เผยภาพรถชาวบ้านในพื้นที่ห่างจากชายแดนไทย-เมียนมา ประมาณ 1 กิโลเมตร ถูกลูกหลงจากกระสุนปืนที่คาดว่ามาจากเครื่องบินรบ MIG 29 - อยากรู้ทำไมล็อกเป้าตรงนี้ ทั้งที่ฐานปฏิบัติการของทหารกะเหรี่ยงก็ไม่ได้อยู่แถวนี้
![ข่าวเครื่องบินรบเมียนมา ข่าวเครื่องบินรบเมียนมา]()
จากกรณีที่ทางกองทัพอากาศเมียนมามีการเปิดฉากโจมตีทิ้งระเบิดคัดบอมบ์ และยิงจรวดบริเวณฐานนอูเกรทะ ต.ซูการี จ.เมียวดี ตรงข้ามบ้านวาเล่ย์ใต้ ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ จ.ตาก อีกครั้ง หลังจากที่เมื่อวานมีการบินรุกล้ำน่านฟ้าไทย ซึ่งทางกองทัพอากาศไทย เผยว่าได้รับคำขอโทษจากทางเมียนมาแล้ว และเข้าใจเพราะนักบินอยู่บนฟ้าคงมองไม่เห็นเขตแดนด้วยสภาพภูมิประเทศ ซึ่งทางกองทัพอากาศไทยได้แจ้งไปยังผู้นำของกองทัพอากาศเมียนมา ผ่านผู้ช่วยทูตทหารอากาศ ว่า ต้องไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก
อ่านข่าว : เครื่องบินเมียนมารุกล้ำอีก - ทอ. ได้รับคำขอโทษแล้ว เห็นใจ อยู่บนฟ้าคงไม่เห็นเขตแดน
อ่านข่าว : เครื่องบินเมียนมารุกล้ำอีก - ทอ. ได้รับคำขอโทษแล้ว เห็นใจ อยู่บนฟ้าคงไม่เห็นเขตแดน
ล่าสุด (1 กรกฎาคม 2565) เฟซบุ๊ก Paskorn Jumlongrach ได้เผยภาพระบุข้อความว่า "เหยื่อกระสุน MiG-29"
โดยเป็นภาพของรถยนต์ที่มีร่องรอยคล้ายกระสุนปืนยิงเข้าบริเวณกระจกและข้างรถพร้อมข้อความอธิบายว่า
ภาพดังกล่าวเกิดเป็นร่องรอยที่ถูกยิงจากเครื่องบินรบ MIG 29 ของเมียนมา
ซึ่งเจ้าของรถได้ทำสวนปาล์มอยู่ห่างจากชายแดนไทย-เมียนมา ราว 1 กิโลเมตร
เล่าว่าได้ยินเสียงเครื่องบินดังอยู่บนฟ้า 3 รอบ ครั้งแรกเฉย ๆ
เพราะอยู่ไกล ครั้งที่ 2 เริ่มบินต่ำและหักเลี้ยวมาในสวนปาล์ม ส่วนครั้งที่
3 บินวนกลับมาและบินต่ำระดับเหนือยอดไม้พร้อมเสียงปืนดังรัว ๆ
มาที่รถที่จอดอยู่ เจ้าของรถอยู่ห่างออกไป 50 เมตร หมอบหลบในสวน
ส่วนลูกน้องอีก 2 คน ต่างวิ่งหนีกันจ้าละหวั่น
เจ้าของเรื่องเล่าอีกว่า
สิ่งที่น่าสนใจคือสวนปาล์มแห่งนี้อยู่ห่างจากชายแดนเป็นกิโลฯ
การจงใจยิงรถนั้นมีเป้าหมายอะไรเพราะฐานปฏิบัติการของทหารกะเหรี่ยงก็ไม่ได้อยู่แถวนี้
ที่สำคัญคือความเสียหายของเจ้าของรถที่ยังไม่มีวี่แววว่าใครจะรับผิดชอบ
"คนใหญ่คนโตในเมืองหลวงอาจมองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ชาวบ้านอยู่ในพื้นที่ไม่ได้คิดอย่างนั้น เพราะเขาต้องนอนฟังเสียงปืนอยู่ทุกวันคืน
"คนใหญ่คนโตในเมืองหลวงอาจมองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ชาวบ้านอยู่ในพื้นที่ไม่ได้คิดอย่างนั้น เพราะเขาต้องนอนฟังเสียงปืนอยู่ทุกวันคืน
ไม่รู้ว่าใครจะตกเป็นเหยื่อหรือตกเป็นเป้าให้กองทัพเมียนมาในวันไหน
แทนที่จะสร้างความอุ่นใจให้ชาวบ้าน กลับยิ่งสร้างความหนาวเหน็บ"


ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Paskorn Jumlongrach