เจ้าคณะตำบลโพนเมืองน้อย แนะ อดีตนักข่าวเวิร์คพอยท์ ให้ขอขมาหลวงปู่แสงอีกครั้ง เพราะพานเทียนแพผิด แบบนั้นใช้ไหว้พิธีอวมงคล
จากกรณี น.ส.วาสนา นักข่าวเวิร์คพอยท์ นำพานดอกไม้ธูปเทียน มาขอขมาต่อรูปหลวงปู่แสง ที่วัดใน จ.อำนาจเจริญ โดยทางลูกศิษย์ได้จัดเตรียมไว้ให้ที่หน้าประตูทางเข้า จากนั้นก็กล่าวคำขอขมา แล้วก้มลงกราบกับพื้น และยอมรับว่าเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น กรณีมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสร้างหลักฐาน และกริยาที่ดูไม่เหมาะสมนั้น
อ่านข่าว : เวิร์คพอยท์เอาจริง ไล่ออกนักข่าว สร้างหลักฐานดักหลวงปู่แสง - เจ้าตัวเสียใจ กราบไปร้องไห้ไป
ภาพจาก เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 14 พฤษภาคม 2565 รายการเรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ รายงานว่า พระครูกมลวัฒนาทร (มนู ประชานันท์) เจ้าคณะตำบลโพนเมืองน้อย (ธ) มีเขตดูแล 9 ตำบล เจ้าอาวาสวัดป่าทองสมรรัตนาราม ต.รัตนวารี อ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ กล่าวว่า จากการที่โยมนักข่าวผู้หญิงนำพานขอขมาไปขอขมาหลวงปู่แสง แต่พานเทียนขอขมานั้นไม่ถูกต้อง มันเป็นพานเทียนที่ไปขอขมาในงานศพหรือผีตาย ซึ่งเขาเรียกว่า พานเทียนแพอวมงคล ดูง่าย ๆ จะมีเทียนวางไว้บนธูป ซึ่งเอาไว้ในการนำไปขอขมาศพที่ตายแล้ว ส่วนที่ถูกคือจัดวางธูปไว้บนเทียน สิ่งที่ใช้ในงานมงคลทั่วไปทุกงาน จึงอยากให้นักข่าวหญิงคนนี้ให้กลับมาขอขมาหลวงปู่แสงใหม่ อะไร ๆ จะได้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในหน้าที่การงานและการนำเสนอข่าวรับใช้ประชาชน
พระครูกมลวัฒนาทร มองว่า กรณีนี้นักข่าวหญิงที่มาขอขมา อาจจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับเรื่องพานแพมงคล และพานแพ อวมงคล ซึ่งคนขายก็ไม่รู้หรืออาจจะฟังสับสน ซึ่งไม่ได้จะไปโทษใคร มองว่าในช่วงเราซวย ถึงคราวดวงตก ทำอะไรมันก็ผิดไปหมด แต่ถ้าโยมกลับมาแก้ไขเสียใหม่สิ่งต่าง ๆ ก็จะดีขึ้น พร้อมอยากกำชับไปยังพุทธศาสนิกชนประชาชนต่าง ๆ ในการใช้สิ่งมงคลกราบไหว้บูชา หรือการขอขมาต่าง ๆ ให้ดูให้รอบคอบอันไหนผิดอันไหนถูกต้องสอบถามผู้รู้ จะไม่ได้ปฏิบัติถูก ๆ ผิด ๆ
ภาพจาก เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์
ขณะที่ในโลกออนไลน์บางส่วน ก็มีผู้สังเกตเห็นว่า นักข่าวหญิง วางแพเทียนขอขมาที่ผิดจริง โดยแบบดังกล่าวนั้นคือแบบ อวมงคล นอกจากนี้ยังมองว่าไม่ควรใช้ดอกไม้สีแดง แต่ควรจะเป็นดอกไม้สีขาวอีกด้วย
จากกรณี น.ส.วาสนา นักข่าวเวิร์คพอยท์ นำพานดอกไม้ธูปเทียน มาขอขมาต่อรูปหลวงปู่แสง ที่วัดใน จ.อำนาจเจริญ โดยทางลูกศิษย์ได้จัดเตรียมไว้ให้ที่หน้าประตูทางเข้า จากนั้นก็กล่าวคำขอขมา แล้วก้มลงกราบกับพื้น และยอมรับว่าเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น กรณีมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสร้างหลักฐาน และกริยาที่ดูไม่เหมาะสมนั้น
อ่านข่าว : เวิร์คพอยท์เอาจริง ไล่ออกนักข่าว สร้างหลักฐานดักหลวงปู่แสง - เจ้าตัวเสียใจ กราบไปร้องไห้ไป
ภาพจาก เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 14 พฤษภาคม 2565 รายการเรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ รายงานว่า พระครูกมลวัฒนาทร (มนู ประชานันท์) เจ้าคณะตำบลโพนเมืองน้อย (ธ) มีเขตดูแล 9 ตำบล เจ้าอาวาสวัดป่าทองสมรรัตนาราม ต.รัตนวารี อ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ กล่าวว่า จากการที่โยมนักข่าวผู้หญิงนำพานขอขมาไปขอขมาหลวงปู่แสง แต่พานเทียนขอขมานั้นไม่ถูกต้อง มันเป็นพานเทียนที่ไปขอขมาในงานศพหรือผีตาย ซึ่งเขาเรียกว่า พานเทียนแพอวมงคล ดูง่าย ๆ จะมีเทียนวางไว้บนธูป ซึ่งเอาไว้ในการนำไปขอขมาศพที่ตายแล้ว ส่วนที่ถูกคือจัดวางธูปไว้บนเทียน สิ่งที่ใช้ในงานมงคลทั่วไปทุกงาน จึงอยากให้นักข่าวหญิงคนนี้ให้กลับมาขอขมาหลวงปู่แสงใหม่ อะไร ๆ จะได้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในหน้าที่การงานและการนำเสนอข่าวรับใช้ประชาชน
พระครูกมลวัฒนาทร มองว่า กรณีนี้นักข่าวหญิงที่มาขอขมา อาจจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับเรื่องพานแพมงคล และพานแพ อวมงคล ซึ่งคนขายก็ไม่รู้หรืออาจจะฟังสับสน ซึ่งไม่ได้จะไปโทษใคร มองว่าในช่วงเราซวย ถึงคราวดวงตก ทำอะไรมันก็ผิดไปหมด แต่ถ้าโยมกลับมาแก้ไขเสียใหม่สิ่งต่าง ๆ ก็จะดีขึ้น พร้อมอยากกำชับไปยังพุทธศาสนิกชนประชาชนต่าง ๆ ในการใช้สิ่งมงคลกราบไหว้บูชา หรือการขอขมาต่าง ๆ ให้ดูให้รอบคอบอันไหนผิดอันไหนถูกต้องสอบถามผู้รู้ จะไม่ได้ปฏิบัติถูก ๆ ผิด ๆ
ภาพจาก เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์
ขณะที่ในโลกออนไลน์บางส่วน ก็มีผู้สังเกตเห็นว่า นักข่าวหญิง วางแพเทียนขอขมาที่ผิดจริง โดยแบบดังกล่าวนั้นคือแบบ อวมงคล นอกจากนี้ยังมองว่าไม่ควรใช้ดอกไม้สีแดง แต่ควรจะเป็นดอกไม้สีขาวอีกด้วย