คุณตาวัย 72 ปี อยู่เฝ้าศพภรรยามา 21 ปี ทำใจจากลาไม่ได้
เผยคือรักแรกและรักนิรันดร์ แม้เธอจากไปยังขอเก็บไว้ข้าง ๆ
พูดคุยด้วยเหมือนตอนยังมีชีวิต ก่อนยอมฌาปณกิจ เหตุกลัวไม่มีโอกาสบอกลา
ภาพจาก Ch3ThailandNews
วันที่ 1 พฤษภาคม 2565 ข่าวช่อง 3 มีรายงานกรณีคุณตาวัย 72 ปี
เก็บร่างภรรยาที่เสียชีวิตจากโรคประจำตัวไว้ในบ้านพัก เป็นเวลานานกว่า 21
ปี ก่อนประสานให้เจ้าหน้าที่นำร่างไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา เมื่อเวลา
10.00 น. วันที่ 29 เมษายน ที่ผ่านมา โดยพบว่าคุณตาคนดังกล่าวคือ ร.ต. ชาญ
จันทร์วัชรกาล อดีตข้าราชการแพทย์ทหารเกษียณอายุ
โดย นายบัญชา ศรีนิลพันธ์ รองประธานมูลนิธิเพชรเกษม กรุงเทพ ซอยรามอินทรา 23 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. เปิดเผยว่า ร.ต. ชาญ ได้มาขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิเพื่อมารับศพภรรยา ซึ่งเสียชีวิตจากโรคประจำตัวตั้งแต่ปี 2544 และเจ้าตัวเก็บร่างไว้ดูต่างหน้าภายในเพิงพัก ที่ปลูกสร้างขึ้นในพื้นที่รกร้างมานานกว่า 21 ปี เพื่อนำไปฌาปณกิจ เนื่องจากกลัวว่าตัวเองจะเสียชีวิตก่อน และอาจไม่มีโอกาสบอกลาคนรักเป็นครั้งสุดท้าย
โดย นายบัญชา ศรีนิลพันธ์ รองประธานมูลนิธิเพชรเกษม กรุงเทพ ซอยรามอินทรา 23 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. เปิดเผยว่า ร.ต. ชาญ ได้มาขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิเพื่อมารับศพภรรยา ซึ่งเสียชีวิตจากโรคประจำตัวตั้งแต่ปี 2544 และเจ้าตัวเก็บร่างไว้ดูต่างหน้าภายในเพิงพัก ที่ปลูกสร้างขึ้นในพื้นที่รกร้างมานานกว่า 21 ปี เพื่อนำไปฌาปณกิจ เนื่องจากกลัวว่าตัวเองจะเสียชีวิตก่อน และอาจไม่มีโอกาสบอกลาคนรักเป็นครั้งสุดท้าย
เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ พบศพผู้เสียชีวิตถูกเก็บไว้ในโลงศพ สภาพแห้งกรัง โดยจากการสอบถามคุณตา ทราบข้อมูลเพิ่มเติมว่า ภรรยาเป็นอดีตเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข ป่วยด้วยโรคความดันจนเส้นเลือดในสมองแตก และเสียชีวิต ระหว่างการรักษาเมื่อปี 2544 จากนั้นคุณตานำร่างของภรรยาไปสวดพระอภิธรรมศพที่วัดชลประทานรังสฤษดิ์ แต่ยังไม่ยอมฌาปณกิจ เนื่องจากยังทำใจไม่ได้
ภาพจาก ข่าวช่อง 3
อย่างไรก็ตามเนื่องจากคุณตาสูงอายุแล้ว เกรงว่าตนจะสิ้นอายุขัยเสียก่อน จึงปรึกษากับบุตรชายเพื่อดำเนินการประสานให้ทางมูลนิธิเข้าช่วยเหลือเพื่อประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป
จากนั้นทางมูลนิธิจึงพาคุณตาไปยังสำนักงานเขตบางเขน พื้นรื้อค้นประวัติการเสียชีวิตของภรรยา ไม่พบข้อพิรุธแม้แต่อย่างใด ก่อนนำร่างไปฌาปนกิจศพที่วัดสาครสุ่นประชาสรรค์ในช่วงบ่ายวันที่ 30 เมษายน ที่ผ่านมา ตามความประสงค์ของคุณตา
โดยจากนี้คุณตาจะเดินทางไปเก็บอัฐิภรรยา แต่จะไม่มีการลอยอังคาร โดยจะเก็บอัฐิคนรักไว้ในโกษและจะนำกลับมาไว้ยังสถานที่เดิม เพื่อเป็นอนุสรณ์ความรัก และจะอยู่กับตนไปจนตราบสิ้นลมหายใจสุดท้าย
ภาพจาก ข่าวช่อง 3
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่อง 3