ทนายเดชา ยื่นหนังสือร้องสอบมงคลกิตติ์ เอาให้หนักขอให้หลุดจาก ส.ส. ด้านเสรีพิศุทธิ์ ยืนยันจะสอบสวนเต็มที่ ด้านมงคลกิตติ์ เปิดตัวบอดี้การ์ดคุณแม๊ ป้องกันเหตุร้าย พร้อมประกาศลั่น เสร็จคดีลาออกเอง

ภาพจาก ข่าวช่อง 3
แม้ว่าแตงโม นิดา จะเสียชีวิตมานานกว่า 3 เดือน แต่ในเรื่องคดีความนั้นยังคงดำเนินต่อไป และล่าสุดก็มีดราม่าระหว่างนายเดชา กิตติวิทยานันท์ อดีตทนายความของนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน คุณแม่แตงโม กับนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.พรรคไทยศรีวิไลย์ บานปลายจนถึงขั้นขู่กระทืบ
ล่าสุด วันที่ 2 มิถุนายน 2565 ข่าวช่อง 3 รายงานว่า นายเดชาเดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (กมธ.ปปช.) สภาผู้แทนราษฎร ขอให้สอบจริยธรรมร้ายแรงกับนายมงคลกิตติ์จากเรื่องดังกล่าว โดยนายเดชา ระบุว่า จากกรณีที่อีกฝ่ายมาข่มขู่ตนว่า หากไม่หยุดพูดถึงเรื่องคดีการเสียชีวิตของแตงโม จะถูกกระทืบ ไม่ถนัดวิธีการในระบบ ถนัดแต่วิธีนอกระบบ ซึ่งนายมงคลกิตติ์ เป็นถึง ส.ส. จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
นอกจากนี้ ยังมีการขู่ว่า อีกวิธีนอกจากกระทืบคือการฟ้องร้องตนที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้แล้วไม่ได้กลับมา นั่นหมายถึงตายสถานเดียว รวมถึงการแจ้งความในจังหวัดมหาสารคาม, นราธิวาส ภูเก็ต ทั้งที่เหตุเกิดขึ้นที่กรุงเทพฯ เพราะต้องการให้ตนลำบาก เจตนากลั่นแกล้ง
ทั้งที่หน้าที่ ส.ส. คือ การประชุมสภา แต่กลับไปงมหามีด เห็นท่อนไม้ก็บอกว่าเป็นแตงโม รวมถึงแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมต่าง ๆ ทั้งที่ตำรวจสอบสวนเสร็จแล้ว อยู่ระหว่างรออัยการสั่งฟ้อง แต่กลับจัดตั้งพรรคพวกทนายความไปตรวจสอบการทำงานของตำรวจ ถือเป็นการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม คนแบบนี้เรียกว่า ส.ส. มาเพีย ใครกัดหูก็จะกระทืบ จึงไม่สมควรเป็น ส.ส.
ล่าสุด วันที่ 2 มิถุนายน 2565 ข่าวช่อง 3 รายงานว่า นายเดชาเดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (กมธ.ปปช.) สภาผู้แทนราษฎร ขอให้สอบจริยธรรมร้ายแรงกับนายมงคลกิตติ์จากเรื่องดังกล่าว โดยนายเดชา ระบุว่า จากกรณีที่อีกฝ่ายมาข่มขู่ตนว่า หากไม่หยุดพูดถึงเรื่องคดีการเสียชีวิตของแตงโม จะถูกกระทืบ ไม่ถนัดวิธีการในระบบ ถนัดแต่วิธีนอกระบบ ซึ่งนายมงคลกิตติ์ เป็นถึง ส.ส. จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
นอกจากนี้ ยังมีการขู่ว่า อีกวิธีนอกจากกระทืบคือการฟ้องร้องตนที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้แล้วไม่ได้กลับมา นั่นหมายถึงตายสถานเดียว รวมถึงการแจ้งความในจังหวัดมหาสารคาม, นราธิวาส ภูเก็ต ทั้งที่เหตุเกิดขึ้นที่กรุงเทพฯ เพราะต้องการให้ตนลำบาก เจตนากลั่นแกล้ง
ทั้งที่หน้าที่ ส.ส. คือ การประชุมสภา แต่กลับไปงมหามีด เห็นท่อนไม้ก็บอกว่าเป็นแตงโม รวมถึงแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมต่าง ๆ ทั้งที่ตำรวจสอบสวนเสร็จแล้ว อยู่ระหว่างรออัยการสั่งฟ้อง แต่กลับจัดตั้งพรรคพวกทนายความไปตรวจสอบการทำงานของตำรวจ ถือเป็นการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม คนแบบนี้เรียกว่า ส.ส. มาเพีย ใครกัดหูก็จะกระทืบ จึงไม่สมควรเป็น ส.ส.
เดชา ยืนยัน จะทำทุกทางเพื่อหยุดมงคลกิตติ์ ดาวรุ่งในสภา เสรีพิศุทธ์รีบเบรก
ทั้งนี้ ตนยืนยันว่าจะทำทุกทางเพื่อจัดการนายมงคลกิตติ์หลุดจาก ส.ส. ให้ได้ และคนเดียวที่ทำได้คือ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ ท่านเป็นมือปราบ ส.ส. ขอให้ทุกคนปรบมือให้
สำหรับการข่มขู่ของนายมงคลกิตติ์ มีนับครั้งไม่ถ้วน ครั้งแรกโทรศัพท์ข่มขู่ ครั้งที่ 2 ก็ขู่ตนและทนายคนอื่นอีก 3 คน กับนักข่าวไทยรัฐ จากนั้นก็มีการขู่ผ่านเฟซบุ๊กและมีการแกล้งแจ้งความในพื้นที่ห่างไกล และการที่ตนมาแจ้ง พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ในวันนี้ ตนมั่นใจว่าจะทำให้ดาวรุ่งในสภาร่วง เมื่อพูดจบประโยค พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ กล่าวต่อว่า "ไม่ใช่ดาวรุ่งในสภา แต่เป็นดาวร่วงมากกว่า"
นายเดชา กล่าวต่อไปว่า ส่วนประเด็นที่ตนท้าให้นายมงคลกิตติ์ลงสัตยาบัน แต่อีกฝ่ายไม่ยอมทำ เท่ากับว่า กลัวและคำแนะนำคุณแม่ที่จะให้ฟ้องคนบนเรือร่วมกันฆ่าก็ถือเป็นเรื่องโกหก ตนเป็นห่วงคุณแม่ เพราะแต่ละครั้งที่นายมงคลกิตติ์ แถลงข่าวกับนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม อ้างว่า เป็นนโยบายพรรคไทยศรีวิไลย์ แบบนี้คือการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมหรือเปล่า และอาจขัดรัฐธรรมนูญได้ ดังนั้น ตนอยากให้แม่หาที่ปรึกษาใหม่ดีกว่า
เสรีพิศุทธ์ พร้อมให้ความเป็นธรรม ขอโทษเดชา ส.ส. ทุกคนไม่เป็นแบบนี้
พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทุกคนคงรู้ว่านายมงคลกิตติ์ทำอะไรบ้าง ทำยังกับว่านายเดชาไม่มีความรู้ วันนี้ตนถือว่านายเดชาบุกถ้ำ เดี๋ยวตนจะพาไปหานายมงคลกิตติ์ และจะนำกรรมาธิการ 5 คนมาร่วมรับฟังปัญหาด้วย ส่วนความผิดของนายมงคลกิตติ์ ผิด 3 ข้อได้แก่
1. ประมวลกฎหมายอาญาด้วย มาตรา 309 ที่ระบุว่าผู้ใดข่มขู่ประทุษร้ายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน มีโทษจำคุก 3 ปี
2. มาตรา 209 ผู้ใดกระทำการเป็นอั้งยี่ซ่องโจร มีโทษจำคุก 7 ปี จุดนี้มาจากนายมงคลกิตติ์บอกว่ามีทีมงานถึง 30 คน
3. มาตราที่สำคัญที่สุดคือ มาตรา 157 การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
อย่างไรก็ตาม ในการสอบสวน ตนอาศัยมาตรา 234 (1) ว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีอำนาจหน้าที่ในการไต่สวนดำเนินคดีนักการเมือง ที่กระทำการขัดต่อบทบัญญัติของกฎหมาย และ ประพฤติผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง ซึ่งตนจะรีบสอบสวนและส่งเรื่องไปยัง ป.ป.ช. ส่งต่อไปศาลฎีกาเพื่อดำเนินการความผิดทั้งอาญาและจริยธรรม
ในฐานะ ส.ส. ตนอยากจะขอโทษนายเดชากับเรื่องที่เกิดขึ้น ยืนยัน ส.ส. ไม่ได้เป็นแบบนี้ทุกคน ใครทำผิดกฎหมายตนก็ไม่ละเว้น
มงคลกิตติ์ เปิดตัวอดีตทหารพราน บอดี้การ์ดคุณแม๊
กลับมาที่ความเคลื่อนไหวฝั่งนายมงคลกิตติ์ เมื่อวานนี้ (1 มิถุนายน) มีการโพสต์เฟซบุ๊ก มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ว่า ตอนนี้ส่งมิสเตอร์ S วัย 34 ปี สูง 187 เซนติเมตร น้ำหนัก 98 กิโลกรัม เป็นอดีตทหารพรานจากหน่วยเฉพาะกิจที่ 47 (ยะลา) ไปดูแลคุณแม่แตงโมแล้ว รวมทั้งหมด 3-4 นาย เพื่อป้องกันคนประสงค์ร้าย ส่วนความสามารถพิเศษของนายทหารคนนี้คือ สามารถต่อสู้ระยะประชิดได้ ยิงแม่นปืน

มงคลกิตติ์ ลั่นทั้งน้ำตา จบคดีแตงโมจะลาออกเอง
ข่าวช่องวัน รายงานว่า นายมงคลกิตติ์ มีการแถลงข่าวตอบโต้นายเดชาถึงการถูกยื่นหนังสือร้องเรียนแล้ว โดยนายมงคลกิตติ์ ถอดบัตรประจำตัว ส.ส. ออก กล่าวด้วยอารมณ์ว่า ถ้าหากไม่สามารถคุ้มครองแม่ของแตงโมได้ก็ไม่มีหน้าจะเป็น ส.ส คนอย่างตนหากคิดสู้ก็ไม่กลัวอะไรอยู่แล้ว ไม่กลัวการถูกตรวจสอบคุณสมบัติ ไม่กลัวติดคุก ถ้าหากมันช่วยให้กระบวนการยุติธรรมดีขึ้นก็พร้อมจะแลก ถ้าหากตนผิดจริงก็ไม่ต้องมาตัดสิน เพราะจะลาออกด้วยตัวเอง ซึ่งระหว่างที่กล่าว นายมงคลกิตติ์ก็มีน้ำเสียงสั่นเครือ คล้ายจะร้องไห้ตลอด
ตนยืนยันว่า ที่คุยกับนายเดชา ไม่ได้เป็นการข่มขู่ แค่ตักเตือนกัน และขอให้ไปถามอีกฝ่ายด้วยว่า ข่มขู่อะไรตนไว้บ้าง ส่วนทนายความ 4 คน ก็ขอให้ดูด้วยว่าตนกำลังทำอะไร และท่านทำอะไรอยู่ ตนพยายามช่วยเหลือคุณแม่ทุกทางเท่าที่ทำได้ แต่ 4 คนพยายามระงับกระบวนการยุติธรรม
เรื่องการร้องเรียน ตนไม่เสียใจ แต่เสียใจตรงที่มันทำให้เสียเวลาการต่อสู้คดี ขอร้องอย่าวางตะปูเรือใบ หากทำงานนี้เสร็จจะขอลาออกเอง จากนั้นก็ฝากคำกลอนของศรีปราชญ์ถึงทนายทั้ง 4 คนว่า
"ธรณีนี่นี้เป็นพยาน เราก็ศิษย์มีอาจารย์หนึ่งบ้าง เราผิด 4-5 คนมาประหารเราชอบ เราบ่ผิดท่านมาล้างดาบนั้นคืนสนอง"
ส่วนประเด็นที่ทนายตุ๋ย ทนายความของแซน วิศาพัช ที่นำคลิปเสียงบังแจ็คโทรศัพท์มาหา เปิดในรายการโหนกระแส มีการพาดพิงนายอัจฉริยะและตน ตอนนี้ตนให้นายบุญถาวร ปัญญาสิทธิ์ ดำเนินคดีกับทนายตุ๋ยด้วย เพราะเป็นการหมิ่นประมาทชัดเจน แม้อีกฝ่ายจะอ้างว่าทำเพื่อช่วยตนกับนายอัจฉริยะก็ตาม
ส่วนตัวตนยังไม่ได้คุยเรื่องนี้กับบังแจ็ค มั่นใจว่าอีกฝ่ายต้องการช่วยเหลือคดีแตงโมโดยไม่มีเรื่องเงินหรือผลประโยชน์แอบแฝง ส่วนในคลิปเสียง บังแจ็คอาจเป็นไส้ศึกที่ตนส่งไปสืบข่าวฝั่งนั้นก็ได้
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่อง 3, ข่าวช่องวัน