ดราม่าดำน้ำจืด ขุมน้ำท่าแตง อดีตเหมืองเก่า เถียงสนั่น คุ้มไหมสวยแลกอันตราย ?

          เจ้าของโพสต์ยังบอกอีกว่า บริเวณนี้เป็นเหมืองเก่า รู้สึกหลอนเหมือนกัน และรู้ด้วยว่านักเรียนก็หลอนกันทุกคน แต่มันสวยจริง ๆ การมาดำน้ำที่นี่ได้มุมมองใต้น้ำที่ทั้งหลอนและสวยในเวลาเดียวกัน มีศาลาใต้น้ำ ขอนไม้ที่ผุพังจากการทำเหมือง ดำน้ำเล่นได้หลายจุด นักเรียนได้ฝึกดำน้ำจืด ซึ่งต่างกับทะเลมาก ทุกคนมักจะดำได้ดีเพราะสภาพการจมควบคุมง่ายกว่า และถ่ายรูปสวยกว่าในทะเล

คนกังวล ดำลงไปไม่มีสิ่งมีชีวิต เป็นไปได้ไหมที่จะอันตราย ร้ายถึงอะมีบากินสมอง

          ภายหลังโพสต์ดังกล่าวแพร่ออกไป ชาวเน็ตต่างสนใจและพูดถึงในหลากหลายประเด็น โดยมีคนในพื้นที่คอมเมนต์ให้ข้อมูลว่า บ่อน้ำแห่งนี้เกิดจากการทำเหมืองแร่ดีบุก มีการดูดทรายขึ้นมาแล้วใช้เครื่องคัดแยกแร่ดีบุกออก จึงเกิดเป็นบ่อกว้างและกลายเป็นแหล่งน้ำในเวลาต่อมา

          ทั้งนี้ มีหลายคนที่รู้สึกเป็นกังวลและเป็นห่วงความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวที่จะไปเล่นน้ำ ดำน้ำ น่าพิศวงตรงที่บอกว่าไม่มีสิ่งมีชีวิตอยู่เลย น่าจะสื่อให้เห็นแล้วว่าในน้ำอาจมีสารปนเปื้อนหรือไม่ เนื่องจากเคยเป็นเหมืองเก่า และอาจมีจุลชีพต่าง ๆ ที่ผลต่อสุขภาพทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

          โดยอยากให้ตระหนักถึงความอันตรายอย่างมาก เพราะแหล่งน้ำจืดเป็นที่อยู่ของ Naegleria fowleri สิ่งมีชีวิตสายพันธุ์หนึ่งของอะมีบา ซึ่งมักถูกเรียกว่า "อะมีบากินสมอง" หากติดเชื้อจะถูกเรียกว่า โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากอะมีบา ติดเชื้อจากการสำลักน้ำเข้าไปในร่างกาย รุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ โดยมีการยกเคสของนักร้องชื่อดังผู้ล่วงลับอย่าง บิ๊ก D2B ที่จากไปจากสาเหตุคล้ายลักษณะนี้เช่นกัน

          รวมถึงมีคนแชร์ประสบการณ์ใกล้ตัวว่า หลานเคยไปเล่นน้ำในสระคล้าย ๆ กันนี้ เป็นน้ำนิ่ง แล้วเกิดสำลักน้ำ ซึ่งตอนนี้หลานนอนติดเตียงมาเกือบ 5 ปีแล้ว เพราะสมองติดเชื้อ อยู่ได้ด้วยออกซิเจน ถ้าถอดออกน้องก็ไปเลย เป็นความอันตรายที่ซ่อนอยู่ ซึ่งไม่มีใครคิดว่าจะเป็นหนักขนาดนี้เพราะแค่สำลักน้ำ

ดราม่าปะทุ คนยกตัวอย่างอาจมีแร่โลหะหนักจากการทำเหมือง โต้กันสนั่น 2 ทาง

          มีคนยกตัวอย่าง ความอันตรายเรื่องโลหะหนัก เคสตัวอย่าง คือ ห้วยคลิตี้ จ.กาญจนบุรี การเข้ามาของเหมืองแร่ในปี 2518 ทำให้ลำห้วยคลิตี้ ซึ่งเป็นลำน้ำสายหลักของหมู่บ้านที่ใช้อุปโภคบริโภคกลายเป็นสายน้ำแห่งสารพิษ เพราะกว่าหลายสิบปีที่แร่ตะกั่วอยู่บนดิน ซึมลงลำห้วยจนเกิดการปนเปื้อนสารตะกั่ว ทำให้ชาวบ้านเจ็บป่วยผิดปกติมากขึ้นเรื่อย ๆ

          ดราม่าปะทุหนักขึ้นเรื่อย ๆ เพราะมีการโต้เถียงกันด้วยข้อมูลบ้าง ความรู้สึกบ้าง กระทั่ง ด้านหนึ่งมองว่าไม่ควรไปเที่ยวจนกว่าจะมีเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบเรื่องความปลอดภัย

อีกฝั่งยืนยัน ตรงจุดนี้ดำน้ำได้ไม่เสี่ยง แร่โลหะอยู่ในระดับปลอดภัย เป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชน

          กระทั่งโพสต์หนึ่งได้ไปสอบถามข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ ทราบว่า กรมทรัพยากรธรณีวิทยา มีการเข้าไปตรวจสอบแล้ว สารโลหะหนักไม่สูง อยู่ในค่าที่ปลอดภัย อย่างไรก็ตาม มีคนที่ยังห่วงเรื่องเชื้อโรคจากแหล่งน้ำจืด ถกเถียงกันไม่จบไม่สิ้น

          ขณะที่ แนวหน้าออนไลน์ มีรายงานว่า ขุมน้ำบ้านท่าแตง เป็นแหล่งน้ำจืด ซึ่งใช้เป็นแหล่งน้ำทำประปาใช้ใน ต.นาเตย ผ่านขั้นตอนการทำน้ำประปาที่สะอาด ปลอดภัย ชาวบ้านใช้ในการอุปโภคและบริโภค

          ขุมน้ำยังช่วยสร้างรายให้คนในพื้นที่ เป็นแหล่งขายสินค้า ของที่ระลึก กระจายรายได้เข้าสู่ชุมชน โดยเฉพาะวันหยุดสุดสัปดาห์ มีนักท่องเที่ยวคนไทยนำครอบครัวเที่ยวผ่อนคลายจนสามารถเห็นพื้นทรายใต้น้ำ สีน้ำยังเป็นสีเขียวมรกต เย็นสดชื่น มีทั้งน้ำตื้นเด็กอายุประมาณ 6 ขวบ จนผู้ใหญ่สามารถเล่นน้ำได้ โดยมีทุ่นเชือกกั้นเป็นสัญลักษณ์ให้นักท่องเที่ยวสังเกตพื้นที่เล่นน้ำอย่างชัดเจน นอกจากนี้ มีบริการเรือปั่นสร้างความสนุกสนานให้แก่ผู้มาเที่ยวเล่นน้ำ

ขอบคุณข้อมูลจาก ทวิตเตอร์@Wowwlog, สืบนาคะเสถียร ,โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล , แนวหน้าออนไลน์