Thailand Web Stat

ตร. อุ้มสาวใหญ่หายลึกลับ ก่อนฆ่าตัวตายปริศนา ลูกหวั่นแม่ถูกฆ่าล้างหนี้ 2 ล้าน


           เปิดใจลูกสาวป้านิด หลังแม่ถูกอุ้มหายปริศนา คาด สาเหตุมาจากการที่ หมวดโย คนก่อเหตุ ได้ยืมเงินป้านิดไป 2 ล้านบาท

คนมีสีอุ้มเจ้าหนี้หาย

           รายการเป็นเรื่องใหญ่ ออนแอร์ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.10-17.55 น. ทางช่อง JKN18 ดำเนินรายการโดย อั๋น ภูวนาท คุนผลิน ได้สัมภาษณ์ วาสนา กาญจนพันธุ์ น้องสาว ป้านิด ซึ่งถูกอุ้มหายตัวไปอย่างปริศนา มาพร้อม ดรุณี สังวรณ์ ลูกสาวคนโต และธิดารัตน์ สังวรณ์ ลูกสาวคนเล็ก โดยชนวนเหตุเชื่อว่าเกิดจากการที่ หมวดโย ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุ ได้ยืมเงินป้านิดไป 2 ล้าน  


หมวดโยอายุ 36 กับคุณแม่อายุ 60 เขาสนิทสนมมานานหรือยัง ?

           ธิดารัตน์ : เขาเป็นลูกน้องเก่าคุณพ่อ

           ดรุณี : เราไม่รู้เพราะเราไปทำงาน แต่เขาเกริ่น ๆ มาว่าให้พี่คนนี้ยืมเดี๋ยวเขาขายนาได้จะมาคืน หนูรู้แค่นี้ เพราะแม่ไม่เคยเล่าอะไรให้ฟัง เราอยู่บ้านติดกับคุณแม่

คุณวาสนารับทราบเรื่องการยืมเงินไหม ?

           วาสนา : ไม่ทราบ เพราะเราอยู่คนละบ้านกัน

มีคนบอกว่าคุณแม่ปล่อยเงินกู้ จริงไหม ?

           ธิดารัตน์ : ไม่ค่ะ เหมือนเขาให้เฉพาะที่อยู่ในกลุ่มที่รักและสนิทกัน

คนมีสีอุ้มเจ้าหนี้หาย

พวกเรารับรู้ว่ามีการยืมเงิน 2 ล้าน หลังจากคุณแม่หายตัวไปแล้ว ใครเป็นคนเล่าให้ฟัง ?

           ดรุณี : เหมือนโทรศัพท์แม่หาย แล้วลูกหนูรู้รหัสเฟซ เข้าไปถึงรู้ว่ายอดเงินเท่าไหร่ ก็เห็นว่าแม่คุยกับใครคนสุดท้าย ก่อนหน้านั้นเราไม่ยุ่งเรื่องนี้เลย

คุณวาสนาเห็นเหตุการณ์วันที่หมวดโยมารับแม่ขึ้นรถออกจากบ้าน ?

           วาสนา : พี่สาวบอกว่าเดี๋ยวจะมีคนมารับไปเอาเช็ค มีคนจะเอาเงินมาคืน สักพักมีรถมาจอดรับหน้าบ้าน เป็นรถปิกอัพอยู่ในกล้อง มีรูปด้วยค่ะ หมวดโยไม่ได้ลงจากรถค่ะ เห็นแต่คนของเราขึ้นรถไป ไม่ได้เอะใจอะไร

ป้านิดมีความกังวล หรือต้องใช้เงิน ร้อนเงิน หรือต้องรีบทวงคืนเพื่อเหตุอะไรบางอย่างหรือเปล่า ?

           วาสนา : ไม่มี ก็เห็นปกตินะคะที่พี่ขึ้นรถไป

หลังวันที่ 11 เมษายน มารู้ว่าป้านิดหายตอนไหน ?

           ธิดารัตน์ : กลับจากทำงาน ก็มาถามว่าแม่ไปไหน มันเกินเวลาแล้ว และเขาก็ไม่เคยปิดเครื่อง ประมาณแม่ไปนาน กลับมาไม่เจอแม่ ก็โทร. หาแม่ พี่สาวโทร. ไปก่อนแต่ปิดเครื่อง ก็เอะใจ เพราะแม่ไม่เคยปิดโทรศัพท์

คนมีสีอุ้มเจ้าหนี้หาย

เราเริ่มเอะใจ ?

           ธิดารัตน์ : เริ่มเอะใจ ก็เลยเปิดกล้องวงจรปิดมือถือดูกัน

นั่งรอหรือทำยังไงต่อ ?

           ดรุณี : หนูก็ถามว่ารถคันนี้ทะเบียนรถใคร แล้วน้าก็จำได้ว่าเป็นของคนนี้

เราไม่มีการแจ้งความหรือลงบันทึกประจำวันใด ๆ ?

           ดรุณี : ไปปรึกษาตำรวจแล้วค่ะ ถ้าแม่หายต้องทำยังไง

           วาสนา : ไปตามที่บ้านหมวดโยด้วย ตอนเช้าก็เอาตำรวจไปอีก ตอนกลางคืนน่าจะนอนหลับเราก็ตะโกนเรียกกัน แต่ไม่มีใครออกมา ไม่เจอใครในบ้านเลยเพราะไม่มีใครออกมา

คนมีสีอุ้มเจ้าหนี้หาย

วันที่ 12 ทำยังไงต่อ ?

           ดรุณี : ให้ตำรวจพาไปที่บ้านหมวดโยอีกค่ะ เขาก็เดินออกมา ก็ถามว่าพาแม่ไปไหน เขาบอกว่าไม่ได้เอาไป เอาแม่ไปส่งโรบินสัน เราก็ถามว่าพี่กลับมานอนบ้านได้ยังไง แม่หนูไปไหน

           ธิดารัตน์ : เราก็บอกว่าแม่ไปกับพี่ พี่ก็ต้องมาส่งแม่ที่บ้าน แล้วนี่พี่เอาแม่ไปไว้ที่ไหน

เราไม่เชื่อแล้วทำยังไง ?

           ดรุณี : ก็บอกว่าให้ไปโรงพัก จะให้พี่ตำรวจไล่ดูกล้องให้ ถ้าไปส่งโรบินสันจะได้ไล่ตามดูต่อว่าไปไหน เขาก็ยอมไปค่ะ

ระหว่างทางที่ขับไป มีรถเรา รถเขา รถคุณพ่อ และรถตำรวจ แต่ไปไม่ถึงโรงพัก ระหว่างทางเขาหนีต่อหน้าต่อตา ?

           ดรุณี : ใช่ค่ะ รถหนูตามไม่ทัน เราก็ไปแจ้งความที่โรงพักว่าเขาหนี แล้วก็ติดต่อไม่ได้ มารู้อีกทีเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมา หมวดโยฆ่าตัวตาย เจอเป็นศพที่วัดแห่งหนึ่งในรถตัวเอง เอาเตาอั้งโล่มาจุดไฟรมควันตัวเองจนตาย สิ่งสุดท้ายที่เขาพูดน่าจะเป็นคำโกหกว่าไปส่งโรบินสัน เราก็มืดแปดด้านว่าป้านิดหายไปไหน

คนมีสีอุ้มเจ้าหนี้หาย

จนถึงตอนนี้มีร่องรอยอะไรหรือมีความหวังอะไรบ้าง ?

           ดรุณี : เขาก็ช่วยหา เขาก็ไล่กล้อง แม่อยู่ตรงไหนเราก็ไปไล่หา

ไม่มีภาพคุณแม่ลงจากรถ ?

           ดรุณี : ไม่มีเลยค่ะ

สิ่งหนึ่งที่พอจะตอบได้ วันที่คุณแม่ขึ้นรถกระบะ แม่ไม่ได้นั่งข้างคนขับ คุณแม่นั่งข้างหลังตรงแค็บ อาจพอแปลได้ว่ามีคนมากกว่า 1 คนบนรถหรือเปล่า ?

           ดรุณี : ก็เป็นข้อสันนิษฐานค่ะ ตำรวจบอกว่าเขาไล่กล้องให้อยู่ ดูสัญญาณโทรศัพท์อยู่ เขาก็ค้นหาอยู่

           วาสนา : แต่เราร้อนใจ เราก็หามาเรื่อย

คนมีสีอุ้มเจ้าหนี้หาย

คิดว่าหมวดโยก่อเหตุคนเดียวไหม ?

           ธิดารัตน์ : หนูไม่รู้ ไม่น่า อาจทำคนเดียวหรือเปล่า

เขามีครอบครัวไหม ?

           ดรุณี : มีค่ะ วันนั้นหนูไปก็เจอพี่สาว เจอพ่อเขา แต่ไม่ได้คุย หาแต่แม่เลย ไม่รู้จะคุยอะไร หาแต่แม่ทุกวัน

วันนี้แค่อยากหาแม่ให้เจอ ฝั่งครอบครัวหมวดโยพยายามอธิบายในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไหม ?

           ดรุณี : ไม่มีเลย ที่ผ่านมารอตำรวจล้วน ๆ ค่ะ

ถ้าไม่มีเบาะแสอื่น น่าจะต้องลองติดต่อครอบครัวหมวดโย เผื่อเขาพูดอะไรออกมาหรือเปล่า ตำรวจได้ติดต่อครอบครัวหมวดโยไหม ?

           ดรุณี : เขาบอกเขาสอบปากคำให้ แต่เรื่องไปถึงไหนแล้วทางเราไม่รู้

คิดว่าติดใจอะไร ?

           วาสนา : ไม่ได้ติดใจ แต่อยากให้เร่งมือหน่อย มันหลายวันแล้วค่ะ

คนมีสีอุ้มเจ้าหนี้หาย

พ่อก็เป็นทหาร หมวดโยก็มียศเหมือนกัน มีการพูดคุยเรื่องนี้ภายในไหม พ่อได้ลองสอบถามพฤติกรรมคนนี้ไหม ?

           ธิดารัตน์ : ก่อนหน้านี้เขาเคยร่วมงานกับพ่อมา พ่อก็บอกว่าเขาเป็นคนดี

เขาเอาเงิน 2 ล้านที่ยืมคุณแม่ไปทำอะไร ?

           ธิดารัตน์ : พวกหนูไม่ทราบเลยพี่

           ดรุณี : เรารู้แค่ว่าถ้าเขาขายนาได้จะเอาเงินมาคืน

เคยได้ยินแม่พูดเรื่องเงิน 2 ล้านไหม ?

           ธิดารัตน์ : ไม่เคยค่ะ

ตำรวจขอข้อมูลอะไรเพิ่มบ้าง ?

           ดรุณี : พวกหนูก็ให้ข้อมูลไปหมดแล้ว ส่วนพี่ตำรวจก็บอกว่าเขาหาให้อยู่

การเสียชีวิตของหมวดโยด้วยการฆ่าตัวตาย เราทราบข่าวเขาจากไหน ?

           ธิดารัตน์ : มีคนโทร. มาค่ะ เพราะพี่สาวหนูได้ลงเพจแจ้งเหตุว่าถ้าใครเห็นคนนี้ ที่ลักพาตัวแม่หนูไป ให้มาติดต่อที่เบอร์นี้ ก็มีคนโทร. มาถามว่าใช่ทะเบียนรถคันนี้ไหม เราก็ตามไป

คนมีสีอุ้มเจ้าหนี้หาย

คิดว่าเขาฆ่าตัวตายเพราะอะไร ?

           ดรุณี : หนูคิดว่าเขาทำอะไรแม่เราหรือเปล่า เพราะเขาหนีไม่ไปโรงพัก แล้วมาทำแบบนี้ หนูห่วงแม่ แม่ไม่เคยหายไปแบบนี้

พวกเราทำอะไรกัน หลังจากที่รอตำรวจ ?

           ดรุณี : เราตามหากันทุกวัน สุ่มกันไปหา อย่างพี่ตำรวจบอกว่ากล้องอยู่ตรงนี้ เราก็ไปกันหมด

แม้กล้องวงจรปิดไม่ครบ แต่พอจะขีดเส้นทางได้ว่าเขาวนอยู่ตรงไหน ?

           วาสนา : ใช่ค่ะ ทั้งขี่รถหาและเดินเท้าหาค่ะ หาทุกวันค่ะ

คุณพ่อเป็นยังไงบ้าง ?

           ดรุณี : กินยาความดัน

           ธิดารัตน์ : ออกตามหาแต่เช้าทุกวัน

คุณนพรัตน์ สังวรณ์ สามีป้านิด อยู่ในสาย ตอนนี้ตามหายังไงบ้าง ?

           นพรัตน์ : ผมจะออกตามหาทุกที่ที่คาดว่าหมวดโยจะพาภรรยาผมไป ที่ไหนที่สงสัยผมตามหาทุกที่ครับ

คนมีสีอุ้มเจ้าหนี้หาย

จุดที่สงสัยหาเบาะแสจากไหน ?

           นพรัตน์ : จากตำรวจบ้าง จากชาวบ้านบ้าง ที่เขาเห็นว่าขับรถมาทางนี้ก็ไปตามหา

รู้จักหมวดโย ?

           นพรัตน์ : รู้จักอย่างดี เขาเป็นลูกน้องเก่าครับ เป็นคนสนิทเหมือนคนในครอบครัวเลยครับ

คุณพ่อรับรู้เรื่องป้านิดให้เงินยืมไป 2 ล้านไหม ?

           นพรัตน์ : ผมไม่ก้าวล้ำเรื่องนี้ เพราะเวลาภรรยาผมทำอะไรเขาจะให้เฉพาะคนสนิทเท่านั้นครับ ก็เพิ่งรู้เรื่องเงินหลังภรรยาหายไปเหมือนกัน

คิดว่าแรงจูงใจที่ทำให้หมวดโยฆ่าตัวตายเกิดจากอะไร ?

           นพรัตน์ : เรื่องเงินนี่แหละครับ เขาสนิทกันมาก คงเผลอทำร้ายไปเลยเครียด

คุณพ่อยังมีความหวังว่าจะเจอป้านิด ?

           นพรัตน์ : ผมภาวนาให้เป็นอย่างนั้น

คนมีสีอุ้มเจ้าหนี้หาย

ได้คุยกับคนรู้จัก แวดวงทหาร หรือเจ้าหน้าที่ อัปเดตข้อมูลยังไงบ้าง ?

           นพรัตน์ : ตรงไหนที่คิดว่าเขาน่าจะไป ผมก็ไปค้นหาแถวนั้น

สนิทกับหมวดโยเหมือนคนในครอบครัว แล้วได้คุยกับครอบครัวหมวดโยไหม ?

           นพรัตน์ : ไม่ครับ ตั้งแต่เกิดเรื่องมาผมไม่ไปล้ำเส้นเขาเลย ผมคาดไม่ถึงว่าเขาจะทำกับภรรยาผมได้

คนที่คุยกับครอบครัวหมวดโยมีแค่ตำรวจ คงต้องรอว่าจะได้อะไรจากการสอบปากคำ ตอนนี้รอการค้นหาเพิ่มเติม มีอะไรติดใจอยากฝากถึงตำรวจไหมกับการทำงานผ่านมา 10 กว่าวัน ?

           นพรัตน์ : อยากให้ช่วยหาภรรยาผมให้เจอครับ ผมคิดว่าเขาทำงานเต็มที่อยู่แล้ว

พ่อพอทราบไหมว่าหมวดโยเอาเงิน 2 ล้านไปทำอะไร ?

           นพรัตน์ : ที่รู้เขาไปเช่าพระมาแล้วปล่อยไป แล้วเอาเงินมาคืนภรรยาผมครับ เขาเอาเงินไปทำเรื่องไม่เหมาะสมหรือเปล่าผมก็ไม่ทราบ แต่รู้ว่าเขาเอาเงินไปออกรถปิกอัพที่มารับภรรยาของผมด้วย

คนมีสีอุ้มเจ้าหนี้หาย

ความหวังในตอนนี้ ในการเจอคุณแม่เป็นยังไง ?

           ดรุณี : หนูร้องจนไม่รู้จะร้องยังไงแล้วค่ะพี่

           ธิดารัตน์ : ยังมืดแปดด้าน ไม่รู้จะไปตามหายังไงต่อ เราไม่หวังว่าคุณแม่จะมีชีวิตอยู่แล้วตอนนี้ แต่ขอให้เจออย่างเดียว

           ดรุณี : เปอร์เซ็นต์น้อย แต่ขอให้เจอ เพราะเขาเจอรอยเลือดบนเบาะรถปิกอัพ

ผลตรวจคราบเลือดบนเบาะหลังกระบะ เป็นเลือดมนุษย์ ดีเอ็นเอตรงกับลูก ๆ ค่อนข้างชัดเจนว่าเป็นเลือดป้านิด ?

           ดรุณี : ใช่ค่ะ

คนมีสีอุ้มเจ้าหนี้หาย

คนมีสีอุ้มเจ้าหนี้หาย

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ตร. อุ้มสาวใหญ่หายลึกลับ ก่อนฆ่าตัวตายปริศนา ลูกหวั่นแม่ถูกฆ่าล้างหนี้ 2 ล้าน อัปเดตล่าสุด 23 เมษายน 2565 เวลา 00:19:15 6,556 อ่าน
TOP
x close