โรงเรียนสตรีพัทลุง แจงปมน้องโบนัสวัย 14 ปี ผูกคอตาย ยันชัด ครูไม่ได้บอกไม่ให้เรียน แต่ถ้าอยากเรียนต้องให้ผู้ปกครองมาเซ็น ชี้ มีการตีความผิดพลาดจนเกิดเหตุเศร้า
![สตรีพัทลุง แจงปมเด็ก 14 ผูกคอตาย ไม่ได้พูดว่าไม่ให้เรียน แต่รอให้แม่มาเซ็น ใครผิดใครถูก]( "สตรีพัทลุง แจงปมเด็ก 14 ผูกคอตาย ไม่ได้พูดว่าไม่ให้เรียน แต่รอให้แม่มาเซ็น ใครผิดใครถูก")
จากกรณีที่มีเรื่องน้องโบนัส วัย 14 ปี ผูกคอตายเพราะเจอปัญหาครอบครัวสารพัด ทั้งแม่เลี้ยงพิการ แม่แท้ ๆ ติดการพนัน พ่อไม่สนใจ น้าลวนลาม จนทำให้น้องไม่มีเงินไปเรียนต่อ และครูก็บอกว่า ให้ล้มเลิกความพยายามที่จะเรียนต่อแล้ว จนกลายเป็นสาเหตุให้น้องผูกคอตาย ส่วนชาวเน็ตก็ไม่พอใจที่ครูไปพูดแบบนั้น ควรมีจิตวิทยาในการพูดมากกว่านี้
ล่าสุด วันที่ 16 พฤษภาคม 2565 เฟซบุ๊ก สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพัทลุง รายงานว่า นางมาลี แก้วละเอียด ผอ.โรงเรียนสตรีพัทลุง ชี้แจงว่า โรงเรียนเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ระบบการดูแลนักเรียน โรงเรียนก็ทำดีที่สุดแล้ว ในตอนนั้น นายตุลยวัต เขียวจีน รอง ผอ. และนางสาวจรรยา (สงวนนามสกุล) ครูที่ปรึกษา ได้เตรียมความพร้อมในการดูแลเด็กแล้ว แต่ว่าวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา เด็กไม่ได้มาโรงเรียน พอโรงเรียนติดต่อไป ก็ทราบว่าเด็กไม่ได้อยู่ที่ จ.พัทลุง แต่อยู่ที่ จ.สงขลา กับมารดา ทำให้ทราบว่า เด็กไม่สามารถเรียนที่สตรีพัทลุงได้แล้ว เพราะไม่มีที่พักและไม่มีคนดูแล จึงแจ้งที่ปรึกษาให้เร่งแก้ปัญหาให้เด็ก
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Lapaz Cho
ให้ทางเลือกเด็ก 2 ทาง ถ้าอยากเรียนต่อ รอแค่แม่มาเซ็น
นางสาวจรรยา ครูที่ปรึกษา เสนอทางเลือกให้เด็ก 2 ทาง ดังนี้ คือ
1. แนะนำให้เรียนโรงเรียนใกล้บ้าน จะได้ประหยัดค่าใช้จ่าย
2. ถ้ามาเรียนที่ จ.พัทลุง ต้องอาศัยในบ้านพักเด็กโคกชะงาย มีรถรับส่งฟรี อาหารฟรี แต่คนเป็นแม่ต้องมายินยอมในวันที่ 17 พฤษภาคม นี้ ก่อนที่จะทราบว่า เด็กฆ่าตัวตายวันที่ 13 พฤษภาคม เบื้องต้น โรงเรียนไปร่วมงานศพและมอบเงินสวัสดิการให้ส่วนหนึ่ง
เชื่อ ปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากการสื่อสารผิดพลาด
ทั้งนี้ การดูแลเด็ก โรงเรียนรับรู้ว่าครูพูดอะไรกับนักเรียนไปบ้าง และโรงเรียนก็เตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือทุกด้าน ขอเพียงให้แม่มาเซ็นหนังสือรับรองให้เด็กไปพักที่บ้านพักเด็กเท่านั้น ทว่าทางโรงเรียนก็ยอมรับว่า ไม่รู้ว่าครอบครัวเด็กเป็นยังไง และการที่เด็กไปคุยกับเพื่อน ก็อาจทำให้มีการตีความที่ผิดพลาดได้ ส่วนประเด็นเด็กไม่ได้ทุนการศึกษา เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง เด็กคนนี้ได้ทุนการศึกษาทุกปี
โรงเรียนขอยืนยันว่า ไม่มีครูคนไหนไม่มีความปรารถนาดีต่อนักเรียน การที่พูดว่าไม่มีเงินแล้วมาเรียนโรงเรียนนี้ไม่ได้ก็เป็นไปไม่ได้ เพราะเราเปิดรับคำร้อง ใครจะขอลดค่าบำรุงการศึกษา ใครจะขอยกเว้นการจ่ายก็ยื่นคำร้องได้ และแต่ละเทอมก็มีเด็กรับการยกเว้นการจ่ายค่าบำรุงเกือบ 100 คน ไม่มีการเร่งเก็บเงินเลย
อย่างไรก็ตาม โรงเรียนก็ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย หลังจากนี้ ตนในฐานะ ผอ. จะเน้นย้ำครูให้ระมัดระวังการสื่อสารกับนักเรียน เพราะนักเรียนแต่ละคนอาจจะมีปัญหาไม่เหมือนกัน จนทำให้การสื่อสารระหว่างครูกับนักเรียนเกิดข้อผิดพลาดได้
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพัทลุง
