หนุ่มวัย 24 ปี ชานมเลิฟเว่อร์ ดื่มชานมวันละ 4 แก้ว ถูกพาส่งไอซียู ตรวจพบเลือดขุ่นจนคล้ายนม อวัยวะหลายส่วนถูกทำลาย
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
หลายคนเป็นชานมเลิฟเว่อร์ ชื่นชอบการรับประทานชานมเป็นชีวิตจิตใจต้องดื่มทุกวันขาดไม่ได้ แต่การบริโภคมากเกินความพอดีนั้น ย่อมตามมาด้วยผลเสียอย่างแน่นอน และในกรณีที่ร้ายแรง เช่นเคสผู้ป่วยรายนี้ เขาถึงขั้นเลือดกลายเป็นนม วันที่ 12 พฤษภาคม 2565 เว็บไซต์แอปเปิลเดลี่ รายงานว่า เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ชายหนุ่มรายหนึ่ง อายุ 24 ปี ชื่อสกุลถัน อาศัยในเมืองหลิ่วโจว เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ของประเทศจีน ถูกพาตัวส่งห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล ภายหลังจากมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรงโดยไม่ทราบสาเหตุ ร่วมกับอาการคลื่นไส้และอาเจียน
ต่อมาแพทย์เข้าช่วยเหลือตรวจเช็กร่างกาย เจาะเลือดปลายนิ้วเพื่อนำไปตรวจวัดค่าน้ำตาลในเลือด แต่ผลปรากฏว่า ระดับน้ำตาลในเลือดของเขาสูงมาก แพทย์ได้วินิจฉัยโดยอาศัยการตรวจเลือดทางหลอดเลือดดำอีกครั้ง ก่อนที่ผลจะออกมาว่า ระดับน้ำตาลในเลือดของเขาสูงเกินค่าปกติมากกว่า 4 เท่า
ไม่เพียงแค่นั้น แพทย์ยังต้องตกตะลึง เมื่อพบว่าหลังจากที่เอาเลือดเข้าเครื่องตีแล้ว เลือดของผู้ป่วย "ดูคล้ายน้ำนม" ซึ่งบ่งชี้ว่า เขาประสบภาวะไขมันในเลือดสูง นอกจากนี้ อวัยวะหลายส่วนยังถูกทำลาย ตามมาด้วยโรคต่าง ๆ ได้แก่ เลือดเป็นกรดจากเบาหวาน ไตวายเฉียบพลัน ภาวะโพแทสเซียมสูง ความดันโลหิตสูง กรดยูริกเกิน ไขมันพอกตับ ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ และตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน ส่งผลให้ร่างกายของเขาเหมือนกับชายชราในวัย 60 ปี
ภาพจาก Weibo
ด้วยเหตุนี้ผู้ป่วยจึงถูกย้ายเข้าห้องไอซียูเพื่อรับการรักษาในทันที โดยทางแพทย์ได้สอบถามข้อมูลจากผู้ป่วย จึงได้ทราบสาเหตุว่าเกิดจากพฤติกรรมการชอบดื่มชานมของเขา เขายอมรับว่าเป็นคนที่ชอบดื่มชานมมาก ตั้งแต่เมื่อ 2 ปีก่อน ตอนที่เขาไปทำงานเซินเจิ้น เขาต้องดื่มชานมอย่างน้อยวันละ 4 แก้ว และบางครั้งถึง 6 แก้ว จึงจะพอใจ
แม้ว่าในตอนนั้น ถันจะพบว่า ร่างกายของเขาอ้วนขึ้นอย่างรวดเร็วแบบมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก จนเมื่อปีที่แล้ว เขากลับมาทำงานที่บ้านเกิด แต่ก็ยังดื่มชานมทุกวันวันละ 4 แก้วเรื่อยมา จนช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา เขาก็เริ่มมีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ และไม่สบายตัว ตอนแรกคิดว่าปวดท้องทั่วไป จนกระทั่งทนไม่ไหว
อย่างไรก็ดี นับว่ายังโชคดี ภายหลังจากเข้ารับการรักษาตัวในไอซียูเป็นเวลา 1 สัปดาห์ ถันก็พ้นขีดอันตราย แต่แพทย์สั่งห้ามอย่างเด็ดขาด เกี่ยวกับการบริโภคน้ำตาลและไขมันมากเกินไป รวมไปถึงบุคคลทั่ว ๆ ไป ในระยะยาวจะทำให้อวัยวะของมนุษย์ทำงานหนัก จนเกิดโรคเฉียบพลันและเรื้อรังต่าง ๆ หากต้องการดื่มเครื่องดื่มประเภทนี้เพื่อคลายความร้อน ควรระมัดระวัง ดื่มแต่พอประมาณไม่ให้ทำร้ายร่างกาย
ด้าน อ.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ ได้ไขความกระจ่างในเรื่องนี้ว่า ภาวะที่เลือดดูคล้ายน้ำนมนั้น เกิดจากการปั่นแยกเลือดของคนที่มีไขมันในเลือดสูงมาก โดยเวลาเจาะเลือด จะเจาะจากเส้นเลือดดำ แล้วเอาเลือดไปปั่นแยก ซึ่งจากนั้นจะเกิดการแยกตัว 3 ชั้น คือ
1. ชั้นเม็ดเลือดแดง (สีแดง)
2. ชั้นเม็ดเลือดขาว (สีขาว)
3. ชั้นน้ำเหลือง
และจากการปั่นเลือด จะสังเกตเห็นความผิดปกติของเลือดได้ เช่น ถ้ามีชั้นเม็ดเลือดแดงน้อย จะเป็นภาวะโลหิตจาง, ชั้นเม็ดเลือดแดงมากกว่าปกติ คือภาวะเลือดข้น, ชั้นเม็ดเลือดขาวมากกว่าปกติ ปริมาณเม็ดเลือดขาวมากกว่าปกติ เกล็ดเลือดอาจจะมีมาก อาจจะเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว, และถ้าชั้นน้ำเหลืองสีผิดปกติ ก็แสดงถึงความผิดปกติ เช่น ผู้ป่วยมีไขมันในเลือดสูง และสีจะออกมาคล้ายกับน้ำนม และอาจจะเห็นเป็นน้ำนมสีชมพู ถ้าเกิดการผสมกันระหว่างชั้นน้ำเหลืองและเม็ดเลือดแดง
อย่างไรก็ตาม ข่าวนี้มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นเรื่องจริง ที่หากว่ามีการบริโภคไขมันสูงเกินไป เช่นชานม ต่อเนื่องกันในปริมาณมาก ก็ทำให้ไขมันในเลือดสูง ปั่นแยกออกมาแล้วคล้ายชานม
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก tw.appledaily
*** หมายเหตุุ : แก้ไขข้อมูลล่าสุดวันที่ 14 พฤษภาคม 2565 เวลา 22.30 น.
