x close

เมนต์สนั่น กฎใหม่จ่อปรับ 2,000 บาท ถ้าเด็กไม่นั่งคาร์ซีต - หมอชี้อีกมุมจำเป็นมาก


           ส่องความคิดเห็น พ.ร.บ.จราจรทางบก จ่อบังคับเด็กอายุไม่เกิน 6 ปี หรือสูงไม่ถึง 135 ซ.ม. ต้องนั่งคาร์ซีต ฝ่าฝืนปรับ 2,000 บาท มองอีกมุมมีประโยชน์มากกว่าแค่ปลอดภัย

คาร์ซีต

           จากกรณี พ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2565 เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2565 ระบุช่วงหนึ่งว่า ในขณะขับรถยนต์ คนโดยสารที่เป็นเด็กอายุไม่เกิน 6 ปี หรือ ความสูงไม่เกิน 135 เซนติเมตร ต้องจัดให้นั่งในที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กหรือนั่งในที่นั่งพิเศษสำหรับเด็กเพื่อป้องกันอันตรายในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะนั่งแถวตอนใด ฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท โดย พ.ร.บ. นี้ มีผลใช้บังคับในอีก 120 วัน นับแต่ประกาศในราชกิจจานุเบกษานั้น


           เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 9 พฤษภาคม 2565 จากการสำรวจความคิดเห็นในโลกออนไลน์ ปรากฏว่ามีคนจำนวนไม่น้อยวิจารณ์ถึงการออกกฎดังกล่าว มองว่า เป็นการโยนภาระให้กับผู้ใช้รถฝ่ายเดียว บางเคสยืนยันว่าไม่สามารถทำได้ เช่น เป็นรถกระบะตอนเดียว หรือ เป็นรถ 4 ที่นั่ง แต่มีสมาชิกครอบครัว 4-5 คน และเกรงว่าเมื่อบังคับใช้กฎหมายนี้ อาจจะถูกเอาผิดและต้องโดนปรับในอัตราโทษถึง 2,000 บาท ซึ่งไม่ใช่เงินน้อย ๆ สำหรับหลายครอบครัว

           นอกจากนี้ ยังมีการตั้งคำถามว่า หากมีการบังคับใช้กฎหมายนี้จริง ภาครัฐนั้นควรจะมีการช่วยสนับสนุน หรือสร้างความเข้าใจกับประชาชนให้ดีกว่านี้หรือไม่ ซึ่งบางส่วนก็ข้องใจว่า จะออกข้อบังคับใหม่นั้น ปัจจุบันสามารถแก้ปัญหาบนท้องถนนอื่น ๆ เช่น ขับรถเล่นมือถือ ไม่รัดเข็มขัด ไม่หยุดให้คนข้ามทางม้าลาย ขี่ไม่สวมหมวกกันน็อก ขี่บรทางเท้า ได้แล้วหรือยัง เป็นต้น

           ขณะที่บางส่วนมองว่า การบังคับให้เด็กอายุไม่เกิน 6 ขวบ นั่ง คาร์ซีต เป็นเรื่องที่เหมาะสมแล้วเพราะจะช่วยเรื่องความปลอดภัย ในหลายประเทศก็มีข้อบังคับแบบนี้เช่นกัน ซึ่งมอง่าหลายครอบครัวนั้นหากสามารถซื้อรถได้แล้วก็น่าจะมีความพร้อมในการซื้อคาร์ซีตได้เช่นกัน

คาร์ซีต

คาร์ซีต

คาร์ซีต

คาร์ซีต

คาร์ซีต

คาร์ซีต

คาร์ซีต

คาร์ซีต

คาร์ซีต

คาร์ซีต

คาร์ซีต มีประโยชน์มากกว่าแค่ความปลอดภัย


           สำหรับประโยชน์ของ คาร์ซีต ทางเพจเฟซบุ๊ก เลี้ยงลูกตามใจหมอ เคยลงบทความไว้เมื่อ 4 ปีที่แล้วว่า "ความปลอดภัย เป็นเรื่องที่หยวน ๆ ไม่ได้" ยืนยันว่า อ้อมอกของคุณแม่ตอนขับรถนั้นไม่ใช่อ้อมอกที่ปลอดภัยสำหรับลูก เพราะเมื่อเกิดอุบัติเหตุนั้น เด็กจะเป็นฝ่ายพุ่งทะลุออกไปนอกรถ ไม่เช่นนั้นก็จะถูก ถุงลมนิรภัย หรือตัวคุณแม่เองที่จะทับลูก ดังนั้น คาร์ซีตนั้นจำเป็นหากจะพาลูกไปไหนมาไหนด้วยรถยนต์

           นอกจากนี้การให้ลูกนั่งคาร์ซีตยังเป็นการปรับพฤติกรรม เป็นเรื่องแรก ๆ ที่จะแสดงให้เห็นว่าบ้านนี้ใครใหญ่ ใครสามารถคุมคนอื่น ๆ ในบ้านได้ ขอให้คิดไว้ว่า เด็กร้องไห้ ไม่ถึงตาย แต่หากเกิดรถชนอาจเสียชีวิตได้ หากคุณพ่อคุณแม่ทนเสียงร้องในช่วงแรกได้ จากนี้เป็นต้นไปชีวิตจะดีขึ้นอีกมาก เพราะเมื่อลูกยอมนั่งคาร์ซีต เราจะสามารถไปไหนมาไหนกับลูกได้สองต่อสอง ไม่ต้องมานั่งพะวงว่าลูกจะปีนป่ายไปไหน จะมาคร่อมกระปุกเกียร์เมื่อไหร่ และที่สำคัญ หากเราเป็นคนนั่งรถเราจะไม่ต้องมาอุ้มลูกตลอดทริป และหากเริ่มปรับพฤติกรรมได้ เรื่องอื่น ๆ ที่ต้องฝึกให้ลูกใช้ชีวิตประจำวัน เช่น เลิกนมกลางคืนเลิกนมขวดลูกไม่ยอมกินข้าว ลูกไม่ยอมอาบน้ำ ฝึกกระโถน ก็จะง่ายขึ้นเช่นกัน

ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก เลี้ยงลูกตามใจหมอ

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เมนต์สนั่น กฎใหม่จ่อปรับ 2,000 บาท ถ้าเด็กไม่นั่งคาร์ซีต - หมอชี้อีกมุมจำเป็นมาก โพสต์เมื่อ 9 พฤษภาคม 2565 เวลา 11:47:41 12,412 อ่าน
TOP