เพื่อนร่วมงานเอาลูกมาเลี้ยงที่ทำงาน ตั้งแต่ 2 ขวบ ยันเข้าโรงเรียน แถมพ่อเด็กไม่ดูแล ปล่อยให้คนในออฟฟิศเลี้ยง แทบไม่ได้ทำงาน เด็กวุ่นวาย ก้าวร้าว ไม่พอใจก็จิกตาใส่ ตะโกนใส่หน้าพี่ ๆ ทำข้าวของลูกค้าเสียหาย ไม่ไหวแล้ว !!
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
วันที่ 15 มิถุนายน 2565 ชาวเน็ตพากันแสดงความคิดเห็นกระทู้เว็บไซต์พันทิปกระทู้หนึ่ง หัวข้อว่า "เมื่อคนในที่ทำงานเอาลูกมาไว้ในบริษัท ความวุ่นวายและน่ารำคาญจึงเกิดขึ้น" โดยหนุ่มพนักงานรายหนึ่ง ระบายความรู้สึกที่ต้องอดทนกับลูกชายของเพื่อนร่วมงาน ที่พ่อของเด็กเอาลูกมาไว้ที่ออฟฟิศ ส่วนตัวเองก็มักจะต้องออกไปส่งเอกสารข้างนอก คนอื่นไม่ได้มีเวลาเลี้ยงให้ขนาดนั้น แถมเด็กยังพัฒนาการช้า พูดไม่รู้เรื่อง ก้าวร้าวมากด้วย แถมหัวหน้าก็เป็นญาติ ๆ กัน รายงานไปก็คงไม่เป็นผล ควรแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างไรดี
สุดจะกลั้น พาเด็กมาที่ทำงาน สร้างความเสียหายไม่หยุด ติดมือถือ ลูกค้าโทร. มาก็ไม่คืนมือถือ
โดยเจ้าของกระทู้เล่าเรื่องใจความว่า ส่วนตัวนิสัยเจ้าของกระทู้ไม่ค่อยเอ็นดูเด็กเท่าไร จะเป็นเฉพาะเด็กบางคนที่น่ารัก อยากเข้าหา หรืออีกความหมายหนึ่งคือไม่ชอบเด็กบางคน
พนักงานคนหนึ่งเอาลูกชายประมาณ 3-4 ขวบ มาไว้ที่ทำงาน ที่บ้านก็มีคนเลี้ยงให้ แต่ไม่ยอมฝากเลี้ยง ซึ่งคาดว่าน่าจะไม่อยากเสียเงินฝากเลี้ยง เข้าใจความเป็นเด็กว่าต้องมีซนเป็นธรรมดา แต่เด็กคนนี้พูดไม่ค่อยชัด แต่เด็กรู้เรื่องทุกอย่าง
นิสัยของเด็กติดโทรศัพท์มาก คนที่ทำงานจับโทรศัพท์หรือคุยโทรศัพท์ เด็กจะเดินเข้าไปหาทุกคน ไปยืนพูดอยู่ข้าง ๆ ทำนองขอโวยวาย ขอเสียงดังใส่ แถมยังผลักเก้าอี้ด้วย แล้วก็พูดใส่คนทำงาน ส่วนตัวผู้ปกครองของเด็กออกไปส่งงานข้างนอก ปล่อยให้ลูกอยู่ในบริษัท พนักงานบางคนมาคุยเล่นด้วย บางคนเอาสมุดระบายสีมาให้ แต่เด็กไม่ยอมเล่น ร้องจะเอาโทรศัพท์อย่างเดียว
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
ตนสงสารเลยเอาโทรศัพท์ของบริษัทให้ดูการ์ตูน เด็กก็เงียบไป สักพักมีลูกค้าโทร. เข้ามา พี่โต๊ะข้าง ๆ บอกว่า "หนู ขอโทรศัพท์คืนหน่อยเร็ว" เด็กยังนิ่งไม่ยอมคืน นอนดูต่อไป โทรศัพท์ลูกค้ายังดังต่อ พูดดีครั้งที่ 2 ก็ไม่ยอมคืน เด็กเงยขึ้นมามองหน้า ทำตาจิกแรง ๆ ทำตาขวางใส่ แบะปากจะแหกปากร้อง ตนทำอะไรไม่ถูก แต่ต้องรีบหยิบโทรศัพท์จากมือแล้วยื่นให้พี่โต๊ะข้าง ๆ เพื่อรับสายลูกค้า
จากนั้นเด็กไม่มีอะไรดู ตนสละโทรศัพท์ของตนเอาให้เด็กดูการ์ตูน ผ่านไปไม่นานมีสายเข้าจากโทรศัพท์ของผม ตนหันไปมองดูว่าเด็กคนนี้จะทำยังไง เด็กยังนอนนิ่งไม่ไหวติง ตนเลยพูดว่า "ขอคืนนะ" พูดดี ๆ ขอดี ๆ ไม่ยอม ตนลุกจะไปดึงออกจากมือเลย ปรากฏว่าเด็กโยนโทรศัพท์ให้ตน แล้วทำกิริยาแบบว่า มองแล้วจิกตาใส่ ไม่พอใจแล้วตะโกนใส่ ซึ่งฟังไม่รู้เรื่อง น้องน่าจะพัฒนาการช้า
"ผมนี่สตั๊นกับพฤติกรรมของเด็กคนนี้เลย คือทางบ้านเขาสอนมายังไงอะ ซึ่งคนในบริษัทก็มีคนพูดเตือนกับผู้ปกครองของเด็กคนนี้นะ แต่เหมือนเขามองว่า ก็แล้วทำไมอะ เด็กก็คือเด็กอะ ซนตามเรื่องตามราวปกติไหม แล้วไม่เอาโทรศัพท์ให้มันดูการ์ตูนล่ะ เจอประโยคนี้ตอกหน้ากลับมานี่อึ้งเลย พอได้คำตอบแล้วว่าพฤติกรรมและนิสัยของเด็กทำไมถึงก้าวร้าวอย่างนี้"
ชีวิตพีคต่อไป เด็กขึ้นไปเหยียบโต๊ะทำงาน ใช้ไม้บรรทัดตีเบา ๆ แหกปากร้องจนดีลงานลูกค้าไม่ได้
นอกจากนี้ เด็กชอบออกไปวิ่งเล่นลานจอดรถ ให้นอนเล่นอยู่ข้างในแอร์เย็น ๆ ไม่ยอมอยู่ เรียกเข้ามาก็เถียงใส่ ไปปีนของที่จะส่งให้ลูกค้า เอาน้ำเอาข้าวไปเทใส่ของลูกค้า เละเทะหมดเลย พี่ ๆ ในบริษัทเอือมระอานะ
มีอยู่วันหนึ่งพี่โต๊ะข้าง ๆ เขาลางาน เด็กปีนโต๊ะพี่เขาเล่น บอกแล้วก็ไม่ฟัง เอาเท้าไปเหยียบคีย์บอร์ดเล่น เถียงฉอด ๆ เถียงแบบไม่มีใครฟังรู้เรื่อง จนพี่ผู้หญิงคนหนึ่งเขาทนไม่ไหว ลุกมาอุ้มลงจากโต๊ะเพราะโต๊ะเริ่มเละเทะแล้ว จากนั้นเอาไม้บรรทัดเล็ก ๆ ตีไป แต่ไม่แรงมาก เท่านั้นแหละ เด็กแหกปากไม่หยุดเลย ยิ่งบอกให้เงียบยิ่งร้อง แถมแกล้งร้องไม่หยุดด้วย จับตัวไม่ได้เลย เอามือผลักออก เอาเท้าถีบพี่คนนั้น กรี๊ดใส่หน้าด้วย
ถ้าจะให้แจ้งหัวหน้าก็คงเฉย ๆ เพราะเขาเป็นญาติกัน แต่พี่ ๆ ในแผนกไม่ค่อยโอเค นอกจากงานเยอะแล้ว ไม่มีใครมาว่างมาดูแลให้ แถมเด็กนิสัยแบบนี้ยิ่งไม่มีใครอยากเข้าใกล้
ทั้งนี้ พอทราบมาว่าเด็กถูกแม่ทิ้งไปมีผัวใหม่ตอน 2 ขวบ เด็กอยู่กับพ่อ และทางบ้านพ่อก็รักเด็กคนนี้ แต่น่าจะเลี้ยงแบบผิด ๆ และเอามาที่ทำงานทุกวัน ตั้งแต่ยังไม่เข้าเรียนยันเข้าโรงเรียนแล้ว เป็นอย่างนี้ทุกวันไม่ไหว วุ่นวาย จะคุยงานกับลูกค้าก็เสียงดัง กรี๊ดบ้างตะโกนบ้างอยู่คนเดียว จนโดนลูกค้าบอกให้เด็กเงียบได้ไหมคะ ดีลงานกันไม่รู้เรื่องเลย ซึ่งเป็นลูกค้ารายใหญ่ของทางเราด้วย ทุกคนคิดเห็นอย่างไรบ้าง
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
หลายฝ่ายชี้ งานนี้อาจต้องกดดัน HR - หาทางถ่ายคลิปตอนเด็กร้อง ลูกคุณไม่ได้น่ารักสำหรับทุกคน
อย่างไรก็ตาม ชาวเน็ตแนะนำให้แจ้งหัวหน้างาน อย่างไรก็ต้องแจ้ง แม้ว่าจะเป็นญาติก็ตาม ให้ทุกคนที่ได้รับความเดือดร้อนรวมตัวกันไปแจ้ง กดดันหัวหน้างาน แต่ถ้าไม่สำเร็จก็ต้องแจ้งไปยัง HR ฝ่ายทรัพยากรบุคคล ให้มีการส่งหนังสือแจ้งเตือน
อีกทางคือ ไปพูดคุยหาแนวทางแก้ไขกับพ่อของเด็ก ถ่ายคลิปความก้าวร้าวของเด็กให้พ่อดู เพราะบางทีเด็กกล้าทำกับคนอื่น แต่ไม่กล้าทำกับที่บ้าน นอกจากนี้ หลายคนตำหนิพ่อของเด็กที่เห็นแก่ตัวไปหน่อยที่เอาลูกมาเลี้ยง แถมปล่อยให้คนอื่นเลี้ยง ลูกน่ารักกับเรา แต่ไม่ได้น่ารักสำหรับทุกคน
