ครูสาวตัดสินใจลาออกจากราชการ หลังทำงานไม่ถึง 3 เดือน ชี้ เอกสารพรากเวลาสอนหนังสือ ไม่มีโอกาสได้เจอเด็ก ไม่มีโอกาสพัฒนาตัวเอง เรื่องนี้เธอคิดได้เพียงแค่เห็นท้องฟ้าในเย็นวันหนึ่ง
วันที่ 18 กรกฎาคม 2565 ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งทำงานเป็นข้าราชการครู มีการโพสต์หนังสือใบลาออก ทั้งที่เพิ่งทำงานไม่ครบ 3 เดือนเต็ม โดยเธอเล่าว่า ช่วงที่เริ่มบรรจุแรก ๆ เวลาทำงานคือออกจากห้องประชุม 4 ทุ่มหลายคืนมาก เพราะโรงเรียนจะมีการประเมิน ต้องเตรียมงานกันอย่างหนัก แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องดี ได้เพื่อน ได้มิตรภาพ ได้ประสบการณ์
กระทั่งเย็นวันหนึ่ง หลังจากที่ประเมินโรงเรียนผ่านไป เธอเลิกงานเร็ว ออกไปที่ระเบียงห้อง 5 โมงเย็น มองท้องฟ้าอย่างสวยงามแบบมีความสุข แล้วจู่ ๆ ก็มีคำถามว่า ทำไมท้องฟ้าของเย็นวันธรรมดาวันหนึ่ง ถึงได้ดูเป็นสิ่งสวยงามขนาดนั้น คำตอบคือ เธอไม่ได้เห็นท้องฟ้าตอนเย็นเป็นเวลาเกือบ 1 เดือน เพราะต้องเตรียมการประเมินโรงเรียน 3 สัปดาห์ เห็นแต่เพดานขาว ๆ เท่านั้น
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
เพียงแค่เห็นท้องฟ้า ก็ทำให้ฉุกคิดได้เรื่องงาน
หลังจากนั้นก็คิดได้ว่า ปกติเธอเป็นคนที่มีงานอดิเรกเยอะมาก ๆ เล่นกีฬา เขียนนิยาย ทำเล็บ วาดรูป ดูหนัง แต่การทำงานข้าราชการครูแค่ 1 เดือน เอาความสุขของเราไปหมดเลย การทำงานหนักไม่ได้ทุกข์ขนาดนั้น แต่มันก็ไม่ใช่ความสุข ดังนั้น เธอจึงอยากใช้ชีวิตให้มีความสุขที่สุดเท่าที่จะมีได้ และงานที่ทำก็ไม่โอเค เป็นงานเอกสารซ้ำซ้อน ไม่พัฒนาครู และช่วงชิงเวลาครูจากนักเรียนอีก
ยาที่ช่วยเยียวยาหัวใจที่สุดคือ การสอนนักเรียน แต่หลายครั้งเกือบจะร้องไห้เพราะไม่ได้สอน กระทั่งช่วงหลัง ๆ ดีใจที่ไม่ได้สอน เพราะเหนื่อยจากงานนอกสะสม สารภาพเลยว่า ไม่เคยเตรียมสอนเพราะไม่มีเวลา เธออยากเป็นครูที่มีเวลาพัฒนาตนเองจริง ๆ เพื่อพัฒนาการสอน พัฒนานักเรียน ไม่ใช่บังคับเธอไปอบรมพร้อม ๆ กับสอนเด็ก มันไม่มีมารยาท
สิ่งที่อยากให้วงการนี้เปลี่ยนแปลงคือ ลดการประเมิน ลดภาระงานเอกสารลง ใช้เทคโนโลยีมากขึ้น ไม่ใช่เสียเวลากับการเขียนมือ เพื่อคืนครูสู่ห้องเรียน แต่การลาออกครั้งนี้ก็มีสิ่งที่เสียดายเหมือนกันคือ สังคมเพื่อนร่วมงานที่ดีกับนักเรียนที่น่ารักมาก ๆ ตลอดเวลา 2 เดือนที่เจอกัน เป็นความทรงจำที่ดีมาก ๆ เลย