เด็ก 10 ขวบ ไร้ที่พึ่ง เขียนจดหมายถึง รมว.ยุติธรรม วอนช่วยดูโทษหลังแม่ติดคุก

          เด็ก 10 ขวบ ไร้ที่พึ่ง ส่งจดหมายร้องเรียน รมว.ยุติธรรม หลังแม่ถูกตัดสินจำคุกคดีเกี่ยวกับเงิน ทำให้พี่สาวต้องออกมาเรียน กศน. วอนช่วยดูว่าโทษถูกต้องหรือไม่



          วันที่ 1 มิถุนายน 2565 เฟซบุ๊ก กระทรวงยุติธรรม Ministry Of Justice, Thailand รายงานว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้รับจดหมายร้องเรียนจาก ด.ช.เอ (นามสมมุติ) อายุ 10 ขวบ เกี่ยวกับมารดาที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำจากคดีเรื่องเงินที่อาจจะไม่ได้รับความเป็นธรรม

          ในจดหมายดังกล่าว ด.ช.เอ ระบุว่าแม่ของเขาถูกจำคุกเพราะเรื่องเงิน เขามองว่าไม่ยุติธรรมเนื่องจากแม่ได้จ่ายเงินคืนไปแล้วส่วนหนึ่ง แต่ก็ยังถูกฟ้องจนต้องติดคุก ซึ่งแม่เป็นคนดูแลลูกสองคน ส่วนพ่อนั้นไม่ถูกกัน ทำให้ตอนนี้พี่สาวของเขาต้องออกมาเรียน กศน. เพื่อช่วยประหยัดเงินอีกทั้งยังอยู่กันเพียงลำพังไม่มีผู้ใหญ่ดูแล จะมีเพียงเพื่อนของแม่ที่มาดูแลบ้าง จึงอยากให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ช่วยตรวจสอบว่า การจำคุกแม่ของเขา มีอัตราโทษที่ถูกต้องหรือไม่


          นายสมศักดิ์ ระบุว่าหลังจากที่ตนได้อ่านลายมือของเด็กชายก็รู้สึกว่าเขาไม่มีที่พึ่งจึงลองเขียนจดหมายมาหา แต่ก็เป็นสิ่งที่ถูกต้องเพราะกระทรวงยุติธรรมมีหน้าที่ช่วยเหลือประชาชน ดังนั้น เมื่อทราบเรื่อง จึงได้ให้คณะทำงาน โทรศัพท์ไปสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งลงพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วน ซึ่งทราบว่า ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ รองนายกเทศมนตรีหัวหิน พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด ยุติธรรมจังหวัด และกรมราชทัณฑ์ ได้ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบ และให้การช่วยเหลือแล้ว

          นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า จากการสอบถามหน่วยงานที่ลงพื้นที่ ได้รายงานมาว่า จุดประสงค์ของ ด.ช.เอ จะอยู่ร่วมกับแม่ แต่คดีความ ได้มีคำพิพากษาไปแล้ว จึงไม่สามารถดำเนินการได้ ซึ่งแม่ของ ด.ช.เอ ได้รับโทษ 3 เดือน 15 วัน จะพ้นโทษ วันที่ 31 สิงหาคม 2565 ดังนั้น จากนี้ ผู้บัญชาการเรือนจำ จะอำนวยความสะดวกให้กับ ด.ช.เอ ได้คุยกับแม่ผ่านวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ ตามความเหมาะสม เพื่อช่วยเยียวยา ส่วนการเยี่ยมแบบพบหน้า ก็สามารถทำได้ แต่เป็นความประสงค์ของแม่ ที่ไม่ต้องการให้ลูกมาเห็นภาพในเรือนจำ จึงตกลงเยี่ยมกันแบบออนไลน์

          นายสมศักดิ์ ระบุว่า จากการลงพื้นที่พบว่าคุณภาพชีวิตของเด็ก ๆ ไม่มีปัญหา พ่อที่เป็นชาวต่างชาติได้ส่งเงินให้ใช้คนละ 2,500 บาทต่อสัปดาห์  และมีเพื่อนแม่ มาช่วยดูแล ส่วนการศึกษา ด.ช.เอ ยังคงเรียนตามปกติ แต่พี่สาว ถูกเพื่อนบูลลี่ที่โรงเรียน จึงสมัครใจเรียน กศน. ซึ่งหน่วยงานที่ลงพื้นที่ พยายามช่วยให้ย้ายโรงเรียน แต่น้องไม่สมัครใจเรียนในระบบ จึงตกลงให้เรียน กศน.ไปก่อน 1 ปี เมื่อแม่ของน้องออกมา ค่อยพูดคุยกันใหม่ แต่ก็ทราบว่า ทางครอบครัวได้วางแผนว่า เมื่อน้องจบ ม.6 ก็จะย้ายไปเรียนต่างประเทศ โดยจากนี้ จะมีทุกหน่วยงานช่วยดูแลอย่างใกล้ชิด จึงไม่น่าเป็นห่วงแล้ว
ขอบคุณข้อมูลจาก กระทรวงยุติธรรม Ministry Of Justice, Thailand