นายก แจงทริปดูงานภูเก็ต ค่ารถบัส 5 แสน ไม่ได้หนีงาน มั่นใจดูงานกลางทะเล อาจสร้างผลงานเด็ด

 
          นายกมนตรีเมืองท่าโขลง แจงทริปศึกษาดูงาน 3 วัน 4 คืน พังงา-ภูเก็ต หลังเพจดังแฉ หนีงานไปเที่ยวทะเล จ้างรถบัส 7 คัน เกือบ 5 แสนบาท ยืนยันดูงานจริง ชี้แคปชั่นเด็ดเป็นเรื่องส่วนบุคคลที่โพสต์ลงเฟซบุ๊ก มั่นใจหลังดูงานอาจสร้างผลงานเด่นถึง OTOP


          ทริปเริ่มต้นเช้าวันที่ 23 มิถุนายน 2565 ทำพิธีเปิดโครงการที่ศูนย์การเรียนรู้และสวนสาธารณะ เทศบาลเมืองท่าโขลง ตกเย็นขึ้นรถออกเดินทาง

          วันที่ 25 มิถุนายน 09.00 น. ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่ จ.ภูเก็ต กิจกรรมจัดเต็มทั้งวัน ตั้งแต่เดินถ่ายรูปย่านเมืองเก่าชิโนโปรตุกีส ไหว้พระขอพรวัดฉลอง ชมพระอาทิตย์ตกที่แหลมพรหมเทพ ค่ำ ๆ ร้องรำทำเพลง และคืนนี้เข้าพักโรงแรม 5 ดาวใจกลางเมืองภูเก็ต

          วันที่ 26 มิถุนายน ช่วง 12.00 น. ถ่ายรูปรวม จากนั้นขึ้นรถเดินทางกลับ เจอกันใหม่เมื่อมีโอกาส ค่ำ ๆ แวะกินข้าวที่ไชยา เดินทางต่อจนเช้าวันรุ่งขึ้น 27 มิถุนายน ถึงปลายทางอย่างสวัสดิภาพ #ดูงาน #แอบแฝงท่องเที่ยว


          ล่าสุด วันที่ 28 มิถุนายน 2565 ข่าวช่อง 3 สัมภาษณ์ นายสุเทพ วงษ์แจ้ง นายกเทศมนตรีเมืองท่าโขลง เปิดเผยว่า เทศบาลเมืองท่าโขลง ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี โดยกองสวัสดิการ จัดโครงการพัฒนาศักยภาพของสตรีเทศบาล โดยมีการสัมมนาก่อนไป 1 วัน คือ วันที่ 23 มิถุนายน มีการอบรมผู้นำในยุคดิจิทัล  เสร็จแล้วเดินทางไปศึกษาดูงานที่ จ.พังงา และ จ.ภูเก็ต

          โดยการลงเรือไปนั้น เป็นการไปศึกษาดูงานที่บ้านกลางน้ำ เกาะปันหยี ดูการทำงานของกลุ่มแม่บ้านต่าง ๆ ของคนเกาะปันหยี วันถัดไป มีการศึกษาดูงานที่ จ.ภูเก็ต ระหว่างนั้นมีการสัมมนาวิชาการ การรวมกลุ่ม เป็นไปตามระเบียบของทางกองสวัสดิการ ตามอำนาจหน้าที่

          ส่วนการลงเฟซบุ๊กส่วนตัว เจ้าของเฟซบุ๊กอาจจะถ่ายภาพทะเลบ้าง ธรรมชาติบ้าง และมีการเขียนแคปชั่นลงไปก็เป็นข้อมูลของแต่ละคน ส่วนกิจกรรมเป็นไปตามขั้นตอนของเจ้าหน้าที่กองสวัสดิการ

           กลุ่มที่เดินทางไป คือ คณะกรรมการสตรีของแต่ละชุมชน และเป็นพนักงานที่ต้องไปดูแลตามโครงการ เรามี 43 ชุมชน จะมีกลุ่มสตรีในเขตเทศบาลเมืองท่าโขลง ประมาณ 300 คน เราจัดทำเรื่องคุณภาพชีวิตของคน เช่น กลุ่มสตรีที่จะใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ไปหารายได้เสริม ไปเห็นการทำงานจริง ซึ่งคิดว่ากลุ่มสตรีจะมีผลงานเด่น ๆ สร้าง OTOP ขึ้นมา หรือเอาภูมิปัญญาของแต่ละท้องถิ่นมาประยุกต์ใช้ได้ต่อไป

ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่อง 3