ยิ่งลักษณ์ สับประยุทธ์ หลังโบ้ยหนี้จำนำข้าว 9 แสนล้าน ทำให้ไม่มีเงินพัฒนาประเทศ ชี้ เป็นเพราะหนี้จริง ๆ หรือบริหารไม่เป็น ด้านเดชรัต สุขกำเนิด นักวิชาการ ชำแหละหนี้จำนำข้าว ประยุทธ์พูดจริงไหม บอกเลยมีส่วนที่จริงและไม่จริงปนกัน
ประเด็นร้อนแรงในการเมืองไทยเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2565
ที่ผ่านมา จากประเด็นที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
กล่าวในสภาถึงโครงการจำนำข้าวที่ขาดทุนกว่า 9.5 แสนล้านบาท
และรัฐบาลชำระหนี้ไปแล้ว 7.8 แสนล้านบาท
เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ไม่มีเงินไปพัฒนาประเทศด้านอื่น
ยิ่งลักษณ์ สับตู่อีกปี เป็นเพราะหนี้จำนำข้าวหรือบริหารไม่เป็น
ล่าสุด วันที่ 1 มิถุนายน 2565
เฟซบุ๊ก Yingluck Shinawatra ของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีการโพสต์ถึงเรื่องนี้ว่า
คำกล่าวหาเรื่องการต้องใช้หนี้จำนำข้าวกว่า 7 แสนล้านบาท
เป็นคำกล่าวหาที่ใช้มาหลายครั้งแล้ว ซึ่งเมื่อปีที่ผ่านมาก็ได้ชี้แจงไปแล้ว
อ่านข่าว : วิวาทะ ยิ่งลักษณ์ VS ประยุทธ์ คดีจำนำข้าว
ซัดหัดโทษตัวเองบ้าง ใช้หนี้แทน 7 ปี จริงหรือไม่ ? ส่วนในวันนี้
ตนอยากจะขอฝากอะไรให้เป็นแง่คิด ระหว่างการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี
2566 ว่า แม้รัฐบาลตนจะถูกโจมตีอย่างหนักว่าสร้างหนี้
ทั้งที่สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP อยู่เพียง 45.91% แต่หลังรัฐประหารผ่านไป
8 ปี หนี้ได้พุ่งขึ้นไปที่ 60.58%
โดยรัฐบาลคุณประยุทธ์จัดทำงบประมาณขาดดุลมากขึ้น ๆ ทุกปี
นอกจากนี้ หนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้นช่วง 8 ปีที่ผ่านมาก็สูงถึง 4.4 ล้านบาท
และรัฐบาลก็มีแผนการก่อหนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไร้ยุทธศาสตร์
ผิดหลักการที่ต้องใช้เงินกู้เพื่อทำให้เศรษฐกิจขยายตัว
และตอนนี้ประชาชนก็ไม่มีรายได้เพิ่ม หนี้สินครัวเรือนเพิ่มขึ้น
รัฐบาลเก็บภาษีไม่ได้เพียงพอ
จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ไม่สามารถลดการขาดดุลงบประมาณลง
ดังนั้น ตนขอตั้งคำถามว่า การที่หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นอย่างน่าใจหาย
เป็นเพราะโครงการจำนำข้าวหรือบริหารไม่เป็น หากมองย้อนกลับไป
ตนภูมิใจที่ได้บริหารประเทศภายใต้หลักการที่เพิ่มเงินในกระเป๋าให้พี่น้องประชาชน
พร้อมกับสร้างรายได้ให้ประเทศมากขึ้น
จนสามารถประกาศว่าจะทำงบประมาณให้สมดุลได้ใน ปี 2560
ต่างจากรัฐบาลปัจจุบันที่ไม่สามารถเป็นที่พึ่งและความหวังของประชาชนได้แม้แต่น้อย
นักวิชาการไขปริศนาจำนำข้าว ประยุทธ์พูดจริงหรือไม่
ขณะเดียวกัน นายเดชรัต สุขกำเนิด
อาจารย์ประจำภาควิชาเศรษฐศาสตร์เกษตรและทรัพยากร คณะเศรษฐศาสตร์
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์ไขปริศนาถึงเรื่องจำนำข้าวผ่าน เฟซบุ๊ก Decharut Sukkumnoed ว่า สิ่งที่นายกรัฐมนตรีกล่าวในสภา สามารถตอบได้สั้น ๆ คือ
มีทั้งเรื่องจริง ไม่จริง และพูดไม่หมด
ก่อนอื่นเลยต้องย้อนคำพูดนายกรัฐมนตรีก่อน นายกฯ บอกว่า
"จำนำข้าวขาดทุนกว่า 9.5 แสนล้านบาท รัฐบาลชำระหนี้ไปแล้ว 7.8 แสนล้านบาท
เหลือเงินต้นและดอกเบี้ย 3 แสนล้านบาท"
ข้อมูลดังกล่าว
เมื่อเทียบกับงบการเงินประจำไตรมาสล่าสุดของ ธ.ก.ส.. งวดวันที่ 31 ธันวาคม
2564 และเอกสารร่างงบประมาณประจำปี 2566 สามารถบอกข้อเท็จจริงได้ 10
ข้อดังนี้ 1. โครงการจำนำสินค้าเกษตรทุกประเภทตั้งแต่ปี 2551-2557 ใช้เงินไป 9.6 แสนล้านบาท (ไม่ใช่หนี้)
2. ถ้าหากมีการขายผลผลิตออกไป เราก็จะได้เงินกลับเข้ามาด้วย ซึ่งเงินที่เข้ามานั้นมีประมาณ 4 แสนล้านบาท
3. ส่วนที่ขาดทุน เหลือเป็นหนี้คือ 5.5 แสนล้านบาท ถือเป็นเลขที่ไม่น้อย
แต่ก็ตัวเลขที่ พล.อ. ประยุทธ์ บอกก็ไม่ใช่ตัวเลขที่ถูกต้อง
4. หนี้ 5.5 แสนล้านบาท รัฐบาลมีการชำระหนี้ไปแล้ว 2.7 แสนล้านบาท
ฉะนั้นตัวเลขชำระหนี้ 7.8 แสนล้านไม่ใช่แน่นอน อาจจะเป็นเพราะนายกฯ
เอาเลขที่ไถ่ถอน ขายผลผลิตไปรวมด้วย ทำให้เกิดการคลาดเคลื่อนเกินจริง
5. ด้วยเหตุนี้ หนี้ที่เหลือจริง ๆ หลังจากชำระหนี้คือ 2.8 แสนล้าน ใกล้เคียงกับตัวเลขที่นายกฯ กล่าว
6. งบประมาณปี 2566 รัฐบาลตั้งงบชำระหนี้ส่วนหนี้อีก 2.6 หมื่นล้านบาท
ถ้าหากตั้งชำระอัตรานี้ตลอด เท่ากับว่าหนี้จำนำข้าวจะอยู่ในระบบอีก 10 ปี
7. สิ่งที่นายกฯ ไม่ได้กล่าวคือ ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
รัฐบาลปัจจุบันก็มีการสร้างหนี้เพิ่มจากโครงการประกันรายได้เกษตรกร
สินเชื่อเพื่อชะลอขายข้าว และอื่น ๆ อีกอย่างต่ำ 2.4 แสนล้านบาท ซึ่งนายกฯ
ไม่เคยกล่าวถึงหนี้ที่ตัวเองสร้างขึ้นเลย
8. หนี้ใหม่ที่สร้างมาในรัฐบาลชุดนี้ มีการตั้งชำระหนี้ในงบปี 2566 คือ 4.4 หมื่นล้านบาท
9. ถ้ารวมหนี้จากนโยบายรัฐบาลทุกรัฐบาลที่ผ่านมา เท่ากับว่า มีหนี้กับ ธ.ก.ส. ไว้ในปัจจุบัน 8.8 แสนล้านบาท
10. ถ้าหากนำหนี้ 8.8 แสนล้านบาท มาเทียบกับงบประมาณกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
พบว่า หนี้นี้สูงถึง 7 เท่าของงบประมาณกระทรวงเลย
สรุปแบบสั้น ๆ โดยนายเดชรัต
หนี้จำนำข้าวมีอยู่จริง แต่ไม่ได้มากเท่าที่ พล.อ. ประยุทธ์กล่าว
และที่สำคัญคือ รัฐบาลชุดนี้ก็สร้างหนี้เพิ่มเรื่อย ๆ
เท่ากับหนี้จำนำข้าวเดิมด้วยซ้ำ ซึ่งทาง พล.อ. ประยุทธ์
ก็ไม่เคยกล่าวถึงหนี้ที่ตัวเองก่อขึ้นเลย
มัวแต่โทษคนอื่นหรือรัฐบาลที่ผ่านมา