ยาย-หลาน ถูกฆ่ารัดคอเสียชีวิตในบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ จ.มหาสารคาม ล่าสุดรู้ตัวคนร้ายแล้วเป็นลูกเขยผู้ตาย สารภาพแค้นโดนด่าทุกวันว่าเล่นการพนัน-ไม่ทำงาน
วันที่ 3 มิถุนายน 2565 เรื่องเล่าเช้านี้ ช่อง 3 ได้รายงานกรณีเหตุฆาตกรรมฆ่ารัดคอ 2 ยายหลานในพื้นที่ จ.มหาสารคาม โดยหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นาข่า ได้รับแจ้งเหตุดังกล่าวก็ได้เดินทางไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ
เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบว่าบ้านกำลังอยู่ในระหว่างต่อเติม บริเวณชั้น 2 ของตัวบ้านพบผู้เสียชีวิต 2 รายคือ นางทองคูณ อายุ 76 ปี มีบาดแผลถูกตีด้วยของแข็งที่ใบหน้าด้านขวา ถัดไปประมาณ 2 เมตร พบศพ น.ส.ทรรศนีย์ หรือน้องหยก อายุ 19 ปี มีรอยช้ำตามใบหน้า ที่คอมีร่องรอยเหมือนถูกรัด ซึ่งทั้ง 2 ศพมีผ้าห่มคลุมร่าง
ด้านนางตุลา ญาติที่บ้านใกล้กัน เล่าว่า เมื่อช่วงเช้าแม่ของน้องหยกได้โทร. มาหา ให้ตนปลุกหลานไปโรงเรียน ตนจึงเดินไปเรียกแต่ไม่มีใครตอบรับ จึงคิดแล้วว่าต้องมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้่นก่อนจะเรียกเพื่อนบ้านมาดูพร้อมด้วยแม่ของน้องหยก เมื่อเดินขึ้นไปดูบนบ้านเห็นมีผ้าห่มคลุมไว้ แม่น้องหยกจึงไปเปิดผ้าห่มดูก็พบว่าเสียชีวิต หลังจากนั้นก็พากันลงมาจากบ้าน ตั้งสติ โทร. เรียกผู้ใหญ่บ้าน, ญาติพี่น้อง และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนเวลาเกิดเหตุนั้นตนไม่แน่ใจว่าเกิดขึ้นตอนไหน แต่ช่วงประมาณ 03.00-04.00 น. ได้ยินเหมือนเสียงหมาเห่า ตนก็เปิดหน้าต่างออกมาดุหมาก่อนที่เสียงจะเงียบไป
ขณะที่ นายประมวล พ่อของน้องหยก เล่าว่า เมื่อวานตนและช่างก่อสร้างที่เป็นญาติพี่น้องกัน และคนในหมู่บ้าน ได้มาก่อสร้างบ้านก่อนจะแยกย้ายกันกลับบ้านตอน 18.00 น. กระทั่งเวลา 22.00 น. น้องหยกกลับมาเรียนและทำงานใน อ.วาปีปทุม ได้แวะมาที่บ้านก่อนออกจากบ้านมานอนกับยายที่บ้านหลังเกิดเหตุตามปกติ กระทั่งทราบว่าลูกสาวและแม่ยายเสียชีวิตดังกล่าว
นายประมวล ระบุว่าตนรับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้ ไม่คิดว่าจะเกิดกับครอบครัวของตน ลูกสาวเป็นคนขยันกำลังจะมีอนาคตไกล อยากให้ตำรวจจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่า อยู่ระหว่างการสอบสวนที่เกิดเหตุ เบื้องต้นได้เก็บหลักฐานในพื้นที่เกิดเหตุไปตรวจพิสูจน์ ยังไม่ได้ตัดประเด็นไหนทิ้ง ได้นำตัวผู้ต้องสงสัยไปสอบปากคำ 2 คน รวมถึงสอบพยานแวดล้อม ส่วนศพของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ได้นำส่งไปชันสูตรที่โรงพยาบาลก่อนจะนำกลับมาบำเพ็ญกุศลต่อไป
ล่าสุด นายเตี้ย 1 ใน 2 ผู้ต้องสงสัยให้การรับสารภาพ โดยนายเตี้ยเป็นลูกเขยของนางทองคูณ
โดยรับสารภาพว่าที่ลงมือเพราะมีความโกรธแค้นส่วนตัวที่แม่ยายด่าว่ามาตลอด 30 ปี ที่อยู่กินกับภรรยาที่เสียชีวิตไป หาว่าตนไม่ทำงาน เล่นการพนันไก่ชน กลายเป็นความแค้นสะสมจนลงมือก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งวันเกิดเหตุตนเข้าไปหลังบ้านตอนช่วง 03.00 น. และใช้ไม้คมแฝกตีที่ศรีษะของแม่ยายไปหลายครั้ง ก่อนที่น้องหยกจะตื่นขึ้นมา ตนจึงใช้ไม้ตีเข้าที่คางของน้อง เมื่อทั้งสองแน่นิ่งไปตนก็ใช้เชือกที่เตรียมไว้ รัดคอทั้งคู่จนเสียชีวิต ก่อนหยิบเอาโทรศัพท์มือถือของผู้ตายไปทิ้งลงที่หนองน้ำสาธารณะหลังบ้าน ส่วนเชือกและไม้คมแฝกเอาไปทิ้งที่ในป่าดอนปู่ตาประจำหมู่บ้าน
ด้านนายประมวล พ่อของน้องหยก กล่าวว่า ตนคิดไว้แล้วว่าคนร้ายต้องเป็นนายเตี้ยพี่เขย ส่วนตัวไม่ค่อยสุงสิงกัน ต่างคนต่างใช้ชีวิต แต่ส่วนตัวไม่ค่อยชอบหน้าเพราะเขาไม่ค่อยทำงาน ส่วนตัวเชื่อว่านายเตี้ยไม่ได้ส่วนแบ่งจากเงินฌาปนกิจศพของภรรยาที่เสียชีวิต จึงอาจเป็นสาเหตุให้ลงมือในครั้งนี้ อีกทั้งเมื่อ 3 วันก่อนเกิดเหตุ หมาที่เลี้ยงไว้ที่บ้านถูกยาเบื่อตาย คาดว่านายเตี้ยจะเป็นคนทำ ตอนนี้ไม่อยากบอกอะไรกับนายเตี้ย คนแบบนี้ เงินแค่ 2 แสนทำไมต้องทำกับลูกตนแบบนี้ มันแลกกับชีวิตลูกไม่ได้
ส่วนลูกสาวตนที่เสียชีวิตนั้นถือว่าโชคร้าย ไม่คิดเลยว่าลูกสาวตนจะถูกฆ่าอย่างทารุณแบบนี้ ทุกครั้งที่ตนหลับตาก็จะนึกถึงหน้าลูก ซึ่งลูกสาวตนเป็นคนดีเป็นคนขยัน และกำลังจะมีอนาคตไกล เป็นคนสวย เป็นดรัมเมเยอร์ของโรงเรียน ตนไม่ขออภัยในสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ต้องมาขอขมา และอยากให้นายเตี้ยรับผลกรรมอย่างถึงที่สุด
ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเช้านี้ ช่อง 3, ช่อง 3
วันที่ 3 มิถุนายน 2565 เรื่องเล่าเช้านี้ ช่อง 3 ได้รายงานกรณีเหตุฆาตกรรมฆ่ารัดคอ 2 ยายหลานในพื้นที่ จ.มหาสารคาม โดยหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นาข่า ได้รับแจ้งเหตุดังกล่าวก็ได้เดินทางไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ
เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบว่าบ้านกำลังอยู่ในระหว่างต่อเติม บริเวณชั้น 2 ของตัวบ้านพบผู้เสียชีวิต 2 รายคือ นางทองคูณ อายุ 76 ปี มีบาดแผลถูกตีด้วยของแข็งที่ใบหน้าด้านขวา ถัดไปประมาณ 2 เมตร พบศพ น.ส.ทรรศนีย์ หรือน้องหยก อายุ 19 ปี มีรอยช้ำตามใบหน้า ที่คอมีร่องรอยเหมือนถูกรัด ซึ่งทั้ง 2 ศพมีผ้าห่มคลุมร่าง
ด้านนางตุลา ญาติที่บ้านใกล้กัน เล่าว่า เมื่อช่วงเช้าแม่ของน้องหยกได้โทร. มาหา ให้ตนปลุกหลานไปโรงเรียน ตนจึงเดินไปเรียกแต่ไม่มีใครตอบรับ จึงคิดแล้วว่าต้องมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้่นก่อนจะเรียกเพื่อนบ้านมาดูพร้อมด้วยแม่ของน้องหยก เมื่อเดินขึ้นไปดูบนบ้านเห็นมีผ้าห่มคลุมไว้ แม่น้องหยกจึงไปเปิดผ้าห่มดูก็พบว่าเสียชีวิต หลังจากนั้นก็พากันลงมาจากบ้าน ตั้งสติ โทร. เรียกผู้ใหญ่บ้าน, ญาติพี่น้อง และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนเวลาเกิดเหตุนั้นตนไม่แน่ใจว่าเกิดขึ้นตอนไหน แต่ช่วงประมาณ 03.00-04.00 น. ได้ยินเหมือนเสียงหมาเห่า ตนก็เปิดหน้าต่างออกมาดุหมาก่อนที่เสียงจะเงียบไป
ขณะที่ นายประมวล พ่อของน้องหยก เล่าว่า เมื่อวานตนและช่างก่อสร้างที่เป็นญาติพี่น้องกัน และคนในหมู่บ้าน ได้มาก่อสร้างบ้านก่อนจะแยกย้ายกันกลับบ้านตอน 18.00 น. กระทั่งเวลา 22.00 น. น้องหยกกลับมาเรียนและทำงานใน อ.วาปีปทุม ได้แวะมาที่บ้านก่อนออกจากบ้านมานอนกับยายที่บ้านหลังเกิดเหตุตามปกติ กระทั่งทราบว่าลูกสาวและแม่ยายเสียชีวิตดังกล่าว
นายประมวล ระบุว่าตนรับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้ ไม่คิดว่าจะเกิดกับครอบครัวของตน ลูกสาวเป็นคนขยันกำลังจะมีอนาคตไกล อยากให้ตำรวจจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่า อยู่ระหว่างการสอบสวนที่เกิดเหตุ เบื้องต้นได้เก็บหลักฐานในพื้นที่เกิดเหตุไปตรวจพิสูจน์ ยังไม่ได้ตัดประเด็นไหนทิ้ง ได้นำตัวผู้ต้องสงสัยไปสอบปากคำ 2 คน รวมถึงสอบพยานแวดล้อม ส่วนศพของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ได้นำส่งไปชันสูตรที่โรงพยาบาลก่อนจะนำกลับมาบำเพ็ญกุศลต่อไป
ล่าสุด นายเตี้ย 1 ใน 2 ผู้ต้องสงสัยให้การรับสารภาพ โดยนายเตี้ยเป็นลูกเขยของนางทองคูณ
โดยรับสารภาพว่าที่ลงมือเพราะมีความโกรธแค้นส่วนตัวที่แม่ยายด่าว่ามาตลอด 30 ปี ที่อยู่กินกับภรรยาที่เสียชีวิตไป หาว่าตนไม่ทำงาน เล่นการพนันไก่ชน กลายเป็นความแค้นสะสมจนลงมือก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งวันเกิดเหตุตนเข้าไปหลังบ้านตอนช่วง 03.00 น. และใช้ไม้คมแฝกตีที่ศรีษะของแม่ยายไปหลายครั้ง ก่อนที่น้องหยกจะตื่นขึ้นมา ตนจึงใช้ไม้ตีเข้าที่คางของน้อง เมื่อทั้งสองแน่นิ่งไปตนก็ใช้เชือกที่เตรียมไว้ รัดคอทั้งคู่จนเสียชีวิต ก่อนหยิบเอาโทรศัพท์มือถือของผู้ตายไปทิ้งลงที่หนองน้ำสาธารณะหลังบ้าน ส่วนเชือกและไม้คมแฝกเอาไปทิ้งที่ในป่าดอนปู่ตาประจำหมู่บ้าน
ด้านนายประมวล พ่อของน้องหยก กล่าวว่า ตนคิดไว้แล้วว่าคนร้ายต้องเป็นนายเตี้ยพี่เขย ส่วนตัวไม่ค่อยสุงสิงกัน ต่างคนต่างใช้ชีวิต แต่ส่วนตัวไม่ค่อยชอบหน้าเพราะเขาไม่ค่อยทำงาน ส่วนตัวเชื่อว่านายเตี้ยไม่ได้ส่วนแบ่งจากเงินฌาปนกิจศพของภรรยาที่เสียชีวิต จึงอาจเป็นสาเหตุให้ลงมือในครั้งนี้ อีกทั้งเมื่อ 3 วันก่อนเกิดเหตุ หมาที่เลี้ยงไว้ที่บ้านถูกยาเบื่อตาย คาดว่านายเตี้ยจะเป็นคนทำ ตอนนี้ไม่อยากบอกอะไรกับนายเตี้ย คนแบบนี้ เงินแค่ 2 แสนทำไมต้องทำกับลูกตนแบบนี้ มันแลกกับชีวิตลูกไม่ได้
ส่วนลูกสาวตนที่เสียชีวิตนั้นถือว่าโชคร้าย ไม่คิดเลยว่าลูกสาวตนจะถูกฆ่าอย่างทารุณแบบนี้ ทุกครั้งที่ตนหลับตาก็จะนึกถึงหน้าลูก ซึ่งลูกสาวตนเป็นคนดีเป็นคนขยัน และกำลังจะมีอนาคตไกล เป็นคนสวย เป็นดรัมเมเยอร์ของโรงเรียน ตนไม่ขออภัยในสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ต้องมาขอขมา และอยากให้นายเตี้ยรับผลกรรมอย่างถึงที่สุด
ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเช้านี้ ช่อง 3, ช่อง 3
