ชายซื้อตู้เก็บของออนไลน์ ราคาไม่กี่พัน ตกตะลึงเจอแจ็กพอตใหญ่ มีเงินซ่อนอยู่กว่า 5.4 ล้าน ที่แท้เป็นตู้มือสองจากคนแก่ หลานเอามาปล่อยขายโดยไม่รู้
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
ในขณะที่หลาย ๆ คนชื่นชอบการไปเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหม่จากห้างร้าน ก็ยังมีคนไม่น้อยที่มีทางเลือกซึ่งประหยัดกว่า นั่นก็คือการไปเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์มือสองสภาพดี ที่มีคนนำมาขายต่อหรือปล่อยประมูลบนโลกออนไลน์ เช่นเดียวกับ โธมัส เฮลเลอร์ ชายเยอรมันวัย 50 ปี ที่เพิ่งจะดีลซื้อตู้เก็บของในห้องครัวมือสองมาจากเว็บไซต์อีเบย์มาเมื่อไม่นานมานี้
อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่กำลังตรวจเช็กของนั้นเขากลับต้องช็อกหนัก เมื่อได้เจอความลับมูลค่ามหาศาลที่ซ่อนอยู่ภายในตู้ดังกล่าว
โดยเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2565 เว็บไซต์เดลี่สตาร์ รายงานว่า โธมัส จากเมืองบิทเทอร์เฟลด์ ของเยอรมนี เพิ่งจะดีลซื้อตู้ดังกล่าวมาในราคาเพียงแค่ 240 ยูโร (ราว 8,600 บาท) หลังไปขอต่อราคาจนลดลงมาจากราคาขาย 300 ยูโร (ราว 10,000 บาท) อย่างไรก็ตาม เมื่อตู้ดังกล่าวถูกส่งมาถึงบ้าน เขากลับต้องเซอร์ไพรส์เมื่อพบว่ามีกล่องปริศนาซ่อนอยู่ในตู้ถึง 2 กล่องด้วยกัน
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
และเมื่อเปิดกล่องที่ล็อกไว้ดู เขาก็ต้องช็อกเมื่อได้พบกับเงินสดปึกใหญ่ เป็นธนบัตรฉบับละ 100 ยูโรจำนวนหลายร้อยใบ คิดเป็นเงินรวมกันถึง 150,000 ยูโร (ราว 5.4 ล้านบาท) โดยเงินบางส่วนถูกใส่ไว้ในซองแยกกัน
แต่แม้จะพบโชคครั้งใหญ่ โธมัสกลับเลือกที่จะรีบขนเฟอร์นิเจอร์ดังกล่าวไปยังสถานีตำรวจท้องถิ่น เพื่อให้ติดตามหาเจ้าของเดิม ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ได้ทำการสืบสวน กระทั่งพบว่าเจ้าของเดิมของเฟอร์นิเจอร์ชิ้นนี้ เป็นคู่รักสูงวัยที่อาศัยอยู่ในเมืองฮัลเลอ ส่วนเจ้าของเงินดังกล่าวก็คือหญิงชราวัย 91 ปี
ด้าน แอสกริด คุชตา โฆษกตำรวจ เปิดเผยว่า กล่องบรรจุเงินทั้ง 2 ใบ ถูกซ่อนไว้อย่างดีภายในตู้ ตรงจุดที่ยากจะสังเกตเห็น
ความจริงปรากฏว่าผู้ที่นำตู้เก็บของดังกล่าวมาขาย ก็คือหลานชายของคู่รักสูงวัย ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่าไม่รู้เรื่องเงินดังกล่าวเลยสักนิด
ทั้งนี้ ตามกฎหมายเยอรมนี การเก็บเงินที่มีคนทำสูญหายไว้มากกว่า 10 ยูโร (ราว 360 บาท) จะมีความผิดในฐานยักยอกทรัพย์ แต่สำหรับพลเมืองดีที่มีความซื่อสัตย์นำเงินมาคืนเจ้าของ จะมีสิทธิ์ได้รับส่วนแบ่ง 3% จากเงินดังกล่าว ซึ่งนั่นหมายถึงโธมัสจะได้รับเงิน 4,500 ยูโร (ราว 160,000 บาท) จากเหตุการณ์ครั้งนี้ ซึ่งเขายอมรับว่ายังไม่ได้คิดเลยว่าจะนำเงินส่วนนี้ไปทำอะไร
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก เดลี่สตาร์