x close

ตำรวจยิงสนั่นในปั๊ม วิสามัญคนร้ายคดีข่มขืนเด็ก ชาวบ้านโวยขับรถมาดี ๆ โดนลูกหลงเกือบดับ


          ตำรวจยิงสนั่นหน้าห้องน้ำปั๊ม วิสามัญผู้ต้องหาคดีข่มขืนเด็ก 2 หมาย ด้านชาวบ้านโวย ขับรถมาบนถนนโดนลูกหลงหวิดดับอีกศพ กระสุนเฉี่ยวหัวไปนิดเดียว


          วันที่ 13 กรกฎาคม 2565 เดลินิวส์ รายงานว่า เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญผู้ต้องหาในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ริมถนนทางหลวง หมายเลข 340 ขาเข้ากรุงเทพฯ หมู่ 5 ต.สามเมือง อ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา เหตุเกิดบริเวณลานจอดรถหน้าห้องน้ำปั๊ม พบรถเก๋งฮอนด้า สีดำ สภาพกระจกข้างและประตูมีรูกระสุนปืนหลายนัด ภายในรถพบศพนายสาทิต อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ร่างกาย เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

          สอบสวนทราบว่า เวลาประมาณ 20.30 น. นายสาทิต ขับรถเข้ามาจอดหน้าห้องน้ำปั๊ม จากนั้นราว 15 นาที มีรถตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.สุพรรณบุรี 2 คัน ติดตามมาเพื่อจับกุม แต่ระหว่างเตรียมแสดงตัวเข้าจับกุม นายสาทิตได้ยิงปืนออกมาจากในรถ 1 นัด ทำให้ตำรวจต่างหลบกระสุน ก่อนยิงสวนเข้าไปในรถ มีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด กระทั่งสิ้นเสียงปืนพบว่าคนร้ายเสียชีวิตแล้ว ตรวจสอบประวัติผู้ตายพบมีหมายจับข้อหา กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี จากบิดามารดา และพาเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเพื่อการอนาจาร


            ต่อมา วันที่ 14 กรกฎาคม เดลินิวส์ รายงานเพิ่มเติมว่า หลังเกิดเหตุวิสามัญ มีผู้เสียหายเข้ามาโวยวายกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แจ้งว่ารถยนต์อีซูซุ ป้ายแดง ถูกกระสุนยิงเข้าประตูฝั่งคนนั่งข้างคนขับ หัวกระสุนทะลุเข้าไปคาอยู่ที่ตัวรถด้านใน ห่างจากจุดที่มีคนนั่งอยู่เพียง 6 เซนติเมตร และเกือบเสียชีวิตจากลูกหลงการวิสามัญครั้งนี้

            นายโทน อายุ 26 ปี เจ้าของรถที่เสียหาย เล่าว่า ตนกับเพื่อนรวม 3 คน นั่งรถกลับจากการทำบุญที่ จ.นครปฐม กำลังเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ ช่วงที่ผ่านจุดเกิดเหตุได้ยินเสียงดังข้างรถ จึงขับเลยไปสักพักเพื่อหาจังหวะจอดดู ก่อนจะพบว่ารถถูกยิง คิดว่าโดนปล้น จึงไปแจ้งตำรวจก็ได้รับข้อมูลว่าลองให้วนมาดูที่จุดนี้ ตอนแรกยังไม่ทราบว่ามีการวิสามัญคนร้าย เพิ่งมารู้จากชาวบ้านที่มุงดูเหตุการณ์


            หลังเกิดเหตุก็ยังไม่รู้ว่ากระสุนนี้มาจากฝั่งไหน จะเป็นของผู้ต้องหาหรือของเจ้าหน้าที่ เบื้องต้นตำรวจบอกว่าต้องนำรถไปผ่าหัวกระสุนพิสูจน์ แต่ตนไม่ยอม เพราะรถเพิ่งออก และไม่อยากเสียเวลา เสียรายได้ที่ต้องใช้รถทำงาน หากกระสุนเป็นของคนตายตนคงไม่ติดใจ แต่ถ้ากระสุนเป็นของตำรวจก็ต้องฟ้องร้องเรียกค่าชดเชยที่ตนเองขาดรายได้ไป ส่วนตัวมองว่า การวิสามัญผู้ต้องหาล่วงละเมิดในเขตชุมชนแบบนี้ ถือเป็นการทำเกินกว่าเหตุไปหรือไม่ หากไม่ใช้รถยนต์แต่เป็นชาวบ้านที่ขี่มอเตอร์ไซค์จะเป็นอย่างไร โชคดีที่ตนและเพื่อนไม่โดนลูกหลงเสียชีวิต

ขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์, เดลินิวส์, ข่าวช่องวัน
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ตำรวจยิงสนั่นในปั๊ม วิสามัญคนร้ายคดีข่มขืนเด็ก ชาวบ้านโวยขับรถมาดี ๆ โดนลูกหลงเกือบดับ อัปเดตล่าสุด 14 กรกฎาคม 2565 เวลา 18:13:29 7,571 อ่าน
TOP