิตมาได้ และให้การยืนยันคนร่วมกระทำการ แต่ระยะเวลาก็ผ่านไปนาน ทางตำรวจจับคนร้ายไม่ได้ จึงถูกสังคมตั้งคำถามว่ามีอิทธิพล และเจ้าหน้าที่ตำรวจบางกลุ่มให้ความช่วยเหลือหรือเปล่า อีกทั้งทางครอบครัวเหยื่อได้ยื่นหนังสือติดตามคดีหลายครั้ง แต่ไม่เป็นผล

พ่อแม่น้องนิวร้องขอความเป็นธรรมกับ พล.ต.อ. ศรีวราห์


         วันที่ 6 มิถุนายน 2562 ครอบครัวผู้เสียหายได้เดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อร้องขอความเป็นธรรมกับ พล.ต.อ. ศรีวราห์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ขณะนั้น) เนื่องจากคดีไม่มีความคืบหน้า และถูกฝ่ายผู้ต้องหาซึ่งเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ใช้เส้นสายตำรวจและผู้นำในพื้นที่ข่มขู่คุกคาม และให้ความช่วยเหลือ จน พล.ต.อ. ศรีวราห์ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่จับกุมผู้ต้องหาให้ได้ภายใน 15 วัน ปรากฏว่าผ่านมาได้ 7 วัน (คือวันที่ 13 มิถุนายน 2562) เจ้าหน้าที่ก็สามารถจับกุมนายธีรยุทธได้ดังกล่าว และเข้าสู่กระบวนการศาลยุติธรรม จนคดีถึงที่สุดดังกล่าว

ผู้ต้องหาต้องจ่ายเงินชดเชยเยียวยาให้ครอบครัวเหยื่อ


          สำหรับเงินชดเชยเยียวยาทางแพ่ง ศาลพิจารณาให้กับโจทก์ร่วมที่ 1 (นายรัชพล) จำนวน 700,000 บาท และโจทก์ร่วมที่ 2 (ครอบครัวน้องนิว) จำนวน 2 ล้านบาทเศษ ในส่วนของจำเลย ได้ยืนกรานปฏิเสธทุกข้อกล่าวหามาโดยตลอด และคดีนี้จำเลยไม่ได้มีการสืบพยานแม้แต่ปากเดียวรวมทั้งตัวจำเลยเอง ทำให้ไม่มีพยานมาหักล้างข้อต่อสู้หรือปฏิเสธในการสู้คดี ทางครอบครัวผู้เสียหายไม่ทราบว่าเป็นเพราะตัวจำเลยจำนนในพยานหลักฐาน หรือว่าไม่มีพยาน แต่คิดว่าน่าจะเป็นเพราะไม่มีพยาน เนื่องจากในคำให้การของจำเลย อ้างเพียงสถานที่อยู่เท่านั้นว่าอยู่กับครอบครัวตลอด ขณะที่คนในครอบครัวให้การขัดแย้งกับจำเลยว่าตัวจำเลยหายตัวไปในช่วงเกิดเหตุ

           ในกระบวนการศาลยุติธรรมทุกอย่างถือว่าจบสิ้นแล้ว เพราะเดินทางมาครบแล้ว 3 ศาล แต่ในส่วนของฝ่ายจำเลยจะดำเนินการอย่างไรก็เป็นเรื่องของฝ่ายจำเลย ทั้งนี้ ถ้าไม่มีกระบวนการอื่นเกิดขึ้นหลังจากนี้ ก็ต้องดำเนินการตามคำพิพากษาของศาล คือ ประหารชีวิตอย่างเดียว แต่จะใช้เวลายาวนานแค่ไหนถึงจะไปถึงตรงนั้น ทางทนายก็ไม่สามารถจะทราบได้ เพราะต้องอยู่ที่กระบวนการของเรือนจำ หลังจากนี้เรือนจำจะเป็นคนดำเนินการในส่วนนี้ ซึ่งที่ผ่านมาในเรื่องการประหารชีวิตก็มีให้เห็นมาแล้ว ส่วนการดำเนินการตามคำพิพากษาเรื่องเงินค่าสินไหมทดแทนนั้น จะต้องไปดำเนินการสืบทรัพย์ต่อไป

พ่อแม่น้องนิวพอใจคำตัดสิน หลังต่อสู้ให้ลูกชายมาเกือบ 4 ปี


ยิงนักเรียน

          นายอนันต์ และ นางสอง พ่อแม่ของน้องนิว กล่าวทั้งน้ำตาว่า ดีใจมากที่เดินทางมาถึงวันนี้ สามารถเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับลูกชายได้ ขอบคุณกระบวนการยุติธรรมที่มีอยู่จริง รู้สึกพอใจในคำตัดสินครั้งนี้ ไม่เสียแรง ไม่เสียกำลังใจ ที่ทุ่มเทในการต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรมให้กับลูกชายที่ยาวนานเกือบ 4 ปี

          โดยทุกวันนี้ก็ยังคิดถึงลูกตลอดเวลา ผ่านมา 4 ปีแล้ว ชีวิตคนคนหนึ่งถ้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัย ก็เรียนจบได้เลย จึงขอขอบคุณกระบวนการยุติธรรมอย่างมาก พร้อมยกมือไหว้ ขอบคุณทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งสื่อมวลชน ทนายความ กอ.รมน. จังหวัดตรัง และ พล.ต.อ. ศรีวราห์ รังสิพรามณกุล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่กำกับสั่งการขีดเส้นให้ตำรวจท้องที่จับกุมคนร้าย จนเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมได้ในที่สุด


          พร้อมบอกไปถึงดวงวิญญาณของลูกชาย หากรับรู้ได้ ระบุว่า "ครอบครัวเราทำถึงที่สุดแล้วลูก เราสู้ เราทำเพื่อลูกถึงที่สุด ถึงจุดสุดท้ายของเขาที่ได้ทำกับเราไว้แล้วลูก ขอให้ลูกไปสู่ภพภูมิที่ดี ไม่ต้องเป็นห่วงครอบครัว พ่อและแม่ขอให้ลูกได้ไปดี หลังจากนี้ก็เตรียมจะทำบุญครั้งใหญ่ให้ลูกด้วย"

เหยื่อถูกยิงตัดสินใจบวชพระ ปล่อยวางเรื่องที่เคยโดนข่มขู่คุกคาม


          พระรัชพล กล่าวว่า ได้บวชเป็นพระมาเกือบจะเข้า 2 พรรษาแล้ว โดยตั้งใจไว้แต่ต้นว่า เมื่อคดีสิ้นสุดตั้งใจจะบวชให้น้องนิว แต่ได้ตัดสินใจบวชก่อน ก็ภาวนาตลอด วันนี้ได้เดินทางมารับฟังคำตัดสินของศาลฎีกาด้วยตนเอง ก็รู้สึกพอใจในคำตัดสิน ได้รับความยุติธรรม

         ทั้งนี้ ร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บยังเรื้อรัง จะไม่หาย โดยเฉพาะแขนที่ถูกยิงยังอ่อนแรง ส่วนเรื่องการถูกข่มขู่คุกคามมาโดยตลอดก่อนหน้านี้ ตนได้ปล่อยวางแล้ว ได้อโหสิกรรมให้หมดแล้ว ที่เหลือก็เป็นกรรมของเขาแล้ว ส่วนตัวอโหสิกรรมให้ทั้งหมด หลังจากบวชก็ได้เดินทางไปธุดงค์ที่จังหวัดสตูลนานเป็นเดือน และหลังจากนี้ตั้งใจจะไปธุดงค์ต่อที่ภาคเหนือ

ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่องวัน


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ย้อนคดี ฆ่าเด็ก ม.4 ปิดปาก เหตุไปอยู่ผิดที่ผิดเวลา พ่อแม่สู้นานเกือบ 4 ปี วันนี้ศาลตัดสินประหาร อัปเดตล่าสุด 20 เมษายน 2565 เวลา 22:07:27 29,054 อ่าน
TOP