คลายสงสัยทุกข้อ คดีแตงโม นิดา เปิดหลักฐานสำคัญ-ตกเรือจุดไหน-ตอนไหน-บาดแผลเกิดจากอะไร

             ในรุ่งเช้าวันที่ 25 กุมภาพันธ์ เจ้าหน้าที่พบเรือลำที่เกิดเหตุจอดอยู่ที่อู่จึงแจ้งให้พนักงานสอบสวนพร้อมกองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบ ก่อนจะทราบว่าคนที่อยู่บนเรือทั้งหมดคือใคร ในระหว่างนั้นมีการประสานจะเข้าพบตำรวจแต่ก็ไม่มาตามนัด ก่อนที่ทั้ง 5 คนจะเข้าพบตำรวจครั้งแรกในเวลา 20.00 น. จากนั้นวันที่ 26 กุมภาพันธ์ เวลา 13.00 น. เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้พบร่างคุณแตงโมห่างจากท่าเรือ 235 เมตร ลักษณะเสียชีวิตอย่างผิดธรรมชาติ ซึ่งจากพฤติกรรมของคนบนเรือที่ดูผิดปกติจึงต้องมีการสอบสวนโดยละเอียด
             ไทม์ไลน์ที่ใช้อ้างอิง มาจากกล้องวงจรปิด จีพีเอสของเรือ และหลักฐานทางโทรศัพท์ของคนบนเรือ

             เริ่มจากวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ปอ นัดหมายกับกระติก จากนั้นกระติกจึงชวนแตงโม โดยบอกว่าปอชวนไปนั่งเรือจิบไวน์ซึ่งแตงโมตกลง จากนั้นกระติกจึงแจ้งกลับไปที่ปอว่าจะมีแนวร่วม 4 คน ประกอบด้วย กระติก แตงโม และอีก 2 คน (2 คนนี้ในวัน 24 กุมภาพันธ์ ไม่ว่างมาขึ้นเรือ)

             วันที่ 23 กุมภาพันธ์ กระติก ส่งข้อความชวนแซนไปขึ้นเรือ จากนั้นกระติกจึงแจ้งกลับไปที่ปอว่าแซนจะมาด้วย จากนั้นปอจึงส่งพิกัดอู่เรือ พร้อมนัดหมายกันว่าจะไปในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ เวลา 16.00 น. ต่อมา กระติกจึงแจ้งกับแตงโม เรื่องเส้นทางที่จะล่องเรือ และพูดถึงการเลือกชุด

             วันที่ 24 กุมภาพันธ์ (วันที่เกิดเหตุ) กระติกได้ขับมาที่บ้านแตงโม และออกจากบ้านมาตอน 15.52 น. มาถึงอู่ 16.45 น. ซึ่งขณะนั้น ปอ โรเบิร์ต และจ๊อบมาถึงอู่เรือแล้ว จากนั้นเวลา 16.49 น. เรือได้ขึ้นไปทางเหนือไปจอดเติมน้ำมัน ช่วง 17.00 น. จากนั้นก็กลับมาที่อู่ แซนมาถึงอู่ 17.13 น. โดยเรือกลับมารับแซนช่วง 17.24 น. แล้วมุ่งหน้าไปทางทิศเหนือ จากนั้น 18.24 น. เรือได้จอดแวะร้านอาหารบ้านตานิด จ.ปทุมธานี

             เวลา 20.08 น. เรือออกเดินทางมุ่งหน้าทางทิศใต้ ระหว่างนั้นเรือได้ขับผ่านกล้องวงจรปิดในหลายจุด จากนั้น 21.54 น. เรือได้ผ่านท่าเรือเทเวศร์ จุดนี้มีข้อสงสัยว่าคุณแตงโมตกเรือแล้วหรือไม่

            ช่วง 21.56 น. เรือมาถึงสะพานพระราม 8 จุดนี้มีข้อสงสัยเรื่องภาพถ่ายว่าดัดแปลงเวลาหรือไม่จากการตรวจสอบแล้วว่าไม่ได้มีการแก้ไขเวลา เพราะจีพีเอสเรือมีการเดินทางมาบริเวณนี้เพียงครั้งเดียวในเวลาดังกล่าว และเมื่อเรื่องนี้ได้รับการยืนยัน ทำให้อีกข้อสังเกตเรื่องว่ามีคนตกเรือหรือกระโดดเรือตรงท่าเรือเทเวศร์ไม่ใช่คุณแตงโม

            จากนั้น 22.01 น. เรือเดินทางมาอีกจุดหนึ่งของสะพานพระราม 8 มีข้อยืนยันจากภาพถ่ายของโรเบิร์ต ต่อมาช่วง 22.06 น. เรือได้วกกลับมาถ่ายภาพกระติกที่อีกด้านของสะพานพระราม 8 และจุดดังกล่าวจะเห็นแซนนั่งอยู่ท้ายเรือ

            เมื่อเวลา 22.11 น. ขณะเรือกำลังมุ่งหน้ากลับอู่ กระติกได้เรียกใช้บริการ U Drink i drive พิกัดจากอู่เรือให้ไปส่งที่บ้านแตงโม

            เวลา 22.18 น. เรือได้ผ่านสะพานซังฮี้ ซึ่งจะเห็นว่าแซนนั่งอยู่บริเวณท้ายเรือ

            เวลา 22.21 น. เรือกำลังขับผ่านด้านหลังรัฐสภา แตงโมได้ตอบแชตอินสตาแกรม

            เวลา 22.32 น. เรือขับผ่านกล้องวงจรปิด จากการปรับแสงจะเห็นว่าบนเรือมีคนอยู่ 6 คน และมี 1 คนนั่งอยู่บริเวณท้ายเรือ

            เวลา 22.34 น. กล้องวงจรปิดมุมที่ส่องมาที่ท่าเรือพิบูลสงคราม ได้เห็นรายละเอียดสำคัญ เริ่มจากเรือผ่านมาครั้งแรก 22.33 นาที 51 วินาที จะเห็นมีลักษณะวัตถุบางอย่างอยู่ตรงท้ายเรือ จากนั้น 22.34 น. 00 วินาที เรือได้ผ่านแสงเงาและเห็นวัตถุท้ายเรือตรงกับจุดที่แล้ว จากนั้น 6 วินาทีต่อมา มุมของเรือเปลี่ยนไป มีการหันท้ายเรือ ทำให้เห็นเงาของวัตถุท้ายเรือบังแสงไฟ จากนั้น 22.34 น. 09 วินาที ถึง 10 วินาที วัตถุท้ายเรือได้หายไป และมีเงาของบุคคลหนึ่งเกือบถึงท้ายเรือมีลักษณะเหมือนยืนขึ้น

            จากนั้น 11 วินาทีต่อมา จาก จีพีเอสเห็นว่าความเร็วเรือได้ลดลงและเลี้ยวกลับวนมาที่เดิม ก่อนจะวนกลับมาผ่านกล้องบริเวณเดิมอีกครั้ง เมื่อตรวจสอบขณะผ่านจุดเดิมไม่พบวัตถุท้ายเรือแล้ว โดยแสงไฟที่สาดไปถึงเรือจะถูกวัตถุดังกล่าวอยู่บริเวณท้ายเรือ ซึ่งไม่ใช่จุดที่เป็นเครื่องยนต์

            จุดดังกล่าวที่วัตถุในภาพจมหายไป อยู่ห่างจากจุดพบศพแตงโมเพียง 100 เมตร ประกอบกับจีพีเอสเรือพบว่ามีการวนค้นหาทั่วบริเวณนี้ จึงเชื่อว่าคุณแตงโมตกเรือในจังหวะนี้

            ส่วนการตรวจสอบการใช้โทรศัพท์ของคนบนเรือ หลังเหตุการณ์ที่แตงโมตกเรือแล้ว แซนส่งข้อความขอความช่วยเหลือจากเพื่อนพร้อมระบุโลเคชั่น ซึ่งเป็นจุดเดียวกับที่แตงโมตกเรือ หลังจากนั้นคนบนเรือเริ่มขอความช่วยเหลือไปยังเจ้าหน้าที่กู้ภัยและคนรู้จัก ในเวลาดังกล่าวจีพีเอสเรือมีการวนค้นหาในบริเวณดังกล่าวอยู่ตลอด

            เวลา 23.45 น. เรือได้ขับมาใกล้ท่าเรือพิบูลสงคราม 1 และได้มีการถูกบันทึกภาพไว้ ส่วนข้อสงสัยเรื่องมีการทำร้ายร่างกายจากภาพนี้จึงไม่ใช่ เพราะเหตุเกิดหลังจากที่แตงโมตกเรือแล้ว จากนั้น 23.48 น. เรือได้จอดเทียบท่าซึ่ง เบิร์ต และกระติก ได้ลงจากเรือ

            เวลา 00.27 น. กระติก ได้ผ่านกล้องวงจรปิดในซอย จากนั้น 00.28 น. กระติกส่งข้อความหาเพื่อนระบุว่าขึ้นจากเรือมาขอเข้าห้องน้ำตามบ้าน จากนั้น 00.44 น. โรเบิร์ต และปอ ได้ติดต่อกัน หลังจากนั้น จีพีเอสของเรือได้เลิกวนค้นหาและวนกลับอู่เรือ ในเวลาเดียวกัน โรเบิร์ต กับกระติก ได้ยืนรอรถที่ปากซอยเพื่อกลับไปอู่เรือ ส่วนเรือกลับถึงอู่ในเวลา 01.06 น.

            เวลา 01.53 น. ผู้แนะนำคนหนึ่งส่งข้อความถึงโรเบิร์ต ว่าอย่าเพิ่งเข้าให้การกับตำรวจ โดยขอให้มาพูดคุยกันก่อน จากนั้นจะจัดทีมทนายดูแลแล้วค่อยไปหาตำรวจ ก่อนจะมีภาพที่คนบนเรือรวมกลุ่มกันที่ปั๊ม 02.27 น. พูดกันก่อนจะแยกย้ายกันออกจากปั๊ม

            เวลา 02.26 น. ผู้แนะนำได้แนะให้ทั้ง 5 คนเลื่อนนัดพบตำรวจเพราะมีแอลกอฮอล์ในเลือดจะไม่เป็นผลดี ให้ทั้ง 5 คนมาพบกันในวันต่อมา ส่วนกระติกได้ขับรถจากอู่เรือถึงบ้านแตงโม ในเวลา 03.29 น. ซึ่งวันต่อมาทั้ง 5 คนได้มาพบกับทีมทนายที่ร้านอาหารย่านทองหล่อ จากนั้นช่วง 17.07 น. ทั้ง 5 ได้ไปพบทนายชื่อดังที่ร้านอาหารย่านราชพฤกษ์ และเข้าพบตำรวจในเวลา 20.00 น.

            วันที่ 25 กุมภาพันธ์ เจ้าหน้าที่ได้เข้าเก็บหลักฐานจากเรือที่อู่เรือ ตรวจสอบพบหลักฐานหลายรายการ เช่น ดีเอ็นเอ รอยนิ้วมือคนบนเรือ ส่วนบริเวณห้องน้ำเรือพบว่ามีของนำมาเก็บไว้ ส่วนการตรวจหาคราบเลือดนั้นไม่พบ แต่เจอพิรุธคือแก้วบนเรือมีเพียงแก้วเดียว จึงตรวจสอบบริเวณอู่และพบกระติกใส่แก้วอีกหลายใบซึ่งมีดีเอ็นเอของคนบนเรือ ซึ่งวัตถุพยานบางส่วนถูกเคลื่อนย้ายหรือทิ้งลงแม่น้ำจึงมีการดำเนินคดีแล้ว

การชันสูตรพลิกศพ

            ศพสวมชุดว่ายน้ำแบบเต็มตัวโดยมีชุดคลุมสีน้ำตาลสวมทับด้านนอก กระดูกอยู่ในสภาพปกติทั้งร่างกาย และไม่พบฟันหัก บริเวณผิวหนังใต้ศีรษะไม่พบรอยช้ำ ตรวจพบแอลกอฮอล์ในร่างกาย 93 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการเน่าของร่างกาย และไม่พบสารเสพติดใด ๆ

            ในหลอดลม พบโคลนทั่วไป สภาพบาดแผลภายนอกพบ  26 บาดแผล แบ่งเป็น 10 กลุ่มคือ

            - บาดแผลฟกช้ำบริเวณแข้งซ้าย

            บาดแผลทุกจุดมีการตรวจเก็บเนื้อเยื่อไปตรวจสอบพบเม็ดเลือดแดงในเนื้อเยื่อ จึงยืนยันได้ว่าบาดแผลทั้งหมด 26 แผล เกิดก่อนเสียชีวิตทั้งหมด โดยสาเหตุจากแผลต่าง ๆ ได้รับการวิเคราะห์โดยละเอียด

            - บาดแผลบริเวณต้นขาด้านใน เป็นจุดที่ใหญ่ที่สุด มีขนาดที่เข้ากันได้กับใบพัดเรือ เมื่อเย็บบาดแผลจะได้รอยเว้าโค้ง ซึ่งคล้ายกับที่ทดลองใช้ใบพัดเฉือนกับดินน้ำมัน และมีข้อมูลอ้างอิงจากต่างประเทศกับเคสที่มีคนถูกใบพัดชนิดเดียวกันปั่นขา ก็พบว่ามีลักษณะคล้ายกัน จึงเชื่อว่าเกิดจากการถูกใบพัดเรือปั่นขา

            - บาดแผลจุดที่ 2-22 มีการทดลองนำใบพัดเรือมาเทียบกับบาดแผล พบว่าระยะ ขนาดกับบาดแผล สอดคล้องกับการปั่นของใบพัดเรือทุกประการ ซึ่งเมื่อปั่นขาซ้าย ก็จะสัมพันธ์กับการปั่นขาขวา

            ข้อสรุปจากแพทย์ที่ชันสูตรพลิกศพ พบว่าเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจจากการจมน้ำ