ส.ส.เต้ เผย อัจฉริยะ เอาเอกสารมอบอำนาจไปชิงฟ้องข้อหาใช้เอกสารเท็จ ด้านคุณแม่ ชี้ ทวงหนังสือมอบอำนาจเก่าไป 3 วันแล้วก็ไม่เอามาคืน แต่กลับฉกฉวยเอาไปฟ้อง นิสัยแบบนี้ใช้ไม่ได้
วันที่ 14 มิถุนายน 2565 แนวหน้า รายงานว่า นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญกรรมเดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีกับนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคไทยศรีวิไลย์ หลังได้รับมอบอำนาจจากนางภนิดา ศิริยุทธโยธิน แม่แตงโม นิดา กรณีมีการใช้เอกสารโดยไม่มีลายเซ็นของคุณแม่เข้าข่ายเอกสารเท็จ
ต่อมานายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือ ส.ส.เต้ ได้ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ก มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ โดยออกมาระบุกรณีที่นายอัจฉริยะ ไปชิงยื่นฟ้องตนก่อน แต่ทางตนและแม่แตงโม ต้องการจะฟ้องแค่มาตรา 290 ก่อน จึงทำหนังสือยกเลิกมอบอำนาจแต่งตั้งนายอัจฉริยะ และทนายวินัย ชุมสวัสดิ์ ในคดีนี้ และมอบหมายให้ทีมทนายชนบทร่างคำฟ้องในฐานะทนายความ เริ่มต้นที่การฟ้องมาตรา 290 ฐานทำร้ายร่างกายก่อน ซึ่งหากนำสืบได้ว่ามีหลักฐานที่บ่งบอกว่าไปในทางฆาตกรรมจึงจะฟ้องในมาตราอื่น ๆ ต่อไป
นายมงคลกิตติ์ ยืนยันว่าแม่แตงโม ไม่ได้ต้องการฟ้อง 288 และ 289 ก่อนจะหมุนกล้องไปให้เห็นคุณแม่แตงโม ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ โดยยืนยันว่ายกเลิกหนังสือมอบอำนาจเก่า ซึ่งจริง ๆ ควรจะนำมาคืนคุณแม่ คุณแม่ทวงไป 3 วันแล้ว กลับไปฉกฉวยเอาไปฟ้อง ใช้ไม่ได้นิสัยแบบนี้ ไม่น่าทำแบบนี้เลย
นายมงคลกิตติ์ บอกอีกว่า ความจริงก็รู้จักกันหมด นายอัจฉริยะ ก็ช่วยในการหาหลักฐานมาตลอด วอนอย่าเข้าใจกันผิด ฝากบอกนายอัจฉริยะว่าการดำเนินคดีตนนั้นทำไม่ได้ เพราะเป็นหนังสือในการยกเลิกตัวจริง คุณแม่ต้องไปชี้แจงที่ศาลอยู่แล้วโดยจะไปยืนยันที่ศาลวันที่ 16 มิถุนายน 2565 และจะฟ้องมาตรา 290 ตามกำหนดเดิม เริ่มต้นที่ทำร้ายร่างกายก่อน
"พี่อัจครับ อย่าขี้น้อยใจนะครับ เรายังเป็นพี่เป็นน้องกันเหมือนเดิม คุณแม่เขาเริ่มต้นที่ 290 ก่อนนะครับ แล้วก็ 288, 289 รอ ใจเย็น ๆ นิดหนึ่ง รอให้เราได้สำนวนสืบสวนสอบสวนของพนักงานอัยการแล้วก็ทางตำรวจภูธรภาค 1 ทั้งหมด และหากหลักฐานโอเค เราก็แก้ไขคำฟ้องได้ในภายหลัง ถ้ายังไงพี่อัจก็ใจเย็น ๆ นะครับ กินน้ำเยอะ ๆ อย่าใจร้อน แหม เพื่อนกัน
ก็ได้รับการยืนยันจากคุณแม่แล้วนะครับ ว่าคุณแม่ได้แจ้งไปแล้วประมาณสัก 2-3 วันที่แล้ว วันนี้ก็ทำหนังสืออย่างเป็นทางการส่งไปที่ศาล จ.นนทบุรี แล้วก็จะไปยืนยันที่ศาลด้วยตนเองว่าคุณแม่ยังไม่มีเจตนาที่จะยื่นฟ้องต่อศาลในมาตรา 288, 289"
มาตรา 289 ผู้ใด
(1) ฆ่าบุพการี
(2) ฆ่าเจ้าพนักงาน ซึ่งกระทำการตามหน้าที่ หรือเพราะเหตุที่จะกระทำ หรือได้กระทำการตามหน้าที่
(3) ฆ่าผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงาน ในการที่เจ้าพนักงานนั้นกระทำตามหน้าที่ หรือเพราะเหตุที่บุคคลนั้นจะช่วยหรือได้ช่วยเจ้าพนักงานดังกล่าวแล้ว
(4) ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
(5) ฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย
(6) ฆ่าผู้อื่นเพื่อตระเตรียมการ หรือเพื่อความสะดวกในการที่จะกระทำความผิดอย่างอื่น หรือ
(7) ฆ่าผู้อื่นเพื่อจะเอา หรือเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดแต่การที่ตนได้กระทำความผิดอื่น เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้ ต้องระวางโทษประหารชีวิต
มาตรา 290 ผู้ใดมิได้มีเจตนาฆ่า แต่ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปีถึง 15 ปี ถ้าความผิดนั้นมีลักษณะประการหนึ่งประการใด ดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 289 ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปีถึง 20 ปี
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์, แนวหน้า
วันที่ 14 มิถุนายน 2565 แนวหน้า รายงานว่า นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญกรรมเดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีกับนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคไทยศรีวิไลย์ หลังได้รับมอบอำนาจจากนางภนิดา ศิริยุทธโยธิน แม่แตงโม นิดา กรณีมีการใช้เอกสารโดยไม่มีลายเซ็นของคุณแม่เข้าข่ายเอกสารเท็จ
ต่อมานายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือ ส.ส.เต้ ได้ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ก มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ โดยออกมาระบุกรณีที่นายอัจฉริยะ ไปชิงยื่นฟ้องตนก่อน แต่ทางตนและแม่แตงโม ต้องการจะฟ้องแค่มาตรา 290 ก่อน จึงทำหนังสือยกเลิกมอบอำนาจแต่งตั้งนายอัจฉริยะ และทนายวินัย ชุมสวัสดิ์ ในคดีนี้ และมอบหมายให้ทีมทนายชนบทร่างคำฟ้องในฐานะทนายความ เริ่มต้นที่การฟ้องมาตรา 290 ฐานทำร้ายร่างกายก่อน ซึ่งหากนำสืบได้ว่ามีหลักฐานที่บ่งบอกว่าไปในทางฆาตกรรมจึงจะฟ้องในมาตราอื่น ๆ ต่อไป
นายมงคลกิตติ์ ยืนยันว่าแม่แตงโม ไม่ได้ต้องการฟ้อง 288 และ 289 ก่อนจะหมุนกล้องไปให้เห็นคุณแม่แตงโม ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ โดยยืนยันว่ายกเลิกหนังสือมอบอำนาจเก่า ซึ่งจริง ๆ ควรจะนำมาคืนคุณแม่ คุณแม่ทวงไป 3 วันแล้ว กลับไปฉกฉวยเอาไปฟ้อง ใช้ไม่ได้นิสัยแบบนี้ ไม่น่าทำแบบนี้เลย
นายมงคลกิตติ์ บอกอีกว่า ความจริงก็รู้จักกันหมด นายอัจฉริยะ ก็ช่วยในการหาหลักฐานมาตลอด วอนอย่าเข้าใจกันผิด ฝากบอกนายอัจฉริยะว่าการดำเนินคดีตนนั้นทำไม่ได้ เพราะเป็นหนังสือในการยกเลิกตัวจริง คุณแม่ต้องไปชี้แจงที่ศาลอยู่แล้วโดยจะไปยืนยันที่ศาลวันที่ 16 มิถุนายน 2565 และจะฟ้องมาตรา 290 ตามกำหนดเดิม เริ่มต้นที่ทำร้ายร่างกายก่อน
"พี่อัจครับ อย่าขี้น้อยใจนะครับ เรายังเป็นพี่เป็นน้องกันเหมือนเดิม คุณแม่เขาเริ่มต้นที่ 290 ก่อนนะครับ แล้วก็ 288, 289 รอ ใจเย็น ๆ นิดหนึ่ง รอให้เราได้สำนวนสืบสวนสอบสวนของพนักงานอัยการแล้วก็ทางตำรวจภูธรภาค 1 ทั้งหมด และหากหลักฐานโอเค เราก็แก้ไขคำฟ้องได้ในภายหลัง ถ้ายังไงพี่อัจก็ใจเย็น ๆ นะครับ กินน้ำเยอะ ๆ อย่าใจร้อน แหม เพื่อนกัน
ก็ได้รับการยืนยันจากคุณแม่แล้วนะครับ ว่าคุณแม่ได้แจ้งไปแล้วประมาณสัก 2-3 วันที่แล้ว วันนี้ก็ทำหนังสืออย่างเป็นทางการส่งไปที่ศาล จ.นนทบุรี แล้วก็จะไปยืนยันที่ศาลด้วยตนเองว่าคุณแม่ยังไม่มีเจตนาที่จะยื่นฟ้องต่อศาลในมาตรา 288, 289"
หมายเหตุ
มาตรา 288 ผู้ใดฆ่าผู้อื่น ต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่ 15 ปีถึง 20 ปีมาตรา 289 ผู้ใด
(1) ฆ่าบุพการี
(2) ฆ่าเจ้าพนักงาน ซึ่งกระทำการตามหน้าที่ หรือเพราะเหตุที่จะกระทำ หรือได้กระทำการตามหน้าที่
(3) ฆ่าผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงาน ในการที่เจ้าพนักงานนั้นกระทำตามหน้าที่ หรือเพราะเหตุที่บุคคลนั้นจะช่วยหรือได้ช่วยเจ้าพนักงานดังกล่าวแล้ว
(4) ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
(5) ฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย
(6) ฆ่าผู้อื่นเพื่อตระเตรียมการ หรือเพื่อความสะดวกในการที่จะกระทำความผิดอย่างอื่น หรือ
(7) ฆ่าผู้อื่นเพื่อจะเอา หรือเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดแต่การที่ตนได้กระทำความผิดอื่น เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้ ต้องระวางโทษประหารชีวิต
มาตรา 290 ผู้ใดมิได้มีเจตนาฆ่า แต่ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปีถึง 15 ปี ถ้าความผิดนั้นมีลักษณะประการหนึ่งประการใด ดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 289 ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปีถึง 20 ปี
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์, แนวหน้า
