เครื่องบินเมียนมารุกล้ำอีก - ทอ. ได้รับคำขอโทษแล้ว เห็นใจ อยู่บนฟ้าคงไม่เห็นเขตแดน

 

               เมียนมาเปิดฉากโจมตีใกล้ชายแดนไทยอีก ด้านกองทัพอากาศได้รับคำขอโทษแล้ว เหตุผลที่ล้ำน่านฟ้าเพราะสภาพอากาศและภูมิประเทศ เผย เข้าใจ เห็นใจนักบินที่อยู่บนฟ้าคงมองไม่เห็นเขตแดน
            จากกรณีข่าวที่ทหารเมียนมาส่งเครื่องบินรบ  MIG 29 บินล้ำเข้ามาเขตไทยจำนวน 1 ลำ บริเวณบ้านวาเล่ย์ใต้ ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ จ.ตาก ประมาณ 4 - 5 กิโลเมตร ประมาณ 4 รอบ ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่โดยเฉพาะนักเรียนตกใจกับเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น พากันวิ่งหนีลงหลุมหลบภัย ซึ่งโรงเรียนบ้านวาเล่ย์ใต้ ได้ประกาศฉุกเฉินให้หยุดเรียนทันที ซึ่งต่อมา พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ว่า ตอนนี้ประสานไปแล้ว ทางนั้นยอมรับผิดและขอโทษ เขาไม่ได้เจตนา เขาบอกว่า ตีวงเลี้ยวเข้ามาในเขตไทยนิดหน่อย แล้วเครื่องบินเราก็ขึ้นไปเพื่อแจ้งเตือนเขาแล้ว มันเป็นมาตรฐานที่ต้องทำแบบนี้

            อ่านข่าว : นาทีเครื่องบินเมียนมา ยิงกระสุนฝั่งไทยอีก 300 เมตรโดนคน - ประยุทธ์ ลั่น แค่ตีวงเลี้ยว

เมียนมาโจมตีอีกครั้ง ทิ้งระเบิด และยิงจรวดในฐาน จ.เมียวดี ตรงข้ามบ้านวาเล่ย์ใต้ ของไทย - ทอ. ส่ง F16 บินขู่ไม่ให้รุกล้ำอธิปไตย

           ล่าสุด (1 กรกฎาคม 2565) เรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.27 น. เครื่องบินรบ  MIG 29 ของเมียนมาได้บินเข้ามาโจมตีทิ้งระเบิดคัดบอมบ์ และยิงจรวดบริเวณฐานนอูเกรทะ ต.ซูการี จ.เมียวดี ตรงข้ามบ้านวาเล่ย์ใต้ ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ จ.ตาก แล้ว จำนวน 9 เที่ยว โดยกลุ่มกองกำลังกะเหรี่ยง มีการใช้อาวุธปืนต่อสู้อากาศยานยิงต่อสู้เป็นระยะ ๆ

           ตามรายงานข่าวระบุว่า กองทัพอากาศไทยได้ส่งเครื่องบิน F16 พุ่งขึ้นจากสนามบินตาคลี จ.นครสวรรค์ ไป อ.พบพระ จ.ตาก ใช้เวลา 5 นาที และบินวนไป-มา เพื่อสกัดเตือนเครื่องบินรบ  MIG 29 ของเมียนมาที่เปิดปฏิบัติการทางทหารอีกระลอกใหม่ของวันนี้ เพื่อมิให้รุกล้ำอธิปไตยของไทย

ทอ. ชี้ ส่ง F16 ขึ้นบินใน 5 นาทีหลังเรดาร์เตือน - แจ้งผู้นำกองทัพเมียนมาว่าอย่ามีเหตุการณ์แบบนี้อีก

           ขณะที่ เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว รายงานว่า พล.อ.อ. ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ ออกมาระบุว่าผู้ปฏิบัติของกองทัพอากาศมีการปฏิบัติตามขั้นตอน เมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้นและได้รับแจ้งเตือนจากระบบเรดาร์ภาคพื้นมายังศูนย์ยุทธการทางอากาศ นักบินก็พร้อมวิ่งขึ้นภายใน 5 นาที ระยะทางกว่า 100 ไมล์ ประมาณ 10 กว่านาทีจึงถึงเป้าหมาย แต่การไปด้วยเครื่องรบทางอากาศ นักบินก็ต้องระมัดระวัง

           โฆษก ทอ. ชี้ เครื่องบินเมียนมารุกล้ำน่านฟ้าไทยเมื่อวานไม่มีแนวโน้มเป็นภัยคุกคาม เห็นใจนักบิน เขาดูไม่รู้หรอกว่าตรงไหนเป็นชายแดน

           พล.อ.อ. ประภาส เผยถึงเหตุการณ์ที่เครื่องบินรบของเมียนมารุกล้ำเข้ามาเมื่อวานว่าเข้ามาแป๊บเดียวแล้วก็ออกไปในลักษณะการใช้อาวุธโอเวอร์ชูตเข้ามาในพื้นที่ภูมิประเทศที่เป็นภูเขา ต้นไม้ ซึ่งเขาไม่เห็นหรอก เห็นใจนักบินที่อยู่ข้างบน

           "แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขามาบินอยู่แนวชายแดน ในพื้นที่ของเขา ไม่ได้มีกระทบ ไม่ได้มีแนวโน้ม เป็นภัยคุกคามกับเรา ซึ่งก็ต้องเฝ้าดู โดยเหตุที่เกิดขึ้นคาดว่า เป็นลักษณะของการใช้อาวุธ และยกตัวขึ้น และก็บินโอเวอร์ซูตมาในบ้านเรา ซึ่งภูมิประเทศเป็นป่า เป็นเขา ดูไม่รู้หรอกว่าตรงไหน เป็นชายแดน"

           พล.อ.อ. ประภาส ระบุอีกว่า ประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้านมีความสัมพันธ์ที่ดีมาก พูดคุยกันทุกระดับ เจตนาจริง ๆ เขาไม่ได้ต้องการมารุกบ้านเรา ส่วนการวิพากษ์วิจารณ์การปฏิบัติการของกองทัพอากาศไทยว่าทำไมช้านั้น ขอย้ำถ้าเครื่องบินนั้นมีทิศทางความเร็วสูง เป็นเครื่องไฟต์เตอร์ ไม่มีแผนการบิน รับรองได้ว่า เราสกัดกั้นที่ชายแดน ทันที แต่ตรงนี้ไม่ใช่ คนละสถานการณ์กัน ต้องแยกแยะ ไม่ใช่วิเคราะห์รวมกันไปหมด ดังนั้นการวิพากษ์วิจารณ์ต่าง ๆ ขอให้ดูข้อเท็จจริงด้วย และดูผู้ปฏิบัติที่เขามีความเชี่ยวชาญในพื้นที่ ที่เขาดำเนินการอยู่ โดยเฉพาะนักบิน และผู้ที่ควบคุมทางอากาศ ยืนยันว่า ผู้บัญชาการทหารอากาศไม่ได้นิ่งนอนใจ และสั่งการชัดเจนว่าการดำเนินการจะต้องเป็นไปตามความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และได้แจ้งเตือนไปยังผู้นำของกองทัพอากาศเมียนมา ผ่านผู้ช่วยทูตทหารอากาศ ว่า ต้องไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก ขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจ เราพร้อมปกป้องประเทศชาติ เต็มที่

           ผบ.ทอ. ชี้ระบบป้องกันทางอากาศของไทยดีมาก - ได้รับคำขอโทษจากทางเมียนมาแล้ว ชี้สภาพอากาศไม่ดี อาจมองไม่เห็นว่าล้ำน่านฟ้ามาแล้ว

           พล.อ.อ. นภาเดช ธูปะเตมีย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ ระบุถึงกรณีที่กองทัพอากาศถูกวิพากษ์วิจารณ์กรณีเครื่องบินขึ้นช้าว่า ระบบป้องกันทางอากาศของเราดีมาก ไม่ได้อ่อนด้อยอย่างที่หลายคนสงสัย เครื่องบินของเราก็เป็นเครื่องบินที่ดี นักบินก็ดีมีความรู้ความสามารถ และผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพอากาศ ก็มีการตัดสินใจที่ดี

           "บางครั้งไม่ได้วัดกันที่ความรวดเร็ว แต่วัดกันที่ความสุขุม รอบคอบ มีหลัก มีเหตุ มีผล คำนึงถึงสถานการณ์เล็ก และใหญ่ และที่สำคัญ คือการตัดสินใจที่พอเหมาะพอควรกับสถานการณ์"

           พล.อ.อ. นภาเดช ระบุว่า ได้ติดต่อผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพอากาศเมียนมาแล้ว ขอให้กำกับดูและให้การปฏิบัติการอะไรก็แล้วแต่ในเขตแดนของท่าน อย่าได้ล่วงล้ำเข้ามา ซึ่งตนได้รับทราบถึงคำขอโทษแล้ว โดยฝั่งเมียนมาให้เหตุผลว่าสภาพอากาศไม่ดี ซึ่งจะจริงหรือเท็จก็ว่ากันไปก่อน และเป็นการเกิดขึ้นครั้งแรก ที่ผ่านมาเขาก็ระมัดระวัง ประกอบกับภูมิประเทศ คนที่อยู่บนฟ้าอาจมองไม่เห็นว่าล้ำน่านฟ้ามาแล้ว ซึ่งเขตแดนไทย-เมียนมา ไม่ใช่สั้น ๆ

พื้นที่ที่มีการสู้รบของเมียนมาในเขตชายแดนไทย ตรงนั้นแผ่นดินไทยเป็นจะงอยแคบ ๆ ยื่นเข้าไปในฝั่งเมียนมา

           ตามรายงานของเฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว รายงานอีกว่า พล.อ. สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ระบุถึงกรณีดังกล่าวว่าหน่วยงานที่รับผิดชอบได้ดำเนินการตามหน้าที่และขั้นตอนที่ถูกกำหนดไว้ ซึ่งการสู้รบในเมียนมาบริเวณชายแดน สภาพภูมิประเทศตรงนั้นเป็นพื้นที่จะงอยแคบ ๆ ยื่นเข้าไปในฝั่งเมียนมา

           ที่ผ่านมาเมียนมามีการสู้รบอย่างต่อเนื่อง ทางกองทัพและกระทรวงกลาโหมได้เฝ้าติดตามสถานการณ์๋อย่างใกล้ชิดตลอดเวลา เรื่องที่เกิดขึ้นล่าสุดนี้ กองทัพอากาศได้ชี้แจงรายละเอียดชัดเจนหลายรอบแล้ว เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน ที่ผ่านมา แต่สิ่งที่เราต้องกำชับเพิ่มเติมคือมาตรการที่ให้ทุกหน่วยเฝ้าระวังมากขึ้น

           พล.อ. สุพจน์ ระบุว่า เหตุการณ์ความขัดแย้งดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นระหว่างไทยกับเมียนมา แต่เป็นเรื่องภายในของเมียนมาแล้วส่งผลกระทบกับไทย เราจึงต้องประท้วงไปตามขั้นตอนของหน่วยงานทุกระดับชั้น ซึ่งได้ดำเนินการไปแล้ว ทั้งนี้เรามีการเตรียมรับมือผู้หนีภัยสงครามทะลักเข้ามาในไทยอกีอยู่แล้ว เพราะเรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งเดียวในสัปดาห์นี้ แต่เกิดขึ้นมาแล้ว 4-5 ครั้งในรอบปี  โดยเราได้ดำเนินการไปตามมาตรการ และทุกหน่วยได้ปรับการปฏิบัติให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

           เมื่อถามย้ำถึงการประสานงานกับเมียนมาเพื่อไม่ให้รุกล้ำเข้ามาในไทยอีก พล.อ. สุพจน์ กล่าวว่า มีการประสานทุกระดับ และเข้าใจว่ากระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการเรื่องนี้ด้วย ขณะเดียวกันหน่วยงานต่าง ๆ ในระดับพื้นที่ ทั้งระดับกองทัพภาค ระหว่างกองทัพอากาศด้วยกัน และระหว่างทูตกับทูต ทั้งทูตทหาร และทูตปกติ ได้มีการพูดคุยกันชัดเจน