สาวทายาทเศรษฐี โวยถูกกีดกันจากมรดกเกือบ 300 ล้าน เพราะติดเงื่อนไขเดียว คือต้องมีงานทำ หรือเป็นอาสาสมัครเพื่อสังคม ลั่นมันเป็นไปไม่ได้ เหตุมีภาวะสมาธิสั้น
วันที่ 22 มิถุนายน 2565 เว็บไซต์ Ladbible รายงานว่า แคลร์ บราวน์ หญิงชาวออสเตรเลีย กลายมาเป็นทายาทเศรษฐีที่จะได้รับมรดกมูลค่า 12 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือราว 292 ล้านบาท จากพ่อผู้ล่วงลับ อย่างไรก็ตาม เธออ้างว่าตัวเองกำลังถูกปิดกั้นจากเงินมรดกมหาศาล เพราะเงื่อนไขเดียวที่พ่อตั้งไว้ คือเธอจะได้รับผลประโยชน์นี้ไปก็ต่อเมื่อตัวเองมีงานทำ หรือไปทำงานอาสาสมัครเพื่อช่วยเหลือสังคม
แม้จะเป็นเงื่อนไขง่าย ๆ ที่หลายคนคิดว่าไม่มีปัญหา แต่ แคลร์ บราวน์ บอกเลยว่าคำขอสุดท้ายของพ่อ คือสิ่งที่ดูไม่สมกับความเป็นจริงสำหรับเธอ โดยเธอชี้ว่าตัวเองมีภาวะสมาธิสั้นแบบ High-functioning ADHD ทำให้เธอไม่สามารถทำงานได้
และในตอนนี้เธอก็เตรียมจะยื่นฟ้องเพื่อโต้แย้งคำขอจากพ่อในชั้นศาล หลังจากที่กองทรัสต์ที่พ่อตั้งไว้ปิดกั้นไม่ให้เธอเข้าถึงเงินในฐานะผู้รับผลประโยชน์ เพราะเธอไม่อาจทำตามเงื่อนไขดังกล่าว
ระหว่างการปรากฏตัวในรายการ A Current Affair แคลร์ได้ร้องขอครอบครัวว่า "โปรดให้สิ่งที่ชอบธรรมสำหรับฉัน ฉันกำลังทุกข์ทรมาน" รวมถึงขอให้ครอบครัวหยุดบอกให้เธอหางานทำได้แล้ว เพราะมันจะไม่มีวันเกิดขึ้น
ทั้งนี้ แคลร์เป็นทายาทเศรษฐี ซึ่งพ่อของเธอสร้างความมั่งคั่งมหาศาลจากการทำงานเป็นนายหน้าซื้อของหลักทรัพย์ที่ประสบความสำเร็จ ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา เขาได้มอบเงินช่วยเหลือแก่ลูกสาวสัปดาห์ละ 500 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือราว 12,000 บาท ในขณะที่เธอยังได้รับสวัสดิการต่าง ๆ จากรัฐบาลร่วมด้วย แต่ในตอนนี้เธอกลับมองว่าพ่อกำลังนำเรื่องเงินมากลั่นแกล้งเธอ
พ่อของแคลร์เสียชีวิตไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา แต่จนขณะนี้เธอก็ยังถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าถึงเงินมรดก เพราะเธอยังมีสถานะเป็นคนว่างงาน โดยตอนนี้เธอใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับหญิงคนรัก พร้อมกับลูกวัย 1 ขวบ และอาศัยเงินสวัสดิการจากรัฐในการดำรงชีพ
ก่อนหน้านี้แคลร์ก็เคยลองทำงานมาบ้าง คือไปทำงานพาร์ตไทม์กับองค์กร Autism Australia โดยทำงานเป็นบาริสต้าในช่วงเวลาสั้น ๆ ไม่ถึง 1 ชั่วโมงเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ครอบครัวของแคลร์กลับมองว่าเธอกำลังกล่าวโทษสภาวะที่เป็นอยู่ และ จิมมี่ ญาติของแคลร์ก็ต่อว่าความพยายามในการทักท้วงต่อศาลของเธอ ว่าเป็นเรื่องน่าอับอาย เขาชี้ว่าในขณะที่ครอบครัวอยากให้เธอมีงานทำและช่วยเหลือสังคม แทนที่เธอจะทำตามความปรารถนาของพ่อ เธอกลับหันหลังให้ และยื่นฟ้องซะอย่างนั้น
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก Ladbible