เปิดคลิป อ.ไข่ มาลีฮวนน่า ร้องเพลงฉะข่าวฉาว สมีกาโตะ - ใบตอง ชี้อุบาทว์ทั้งคู่ เลียนเสียงสนทนาตอนอยู่บนสันเขื่อน แนะควรแก้กฎหมายไม่ใช่แค่จับสึกอย่างเดียว
ถือเป็นประเด็นร้อนแรงในสังคมไทยอีกข่าวหนึ่ง สำหรับประเด็ก สมีกาโตะ หรือ อดีตพระกาโตะ พระนักเทศน์ชื่อดัง ตกเป็นข่าวฉาวแอบมีสัมพันธ์สวาทกับสีกา ใบตอง หลังถูกฝ่ายแฉทั้งคลิปเสียงและข้อความแชต ที่แอบไปมีอะไรกันบนรถทั้งที่ริมกำแพงวัด และสันเขื่อน จนกาโตะต้องยอมจำนนต่อหลักฐานแม้ตอนแรกจะปฏิเสธ ด้วยการสึกออกมา แต่เรื่องก็ยังไม่จบเพราะยังถูกแฉเพิ่มว่ามีการพยายามใช้เงิน 6 แสนบาท ปิดปากนักข่าวและสาวคู่กรณี โดยเงินจำนวนนั้นเป็นเงินที่เบิกจากเงินวัดที่เจ้าตัวเป็นรักษาการเจ้าอาวาสนั่นเอง
ล่าสุด (4 พฤษภาคม 2565) โลกออนไลน์กำลังพูดถึงคลิปวิดีโอบน TikTok @killtube91 ที่เผยแพร่ภาพบรรยากาศของ อ.ไข่ มาลีฮวนน่า ศิลปินเพื่อชีวิตชื่อดัง ได้มีการร้องเพลงบนคอนเสิร์ตงานหนึ่ง ซึ่งเนื้อร้องมีบางช่วงบางตอนมีการพูดถึงประเด็นดราม่าของกาโตะ และใบตอง ที่แอบไปมีอะไรกันตรงสันเขื่อน ว่าเป็นการกระทำที่อุบาทว์
พร้อมกันนี้ อ.ไข่ ยังยกเอาคำสอนของพระพุทธองค์ เรื่องของการปาราชิกมาขับร้องด้วยว่า โทษในอดีตไม่ได้สึกอย่างเดียว แต่ต้องโบยและเฆี่ยนตีทั้งสมีและสีกาด้วย
ล่าสุด (4 พฤษภาคม 2565) โลกออนไลน์กำลังพูดถึงคลิปวิดีโอบน TikTok @killtube91 ที่เผยแพร่ภาพบรรยากาศของ อ.ไข่ มาลีฮวนน่า ศิลปินเพื่อชีวิตชื่อดัง ได้มีการร้องเพลงบนคอนเสิร์ตงานหนึ่ง ซึ่งเนื้อร้องมีบางช่วงบางตอนมีการพูดถึงประเด็นดราม่าของกาโตะ และใบตอง ที่แอบไปมีอะไรกันตรงสันเขื่อน ว่าเป็นการกระทำที่อุบาทว์
พร้อมกันนี้ อ.ไข่ ยังยกเอาคำสอนของพระพุทธองค์ เรื่องของการปาราชิกมาขับร้องด้วยว่า โทษในอดีตไม่ได้สึกอย่างเดียว แต่ต้องโบยและเฆี่ยนตีทั้งสมีและสีกาด้วย
"แม่น้องยังจำรอยจูบของพระศาสดาได้ ที่พี่จูบแก้มซ้าย อู้ยยย และย้ายมาแก้มขวานะพี่นา อู้ยยย หลวงพี่ อย่าทำน้องตองอย่างนั้นสิหลวงพี่ คนมันเยอะแยะ นี่มันบนสันเขื่อนนะหลวงพี่ ตอง..ไม่เป็นไรหรอกน้อง เดี๋ยวคราวหน้าพี่จะเปลี่ยนเป็นในรถก็แล้วกัน
อุบาทว์ทั้งตัวผู้และตัวเมียเลย อันคำสอนของพระพุทธองค์ในโบราณ แค่องคชาตเข้าไปแค่เม็ดงานิดเดียวก็ถือว่าปาราชิกเสียแล้ว ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ท่านไม่ได้สึกอย่างเดียว ท่านจับมาโบย เฆี่ยน ตี ทั้งสมีและสีกาที่อุบาทว์และเปรตตลอด
มันต้องแก้กฎหมายใหม่ ไม่ใช่สึกอย่างเดียว เป็นสมีอย่างเดียว มันต้องมาสักหน้าด้วยรอยตีนกาที่หน้าผากมันด้วย จะได้ไม่ต้องทำบนสันเขื่อน ในรถ หรือในกุฏิ หรือข้างใต้"
ขอบคุณข้อมูลจาก TikTok @killtube91
อุบาทว์ทั้งตัวผู้และตัวเมียเลย อันคำสอนของพระพุทธองค์ในโบราณ แค่องคชาตเข้าไปแค่เม็ดงานิดเดียวก็ถือว่าปาราชิกเสียแล้ว ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ท่านไม่ได้สึกอย่างเดียว ท่านจับมาโบย เฆี่ยน ตี ทั้งสมีและสีกาที่อุบาทว์และเปรตตลอด
มันต้องแก้กฎหมายใหม่ ไม่ใช่สึกอย่างเดียว เป็นสมีอย่างเดียว มันต้องมาสักหน้าด้วยรอยตีนกาที่หน้าผากมันด้วย จะได้ไม่ต้องทำบนสันเขื่อน ในรถ หรือในกุฏิ หรือข้างใต้"
ขอบคุณข้อมูลจาก TikTok @killtube91
