หนุ่มแสนดี ทำหน้าที่ลูกกตัญญูช่วยอาบน้ำให้แม่ทุกวัน
อึ้งแฟนสาวบอกรับไม่ได้ มองสัมพันธ์แม่ลูกเกินเลย งงทำผิดตรงไหน
ด้านโซเชียลสวดยับฝ่ายหญิง
เป็นเรื่องธรรมดาที่ลูก ๆ จะคอยดูแลบุพการี
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามที่พวกท่านอยู่ในสภาพที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
แต่หนุ่มคนหนึ่งไม่คิดเลยว่าการทำหน้าที่ลูกกตัญญูของเขา
จะทำให้ถูกแฟนสาวต่อว่าและแสดงท่าทีรังเกียจ
บอกว่าการที่เขาช่วยอาบน้ำให้แม่นั้นไม่เหมาะสม
แทบจะเหมือนสัมพันธ์ที่เกินเลยระหว่างแม่ลูก
โดยวันที่ 11 กรกฎาคม 2565 เว็บไซต์ ETtoday รายงานว่า ชายวัย 20 ปีรายนี้นำเรื่องกลัดกลุ้มใจของเขามาเผยผ่าน Dcard ชุมชนออนไลน์ของไต้หวัน ชี้ว่าแม่ของเขามีอาการป่วยทางจิตหลังการหย่าร้าง และยังมีอาการอัลไซเมอร์ร่วมด้วย ทำให้เขาต้องคอยดูแลแม่ของตัวเองตั้งแต่อยู่ชั้นมัธยมปลาย จนถึงตอนนี้เขาก็ยังต้องคอยช่วยเปลี่ยนผ้าอ้อมและอาบน้ำให้แม่อยู่ทุกวัน
โดยวันที่ 11 กรกฎาคม 2565 เว็บไซต์ ETtoday รายงานว่า ชายวัย 20 ปีรายนี้นำเรื่องกลัดกลุ้มใจของเขามาเผยผ่าน Dcard ชุมชนออนไลน์ของไต้หวัน ชี้ว่าแม่ของเขามีอาการป่วยทางจิตหลังการหย่าร้าง และยังมีอาการอัลไซเมอร์ร่วมด้วย ทำให้เขาต้องคอยดูแลแม่ของตัวเองตั้งแต่อยู่ชั้นมัธยมปลาย จนถึงตอนนี้เขาก็ยังต้องคอยช่วยเปลี่ยนผ้าอ้อมและอาบน้ำให้แม่อยู่ทุกวัน
คำพูดของแฟนสาวทำให้เขาถึงกับอึ้ง งุนงงว่าสิ่งที่เขาทำนั้นผิดแล้วหรือ และเขาก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไปดี เพราะฝั่งแม่ก็ต้องการคนคอยดูแล แต่ก็กังวลว่าคงไม่ยุติธรรมสำหรับแฟนสาวถ้าเขาจะทำเช่นนี้ต่อไป อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นก็ได้มีชาวเน็ตจำนวนมากเข้ามาร่วมแสดงความเห็น ส่วนใหญ่เห็นพ้องกันว่าสิ่งที่เขาทำอยู่นั้นเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว ถ้าจะมีสักคนที่เป็นปัญหา ก็คือแฟนสาวของเขาเอง
"มองในมุมกลับ ถ้าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับพ่อของแฟนสาว จะยังรู้สึกว่าเป็นเรื่องเกินเลยหรือไม่ ที่เธอจะคอยอาบน้ำและเปลี่ยนผ้าอ้อมให้พ่อตัวเอง"
"แฟนนายคือแย่มาก ปล่อยเธอไปซะ นายเป็นคนดี จะต้องได้เจอผู้หญิงที่ดีเหมือน ๆ กับนายแน่"
"ตอนฉันยังเด็ก พ่อแม่ก็ช่วยอาบน้ำให้ แล้วมันรู้สึกเกินเลยตรงไหน"
ทั้งนี้ คนยังต่อว่าแฟนสาวของชายคนนี้ ที่ขาดความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นและไม่เคารพการกระทำของเขา พร้อมชี้อีกว่า เธอสามารถแนะนำให้เขาดูแลตัวเองได้ก็จริง แต่ไม่ควรมาวิจารณ์เรื่องที่เขาดูแลแม่ว่าเป็นเรื่องไม่เหมาะสม
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก ETtoday